ชาวบ้านแม่สามแลบ กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งในเช้าวันนี้ เพราะกองข้าวสาร 700 กระสอบ ของทหารพม่า ถูกส่งกลับ อ.แม่สอด จ.ตากแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำสาละวิน กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านสามารถเดินลงไปท่าเรือได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย

แต่บรรยากาศร้านค้าบ้านแม่สามแลบ ยังคงเงียบเหงา เหลือร้านค้าประจำเพียงไม่กี่ร้าน และบางร้านอพยพไปช้่วคราว จากการเข้ามาของกองข้าวสารปริศนากองนั้น และส่วนใหญ่กระทบมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ปิดการท่องเที่ยว และปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแลบ มาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ปี 2563 จึงต้องย้ำไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ที่นี่ไม่ได้มีการซื้อขายชายแดนมา 1ปีแล้ว ทั้งหมดไม่ใช่การ สร้างเรื่องให้เป็นเรื่อง ของ สื่อ แต่มาจากความต้องการของชาวบ้านที่เป็นห่วงความปลอดภัย และอยากให้รัฐบาล มาแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดให้กับชาวบ้านด้วยการเปิดจุดผ่อนปรนการค้า การท่องเที่ยว และให้เปิดการเดินทางทางเรือด้วย

ส่วนข้าวสารทั้งหมด มีการนำรถบรรทุก 3 คัน มาขนออกไปเมื่อคืนนี้ ตั้งแต่เวลา 23.30 น.ถึง 04.00 น. ในการขนถ่ายสิ่งของ ซึ่งมีแรงงานเพื่อนบ้านมาด้วย 10 คน ชาวบ้านจึงขอให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด และให้มีการเคลื่อนย้ายออกไปด้วยความเรียบร้อย ข่าว 3 มติสอบถามทราบว่า รถบรรทุกสิ่งของกลับไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางไปถึงเมื่อช่วงเช้า โดยนำไปเก็บที่โกดังสินค้าแห่งหนึ่ง ไม่ได้ส่งกลับไปที่เมืองเมียวดี เนื่องจากมีการซื้อขายผ่านพ่อค้าในฝั่งไทยมาแล้ว ตรงกับคำยืนยันของ นายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ระบุว่า ข้าวสารที่ทางทหารพม่าสั่งซื้อมาผ่านขั้นตอนที่ด่านพรมแดนแม่สอด โดยพ่อค้าไทย และประสานนำเข้ามาผ่านคณะกรรมการชายแดน TBC ที่อ.แม่สอด แต่เมื่อมาถึงที่บ้านแม่สามแลบ จุดผ่อนปรนการค้ายังปิด กรมทหารพราน 36 จึงดำเนินการให้พ่อค้านำกลับไปแม่สอด ปัญหานี้จึงคลี่คลายแล้ว

ส่วนการเปิดจุดผ่อนปรนการค้า ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จะมีการประชุมวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเปิดได้ภายในต้นเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากคณะกรรมการโควิดเห็นชอบแล้ว แต่อาจมีเงื่อนไขบางอย่าง และยังต้องติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด จากสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา

โดยเฉพาะรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องที่ อ.สบเมย ริมแม่น้ำสาละวิน อยู่ในความรับผิดชอบของ กองพล ที่ 5 สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ที่ปัจจุบันทหารพม่าได้เข้ามาตั้งฐานกว่า 70 จุด และมีตั้งฐานอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน 14 จุด โดยเฉพาะตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ที่ กองพล 5 KNU วางกำลังเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่

และการปิดเส้นทางส่งเสบียงทำให้ทหารพม่า ต้องประสานเข้าส่งทางประเทศไทย ซึ่งแม้สถานการณ์เรื่องข้าวจะคลี่คลายทาง KNU ต้องตั้งรับอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณีมีการส่งเครื่องบินมาลาดตระเวนในพื้นที่ จนได้ยินมาถึงบ้านแม่สามแลบ และบ้านสบเมย ทำให้ชาวบ้านในฝั่งไทยหวาดกลัวไปด้วย รวมทั้งกรณี KNU ประกาศให้ความคุ้มครองผู้อพยพทางการเมือง ที่มีรายงานเข้ามาอยู่ในพื้นที่ KNU แล้วเกือบ 1 พันคน ทำให้ KNU ต้องเพิ่มการดูแลด้านมนุษยธรรมด้วย

ซึ่งการอพยพลี้ภัยนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางทหารเตรียมการ ตั้งจุดแรกรับ เพื่อคัดกรองโรค ถ้ามาจากการวิตกกังวล ก็จะผลักดันกลับ ถ้าไม่ปลอดภัยจริง จะส่วไปยังพื้นที่พักคอยไม่เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม