จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “New Poompath” โพสต์ข้อความและรูปภาพ “เหตุเกิดที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กำนันหลางถือมีด สารวัตรอางถือปืน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และได้ท้าทายว่า “ไม่มีตำรวจคนไหนกล้าจับกู”

สอบถามตำรวจ นักข่าว ผู้รู้กฎหมายว่า ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอประเทศไทย อยากทราบว่า เหตุการณ์แบบนี้ตำรวจประเทศไทยกล้าจับเขาไหม ฝากช่วยแชร์ไปให้ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติหน่อยว่ามีตำรวจกล้าจับไหมครับ” และในโพสต์ได้โพสต์รูปภาพเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีทั้งคนถือมีด และคนถือปืน

ต่อมายังมีคลิป คนของอดีตกำนันหลาง และนายสำอาง พิลาโทร สารวัตรกำนัน ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี ได้ขับรถยนต์ และรถไถนา จำนวน 3 คัน เข้ามาล้อมรถของกลุ่มผู้เสียหาย คือ นายภูมภัสส์ ภูทองดีประเสริฐ อายุ 22 ปี ให้หยุดการขุดหลุมปักเสาพื้นที่ ทำให้ฝ่ายผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจึงได้โทรศัพท์ให้ นายณัฐพรหม ภูทองดีประเสริฐ ผู้เป็นพ่อให้เอาปืนลูกซองยาวเข้ามาช่วย

หลังจากนั้น นายณัฐพรหม ภูทองดีประเสริฐ อายุ 53 ปี ได้ขับรถยนต์พร้อมอาวุธปืนลูกซองเข้าไปช่วยลูกชาย คือ นายภูมภัสส์ ภูทองดีประเสริฐและลูกสะใภ้ คือ น.ส.น้ำใส ทิพทิม อายุ 23 ปี ในที่เกิดเหตุ ทางกลุ่มอดีตกำนันจึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอ ไว้เป็นหลักฐานบ้าง ก่อนทั้ง 2 ฝ่าย จะมีการโต้เถียงสิทธิที่ทำกินและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการในเรื่องนี้ นั้น

เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ได้พบกับนายณัฐพรหม ภูมิทองดีประสิทธิ์ อายุ 53 ปี ได้แสดงหลักฐานเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดิน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายว่า มีคนขับรถมาและมีอาวุธปืนด้วย

จึงสอบถามว่าอยู่ตรงจุดไหนของสวน ลูกบอกว่าอยู่ตรงทางโค้งภายในสวน ด้วยความเป็นห่วงลูกชายและลูกสะใภ้จะไม่ปลอดภัย จึงได้เอาปืนลูกซองยาวที่อยู่ในบ้านติดรถออกมา เพื่อที่จะช่วยเหลือลูกชายกลับบ้านด้วยความปลอดภัย เมื่อขับรถมาถึงเห็นมีคนหลายคนยืนรายล้อมลูกชายลูกสะใภ้อยู่ในสวน ตนจึงถามว่าเป็นใครทำไมถึงมาทำแบบนี้คุยกันดีๆ ไม่ได้หรือแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ

การที่ถือปืนมาช่วยเหลือลูกชายนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะมาทำร้ายคู่กรณีแต่อย่างใดที่ถือมาเพื่อเป็นการให้รู้ว่ามาช่วยเหลือลูกชายซึ่งรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีอาวุธปืนเช่นกัน และได้สอบถามว่าเป็นใครเมื่อไม่ยอมรับ ตนจึงให้ลูกชายและลูกสะใภ้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย ส่วนที่ดินแปลงนี้มันจบลงแล้วเพราะศาลตัดสินชี้ขาดแล้วว่า ที่ดินเป็นของตัวเองโดยชอบธรรม ซึ่งเป็นที่ดิน ภบท.5 รวมทั้งสิ้น 140 ไร่

ด้านนายภูมภัสส์ ภูทองดีประเสริฐ อายุ 22 ปี ลูกชายนายณัฐพรหม กล่าวว่า ตนกับภรรยาและลูกน้องอีก 2 คน ได้ไปที่ที่ดินดังกล่าว เพื่อฝังเสากันรั้ว ก็มีทางกำนันหลางขับรถเข้ามาหา แล้วถามว่า “ใครให้มึงมาฝังเสา” ตนก็บอกว่าพ่อให้มาฝัง เดี๋ยวแพะ แกะ ออก แล้วกำนันก็พูดว่า “ถ้ากูสั่งให้เมียตายมึงจะตายไหม” ตนก็เงียบ แล้วเค้าก็เอาพวกมา มีรถขับมาปิดหลัง ปิดข้าง 2 คัน

เค้าเอาอาวุธลงมามีทั้งมีดทั้งปืน ตนจึงโทรบอกพ่อให้มาช่วย จากนั้นก็เป็นเหมือนในคลิปก็ทะเลาะกัน แล้วก็ถามว่า “มึงปืนนักเลงหรือปืนทะเบียน” ซึ่งต่อมาก็มีตำรวจเข้ามา รถ 6 คัน มา 10 กว่าคนขอดูทะเบียนปืนตน ตนก็ให้ดู พอตอนขอดูบัตร และขอถ่ายรูปแต่ได้รับการปฏิเสธ พร้อมบอกว่านายสั่งมา ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครสั่งมา เพราะหมายค้นบ้านก็ไม่มี

ด้านพ.ต.อ.มาโนช กันเกลา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูรกบินทร์บุรี กล่าวว่า ในส่วนนี้หลังจากที่ได้รับแจ้งก็ได้ให้พนักงานสอบสวนเร่งและสอบปากคำ แล้วเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุหลังจากนั้นก็มีการสอบปากคำผู้เสียหายกับพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ตามภาพต่างๆ สำหรับเรื่องนี้พยานหลักฐานชัดเจน ถ้าอย่างไรคงต้องมีการดำเนินการคนที่กระทำผิดที่เกี่ยวข้องอาจจะเป็นทั้งสองฝ่ายหรือคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wqeD32TXsvo