สระแก้วหวั่นบานปลาย สั่งอพยพ 4 อำเภอ – ศรีสะเกษแตกฮือ! หนีวิถีกระสุน ปืนใหญ่สนั่นชายแดน

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้นำชุมชนพื้นที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านในพื้นที่อพยพ โดยให้เก็บข้าวของที่จำเป็น ยารักษาโรคประจำตัว เก็บของมีค่า ล็อกประตูบ้านให้ดี ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ใครพร้อมแล้วให้ออกเดินทางด้วยความปลอดภัย

ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ ได้รับข้อความแจ้งเตือนจาก ปภ .ผ่านระบบเซลล์บรอดแคส ตั้งแต่เวลา 7 โมง 40 นาที ระบุว่า เป็นการแจ้งเตือนภัยขั้นรุนแรง / จังหวัดสระแก้ว แจ้งให้ผู้อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อำเภอตาพระยา / โคกสูง / อรัญประเทศ / และคลองหาด อพยพออกจากพื้นที่ชายแดนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือพื้นที่ปลอดภัยที่ราชการกำหนดทันที หรือติดต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และที่ว่าการอำเภอ เพื่อนัดหมายและอพยพ ทั้งนี้ ขอให้เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด"

ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้รับแจ้งอีกครั้ง ในเวลา 9 โมง 40 นาที เน้นย้ำให้ผู้อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อำเภอตาพระยา / โคกสูง / อรัญประเทศ / และคลองหาด อพยพออกจากพื้นที่ชายแดน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือพื้นที่ปลอดภัยที่ราชการกำหนดภายใน 10 โมง ของวันนี้ ทหารบอกว่าอย่าลังเล ขอให้เชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

โดยบรรยากาศที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน อำเภออรัญประเทศ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า ชาวบ้านเริ่มอพยพเด็กและคนชรา ไปยังศูนย์อพยพแล้ว เช่นเดียวกับโรงเรียนในพื้นที่ ได้ติดต่อผู้ปกครองให้มารับนักเรียนกลับบ้าน

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า พร้อมอพยพแต่ขอให้จัดการเขมรให้เด็ดขาด ให้จบไปเลยในครั้งนี้ อย่าปล่อยให้คาราคาซัง ลูกหลานจะได้สบาย แต่ก็มีชาวบ้านบางคนไม่ยอมอพยพ จนกว่าจะได้ยินเสียงปืน เพราะอพยพบ่อย ๆ มันเสียเวลาทำมาหากิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่หมู่บ้านชายแดนฝั่งเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สถานการณ์มีความตึงเครียด ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.30 น. เมื่อมีเสียงปืนใหญ่นัดแรกดังขึ้น ถือเป็นการเริ่มต้นปะทะระหว่างกำลังฝ่ายไทยและกัมพูชา ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วง จนสร้างความแตกตื่นไปทั่วชุมชนชายแดน

เสียงปืนใหญ่ที่สั่นสะเทือนพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านที่ยังหลงเหลือในพื้นที่สีแดง ต่างรีบขับรถอพยพออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้พ้นจากเส้นทางวิถีกระสุน



ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ต้องขับรถตะโกนแจ้งเตือนประชาชนที่ยังตกค้างในหมู่บ้าน พร้อมพาชาวบ้านจำนวนหนึ่งวิ่งหลบเข้าหลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัย

ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ยังอยู่ในพื้นที่เผยว่า หลายคนต้องพึ่งพาญาติมารับออกจากหมู่บ้าน แต่บางครอบครัวไม่สามารถออกมาได้ทัน ทำให้ยังค้างอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ส่วนชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งยังคงปักหลักอยู่ในหมู่บ้านเพราะห่วงบ้านเรือนและทรัพย์สิน แต่ยอมรับว่าหากการปะทะยังไม่ยุติลงในเร็ววันก็คงต้องอพยพตามกันออกไป





รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เผยตำรวจเดินหน้าปฏิบัติการเต็มกำลัง พร้อมระดมอำนวยความสะดวกจราจร-ดูแลทรัพย์สิน หลังชาวบ้านอพยพออกจากแนวชายแดนแล้วกว่า 90% ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ยังดังต่อเนื่อง

พันตำรวจเอก ดนัย รัตนประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณีแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังของจังหวัดศรีสะเกษ ที่ใช้ดูแลประชาชนขณะเกิดเหตุการปะทะกันระหว่างไทยกัมพูชา ว่า สถานการณ์ตอนนี้ตำรวจระดมกำลังอำนวยความสะดวก เรื่องเส้นทางจราจรของประชาชนจากพื้นที่ประสบภัย เข้าสู่ศูนย์พักพิงอพยพหรือพื้นที่ปลอดภัยในเขตอำเภอต่างๆ พร้อมทั้งจัดกำลังดูแลความปลอดภัยทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และศูนย์อพยพ

ช่วง 10 โมงที่ผ่านมา สำรวจแล้วไม่มีประชากรอยู่ในหลุมหลบภัย ประชาชนที่อยู่ในตำบลติดชายแดนอพยพออกมาแล้วประมาณ 90% ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณหมู่บ้านจะมีชรบ.ดูแลอยู่ ส่วนรายงานเหตุเกี่ยวกับทรัพย์สินชาวบ้านตอนนี้ก็ยังไม่มี

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้ตำรวจใน 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังช่วงบ่ายเกิดเหตุ กัมพูชาเปิดฉากยิงบริเวณภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน จนไทยต้องโต้ตอบและมีการปะทะต่อเนื่อง เพราะกองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่า สถานการณ์ยังไม่นิ่ง และอาจขยายวง ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายชาวบ้านทันที

นอกจากนี้ผบ.ตร. สั่ง ตชด. และตำรวจภูธรทั้ง 4 จังหวัดเตรียมพร้อม 100% สนับสนุนกองทัพถ้าถูกเรียกใช้ พร้อมเดินหน้าแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ดูแลความปลอดภัยประชาชน และจัดการจราจรเพื่อไม่ให้การอพยพและยุทธการสะดุด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rz2DASGzUJY