เลือกตั้งและการเมือง

ศาลรธน.นัดชี้ชะตา กก. 31 ม.ค.67 ปมเสนอแก้ 112 'พิธา-ชัยธวัช' มั่นใจ ไม่ส่งผลยุบพรรค

25 ธ.ค. 2566

39 views

"ชัยธวัช" ย้ำความมั่นใจ การเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา ม.112 เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีทางนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้



นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคก้าวไกล ขณะที่พรรคเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายหาเสียง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวน ว่า การไต่สวนผ่านไปได้ด้วยดี เราก็ยังมั่นใจ ทั้งด้วยข้อเท็จจริงของกฎหมาย และเจตนาของเรา สามารถชี้ได้ว่าไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง



นายชัยธวัช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางพรรคได้ทำคำชี้แจงมาก่อนแล้วในประเด็นสำคัญ วันนี้เป็นการตอบคำถาม ประเด็นที่ทางตุลาการต้องการซักถามเพิ่มเติม



"เรายังเชื่อมั่นเหมือนเดิมว่า การเสนอร่างกฎหมายในการแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวกับหมิ่นประมาท และ ทุก ๆ กฎหมาย ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างระบบการปกครองได้ เพราะการเสนอร่างกฎหมายใด ๆ มีกระบวนการ ทำงานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นวาระที่ 1, 2 หรือ 3 ซึ่งจะต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ของสภา และยังต้องใช้คณะกรรมาธิการที่จะพิจารณาคัดกรอง เนื้อหา อีกทั้งยังมีกระบวนการการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ร่างกฎหมายผ่านสภาก่อนที่จะประกาศใช้ หรือหลังประกาศใช้ไปแล้วก็สามารถตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้ ด้วยตัวมันเองการเสนอร่างกฎหมายไม่มีทางที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้"



ขณะที่คุณพิธา ก็แสดงความมั่นใจเช่นเดียวกันว่า การกระทำของพรรคไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และก้าวไกลก็ไม่ใช่พรรคแรกที่เสนอแก้ไข ม.112 และช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แคนดิเดตนายกฯจากหลายพรรคก็พูดเรื่องนี้



นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลขณะเสนอร่างกฎหมาย แก้ไขมาตรา 112 ยืนยันความมั่นใจหลังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ โดยบอกว่า การไต่สวนเป็นไปด้วยความราบรื่น พอใจในการแถลงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และ ข้อสงสัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ



"มั่นใจว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ และไม่ใช่พรรคก้าวไกลดำเนินการเป็นพรรคแรก เคยมีกระบวนการโดย คอป. (คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ มี ศ.ดร.คณิต ณ นคร เป็นประธาน) ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผลออกมาในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากนี้การแสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ในช่วงการหาเสียง ก็ไม่ได้มาจากแคนดิเดตนายกฯก้าวไกลพรรคเดียว แต่ยังมาจากแคนดิเดตนายกฯหลายท่าน ยืนยันเป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ได้มีเจตนาหรือการกระทำใดที่จะเป็นการล้มล้างการปกครอง"



นายพิธา ปฏิเสธที่จะประเมินว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ สส. กี่เปอร์เซ็น เพียงแต่บอกว่าพอใจกับการชี้แจง ซึ่งได้ทำเต็มที่แล้ว ไม่ได้มีอะไรต้องการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม โดยจะรอคำพิพากษาทั้ง 2 คำร้องในวันที่ 24 มกราคมและวันที่ 31 มกราคม 2567



ไม่ว่าผลวินิจฉัยคดีโดยศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร (ทั้ง 2 คดี) จะเป็นคุณหรือเป็นโทษ ก็ยังคงทำงานกับพรรคก้าวไกลต่อไป ส่วนหากผลวินิจฉัยเป็นคุณจะได้กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ช่วงเดือนเมษายน 2567 แต่ยืนยันไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง



ส่วนการดำเนินการเรื่อง ม.112 ของพรรคจากนี้ นายพิธา กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ชุดปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ได้มีการหารือกัน ซึ่งการเสนอแก้ไขครั้งก่อนก็เป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ชุดที่แล้ว ซึ่งเห็นว่าบริบทของการเมืองขณะนั้น คือ ปี 2564 มีการใช้ความรุนแรง และมีคดีเกี่ยวกับมาตรา 112 ที่เพิ่มขึ้นจากหลักสิบเป็นหลักร้อย และ มีการดำเนินคดีกับเยาวชน 20 คน /พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าการเสนอแก้กฎหมายเป็นทางสายกลาง และเป็นทางออกทางการเมืองในขณะนั้น และ พื้นที่ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา คือ รัฐสภา



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/P6qLIVDPdfM

คุณอาจสนใจ

Related News