เลือกตั้งและการเมือง

เพจพรรคประชาธิปัตย์ ปิดคอมเมนต์ หลังโดนถล่มปมร่วม รบ. – ‘พลอยทะเล’ มอง 2 พรรคจับมือถือเป็นโอกาส

โดย petchpawee_k

31 ส.ค. 2567

541 views

ต้านไม่ไหว! เพจพรรคประชาธิปัตย์ ปิดคอมเมนต์แล้ว หลังโดนแฟนคลับรุมค้านปมร่วมรัฐบาลเพื่อไทย มองไร้อุดมการณ์ ด้าน “พลอยทะเล”  บก.บห.รุ่นใหม่ มองเป็นโอกาสให้ ปชป. ทำตามนโยบายที่หาเสียง ชี้หากยึดติดกับอดีต คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชน 


วานนี้ ( วันที่ 30 สิงหาคม)  หลังจาก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีมติเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปเมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค. เพจเฟซบุ๊กของพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทุกเสียงสะท้อนของท่านสำคัญกับเราเสมอ

พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของพรรค ทุกความคิดเห็นจะถูกรวบรวมเป็นคำแนะนำ และข้อเสนอ ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

ทำให้ในโพสต์ดังกล่าว มีแฟนคลับพรรคเข้ามาแสดงความเห็นคัดค้าน ไม่พอใจ การร่วมรัฐบาลเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก จนเพจต้องปิดห้ามแสดงความติดเห็น  ทำให้โพสต์ดังกล่าวสามารถสามารถ กดไลค์ แชร์ ได้อย่างเดียว

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยแชทไลน์หลุดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการไล่ลบและรีพอร์ตคอมเมนต์  ซึ่งได้ระบุว่า "คนที่ด่าพรรคส่วนใหญ่ไม่มีตัวตนครับ กำลังทยอย Report ไปทาง Facebook ครับ มะเช้าลบไปเกือบ 300 เมนต์ ครับ ลุย / สู้ๆนะครับ"

-----------------------

ขณะที่ นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ รองโฆษกและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้มองว่า พรรคจะได้มีโอกาสทำงานและสานต่อนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ตามที่ตั้งใจไว้ จากความขัดแย้งในอดีตที่เคยเกิดขึ้นนั้น ทำให้ประชาชนและหลายฝ่ายไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย และคิดว่าไม่เหมาะสม แต่ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารพรรค คิดว่าอยากให้เรื่องนี้ผ่านไป หากเรายังยึดติดอยู่กับอดีตแล้วจะสามารถก้าวข้ามปัจจุบันไปถึงอนาคตได้อย่างไร และในขณะนั้นตนเองก็ไม่ได้มีส่วนร่วมหรือมีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในตอนนั้น แต่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เห็นแล้วว่า การที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรคมีความขัดแย้งกันนั้น บุคคลที่รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เพราะฉะนั้น ณ ตอนนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและบริหารพรรค จึงอยากให้พรรคมีแนวทางใหม่ ๆ หรือการเมืองสมัยใหม่ โดยการทำงานร่วมกันและพัฒนาไปพร้อมกันเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมในครั้งนี้ จึงไม่อยากให้มีการแบ่งแยกอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา

สำหรับการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ชื่อของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ชื่อของพรรคเพื่อไทยด้วย ที่ทำให้ฝ่ายสนับสนุนของแต่ละฝ่ายไม่พอใจในการเข้ามาของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ลดความขัดแย้ง และลดอคติในใจ

ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตส.ส. และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กภายหลังพรรคประชาธิปัตย์มติเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทยว่า "มติการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์คือกุญแจดอกสุดท้ายที่เปิดอนาคตใหม่ให้กับประเทศถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัตศาสตร์การเมืองไทย เพราะเป็นการยุติการต่อสู้ทางการเมืองที่ร้ายแรงที่สุดรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่กินเวลายาวนานถึง 20 ปี

เป็น 2 ทศวรรษแห่งความขัดแย้งที่ต่อสู้กันทั้งในและนอกสภาฯ.แบ่งแยกประชาชนเป็นฝักฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มเสื้อเหลืองและกลุ่มเสื้อแดง นำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐระหว่างเดือนตุลาคมปี 2551-พฤษภาคม 2553 ล้มตายกว่า 100 คนและบาดเจ็บเกือบ 3 พันคนมีการรัฐประหารสูญเสียประชาธิปไตยถึง 2 ครั้งในปี 2549 และปี 2557

นับเป็นบาดแผลความขัดแย้งที่กว้างและลึกที่แม้แต่รัฐบาลในอดีตตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์-พล.อ.ประยุทธ์พยายามสร้างความสมานฉันท์ปรองดองก็ไม่ประสบความสำเร็จและไม่มีใครตอบได้ว่าความขัดแย้งแตกแยกดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเมื่อใด

จนกระทั่งเมื่อมีการร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (พล.อ.ประยุทธ์) และพรรคพลังประชารัฐ (พล.อ.ประวิตร) ภายหลังการเลือกตั้งปี 2566 ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกแรกที่เปิดประตูการร่วมมือข้ามขั้วระหว่าง 2 ฝ่ายเพื่อยุติความขัดแย้ง

ก่อนที่กุญแจดอกสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลผสมข้ามขั้วเมื่อวานนี้  เป็นการสิ้นสุดอดีตที่ขมขื่นและเริ่มต้นวันใหม่ของประเทศ  ผมได้แต่หวังว่า ทุกฝ่ายจะเรียนรู้ความผิดพลาดทางการเมืองในอดีตอย่าให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยเดิม  ด้วยหลักการสำคัญที่สุดคือการยึดมั่นระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและยึดถือหลักนิติธรรมความซื่อสัตย์สุจริต"


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/A7Et9CQUR6c





คุณอาจสนใจ

Related News