เลือกตั้งและการเมือง
การเมืองที่แตกต่าง ย้อนฟัง ‘พรรณิการ์ - จักรภพ’ เทียบวิสัยทัศน์สองพรรค ‘เพื่อไทย-ประชาชน’
โดย nicharee_m
24 ส.ค. 2567
321 views
‘ช่อ พรรณิการ์ - จักรภพ เพ็ญแข’ มองบทบาททางการเมืองของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เผยความแตกต่างทางการเมือง 2 พรรค ‘เพื่อไทย - ประชาชน’
วานนี้ (23 สิงหาคม 67) คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช และคุณจักรภพ เพ็ญแข ได้มาร่วมในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ พูดถึงเรื่องบทบาททางการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร คุณจักรภพบอกว่า ตนเองเข้าใจว่าคุณทักษิณตั้งใจที่จะมาเปิดตัวบนเวทีนี้ คิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาแสดงจุดยืนบางอย่าง เพราะตอนนี้เป้าหมายคือทำอย่างไรให้ประเทศไทยรอด โดยคุณทักษิณอาจจะมองว่าเศรษฐกิจประเทศไทยตอนนี้มันจมหนักมาก และจะทำให้สังคมจมตามไป พอเศรษฐกิจไม่พอมันก็ทำให้คนเครียด มันก็ทำให้เกิดปัญหาอื่นต่อไปได้
ประเด็นต่อจากนี้คือแล้วช่วงไหนคือจังหวะเวลาที่จะออกมาพูด แล้วช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดและคุณทักษิณก็ตั้งใจที่จะฝ่าข้อครหาออกมาเพื่อที่จะขึ้นเวทีในการแสดงความคิดเห็น โดยคุณทักษิณตั้งใจบอกกับสังคมว่าประเทศไทยยังมีทิศทางที่จะ มีความหวัง ซึ่งในการออกมาพูดในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี พลเมืองไทย และเป็นบุคคลที่ห่างจากบ้านยาวนานถึง 17 ปี
ขณะที่สังคมมองว่าคุณทักษิณอาจจะมาครอบงำลูกสาวหรือไม่ โดยคุณจักรภพ มองว่า เรื่องแบบนี้มันอาจจะเป็นเรื่องที่ชาชินไปแล้ว ออกไปก็โดนด่า ไม่ออกไปก็โดนด่าอยู่ดี แล้วไปเอาผลที่มันใหญ่กว่าแล้วคุ้มค่ากว่า เรียกความเชื่อมั่นให้รู้ว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนตรงไหนเพื่อที่จะสู้กันในทางการเมือง ที่สำคัญคือประชาชนต้องรู้ว่าใครจะพาตัวเองไป
ขณะที่คุณพรรณิการ์บอกว่าสิ่งที่คุณทักษิณออกมาในช่วงเวลานี้ งานนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาวันสองวัน และมองว่าอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกสาวเลยที่มามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะงานนี้จะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าไว้ก่อนอยู่แล้ว ซึ่งคุณทักษิณตั้งใจว่าเวทีนี้จะเป็นเวทีที่เปิดตัวจากการพ้นโทษ และเข้าสู่วงการการเมืองอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ช่วงเวลามันประจวบเหมาะกับการโปรดเกล้าแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของคุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีพอดี และเป็นช่วงที่เกิดสุญญากาศทางการเมืองเบาๆ เกิดขึ้น
ตอนนี้ก็กลายเป็นทางสองแพ่ง หนึ่งคุณทักษิณจำเป็นที่ต้องออกหน้าเพราะไม่งั้นจะเอาสถานการณ์ประเทศไทยไม่อยู่ ทั้งเรื่องการเมืองเรื่องเศรษฐกิจเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศ แพ่งที่ที่สองคืออยากเห็นคุณอุ๊งอิ๊งค์ เป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ ที่เป็นลูกของคุณทักษิณ ชินวัตร แต่ตนเองมองว่าตอนนี้คุณแพทองธารกำลังเลือกทางที่หนึ่งที่ให้คุณทักษิณเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งตนเองก็อยากเห็นว่าคุณอุ๊งอิ๊งค์จะเดินด้วยลำแข้งของตนเองได้
ขณะที่คุณจักรภพ ระบุว่า ตอนนี้เราคงยังพูดอะไรมากไม่ได้เพราะว่าคุณอุ๊งอิ๊งค์ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตนเองยังเชื่อว่านายกรัฐมนตรีในประเทศประเทศไทยทุกคนไม่ได้บริหารประเทศด้วยคนเดียว เขาอาจจะมีคณะรัฐมนตรี เค้าอาจจะมีที่ปรึกษาที่เค้าไม่ได้บอกว่าเค้าปรึกษาใคร ตนเองยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่แสดงให้เห็นว่า คุณอุ๊งอิ๊งค์แสดงมาเลยว่ามีใครเป็นที่ปรึกษาอยู่ แต่ว่าไม่ใช่ว่าจมปลักกับอดีต แต่ว่าอดีตมันก็กลายเป็นอนาคตได้เหมือนกัน ใครบอกว่าอดีตไม่มีประโยชน์แล้วเราจะเรียนประวัติศาสตร์ไปทำไม และตัวอดีตนี่แหละคือตัวชี้ถึงอนาคต
ซึ่งในปัจจุบันถ้าเราบอกว่าเด็กในยุคนี้เข้า Google ได้เร็วกว่าควรจะเป็นผู้นำศัพท์สังคมแล้ว เราจะเอาคนแก่ไปถ่วงน้ำกันทั้งหมดเลยหรือไม่ แต่ต้องหาทางให้มาอยู่ร่วมกันให้ได้ แต่ก็ก็คงจะต้องสลับบทบาทกันไป การฟังก็ต้องมีมากขึ้น
ขณะที่คุณพรรณิการ์ ระบุว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะจับคนแก่ไปถ่วงน้ำ แต่คนใหม่ถูกกดอยู่ในน้ำไม่ให้เกิดเกิดขึ้น ทั้งที่เขารู้สึกว่าเขามีศักยภาพเหมือนกัน ตนเองไม่ได้พูดถึงในวงการการเมือง แต่หมายถึงทุกวงการ โอกาสที่เท่าเทียมกันระหว่างนักการเมือง ซึ่งในปัจจุบันเปรียบเสมือนคุณทักษิณกำลังหาตัวแทนเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วให้ฟังแนวคิดนโยบายจากตนเอง
ขณะที่คุณจักรภพบอกว่า ผู้นำทางการเมืองพอมีอะไรที่ไม่ชัดเช่นมีที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรห่างกันไม่ถึง 10 ที่นั่ง เขาจะต้องทำอะไรต่อนั่งเฉย จะรอให้ใครมาทำให้ชัด ซึ่งตัวเค้าก็ต้องทำให้ชัด ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับจำนวนที่นั่งในสภา ซึ่งหลังจากนี้ก็ก็คงจะต้องเป็นเรื่องของการต่อสู้ในเชิงนโยบายในการต่อสู้ในสนามการเลือกตั้งหน้า
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7vNMB00m2WQ