กรณีพบศพผู้หญิงวัย 15 ปี ที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 ในสภาพคล้ายเกิดอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ตกร่องกลางถนน ที่จังหวัดสงขลา ตำรวจไม่เชื่อว่าที่พบเป็นอุบัติเหตุ จึงระดมนักสืบใช้เวลาเพียง 26 ชั่วโมง ตามเเกะรอยจากวงจรปิดเเละวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ จนพบชายต้องสงสัยที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จนจับได้ในวันนี้ 

นายประถม เอียดขาว หรือ บังหมัด วัย 49 ปี ถูกตำรวจสงขลา คุมตัวไปชี้จุดทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนเเละญาติผู้เสียชีวิต เฝ้าสังเกตการณ์อยู่รอบนอก

ที่เกิดเหตุอยู่ในร่องกลางถนนสายเอเชียตัดนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่อำเภอบางกล่ำ เป็นจุดที่พบศพเด็กสาววัย 15 ปี ในสภาพถูกจักรยานยนต์ทับ คล้ายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ใบหน้าปูดบวมคล้ายถูกตีด้วยของเเข็ง 

บังหมัดรับสารภาพ ตั้งใจชนให้ตกร่องกลางถนน ก่อนจะทำร้ายโดยการชกท้อง บังคับขืนใจล่วงละเมิด แล้วชิงเอากระเป๋าสะพาย ได้เงินไป 1,300 บาท จากนั้นใช้เหล็กสำหรับใช้เปลี่ยนล้อรถ ตีที่ใบหน้าหลายครั้งจนเสียชีวิต 

นอกจากนี้ยังรับสารภาพว่า ถอดเสื้อแจ็คเก็ตของผู้ตายเช็ดคราบอสุจิ แล้วเอาไปทิ้งในเขตอำเภอรัตภูมิ ส่วนเหล็กที่ใช้ตี ล้างคราบเลือดแล้วเก็บไว้ในช่องเก็บของหลังเบาะข้างคนขับ ระหว่างคุมตัวกลับขึ้นรถ เกิดเหตุชุลมุนเมื่อญาติพยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ ญาติเรียกร้องให้ประหารชีวิต หลังพบประวัติของบังหมัด เคยก่อเหตุเเบบนี้มาเเล้ว ไม่สำนึกเเละยังกลับมาก่อเหตุซ้ำ

การสืบสวนของตำรวจ พบความเชื่อมโยงจากหลักฐานวงจรปิด เริ่มเเกะรอยตั้งเเต่หน้าบ้าน จุดที่ผู้ตายขี่จักรยานยนต์ออกไปกลางดึก จากวงจรปิดจะเห็นว่า ผู้เสียชีวิตเเวะเติมน้ำมันในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน 13 นาที ถึงเที่ยงคืน 24 นาที เเต่ระหว่างนั้นมีชายคนนี้ คือบังหมัด จอดรถยนต์โตโยต้า โคโลน่า สีบรอนซ์ จอดเติมน้ำมันอยู่ก่อนแล้ว 

บังหมัดตกเป็นผู้สงสัยทันที เมื่อทีมสืบสวนพบว่า รองเท้าที่ใส่เดินลงจากรถ เป็นเเบบเดียวกับที่เจอในที่เกิดเหตุ เเละวัดระยะจากปั๊มมาที่เกิดเหตุ โดยปกติจะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เเต่การตรวจกล้องวงจรปิดตัวถัดไปในห้วง 20 นาที กลับไม่เจอทั้งรถของผู้ตายเเละชายต้องสงสัยขับผ่าน จึงสันนิษฐานว่า เหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นหลังออกจากปั๊ม 

ตำรวจตามแกะรอยไปจนถึงอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ตรวจยึดรถมาตรวจสอบ โดยเก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานต่าง ๆ บังหมัดจำนนด้วยหลักฐาน รับสารภาพต้องการทรัพย์สินเเละเกิดอารมณ์ทางเพศ

ถูกแจ้งข้อหาหนัก ล่วงละเมิดโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ชิงทรัพย์ และฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่น ที่ตนได้กระทำไว้ ปิดฉากการตายปริศนา จากอุบัติเหตุกลายเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง ล่วงละเมิดเเละชิงทรัพย์