เลือกตั้งและการเมือง

กทม.เปิดบ้านต้อนรับ 'เศรษฐา' ประชุมขับเคลื่อนพัฒนากรุงเทพมหานคร

โดย weerawit_c

24 ก.พ. 2567

6 views

วานนี้ (23 ก.พ.67)  เวลา 09.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเดินทางมาเยือนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งประชุมติดตามเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร


นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ได้แถลงเรื่อง 8 วิสัยทัศน์ของประเทศไทยไปแล้ว  ซึ่งหลายข้อเกี่ยวข้องกับทางกรุงเทพมหานคร  แม้เราจะพยายามกระจายความเจริญไปสู่จังหวัดต่าง ๆ แต่กรุงเทพมหานครก็ยังเปรียบเสมือนประเทศไทยขนาดเล็ก  ดีใจที่ได้มาเยือนกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกและได้ทราบถึงวิสัยทัศน์  ตลอดจนแผนงานที่กรุงเทพมหานครมี ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งนโยบายหลายเรื่องก็ล้อไปกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยและล้อไปกับนโยบายของรัฐบาลด้วย


ประเด็นที่ฝากท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไว้ คือ ท่านทำงาน ทำอะไรดี ๆ ไว้มาก แต่บางทีอาจจะมีการสื่อสารน้อยไปสักนิด จึงอยากให้มีการสื่อสารให้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงการแถลงผลงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสื่อสารเพื่อให้ทราบการทำงานว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์จากข่าวสารต่าง ๆ  ทางรัฐบาล โดยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการประสานงานใกล้ชิดกับทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว  และจะมีการทำงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมรับนโยบายจากทาง กทม.ไปช่วยขยายผลต่อไป ยกตัวอย่างเช่น สัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงเทพมหานครประกาศ Work from Home (WFH) ทำให้รถยนต์มีจำนวนน้อยลง 8-9% หากมีการประสานที่ดีกับทางรัฐบาล เราก็จะประกาศพร้อมกัน อาจจะเป็นการประกาศให้หน่วยงานราชการ WFH สอดรับกันไป ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายหน่วยงานต่างก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เพียงแต่ทำให้มีการประสานงานดีขึ้น เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นด้วย


จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเดี๋ยวนี้มีการทำรูปลักษณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่หลากหลาย เช่น ทำเป็นกล่องนม ทำให้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มเด็ก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควร ในเรื่องของการนำเข้า ทางศุลกากรจะต้องเข้มงวดในการตรวจค้นให้มากยิ่งขึ้น


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องฝุ่น PM2.5 ด้วยว่า เรื่องฝุ่น ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ กทม. ด้วย ปัญหาฝุ่นมีทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้ทราบได้เลยว่าปริมาณลดลงไปอย่างชัดเจน ท่านผู้ว่าฯ ก็มาได้เกือบ 2 ปีแล้ว และได้ทำอะไรดี ๆ ไว้หลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่จนไปถึงเรื่องนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-ไส้กรอง โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อลด PM2.5 จากภาคการจราจร  รวมทั้งมีการออกนโยบายนำรถอัดฟางมาใช้ในพื้นที่เกษตรกรรมในกรุงเทพฯ เช่น เขตหนองจอก เพื่อลดการเผา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากรุงเทพมหานครใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด


“ปัญหาฝุ่นเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว มีในเรื่องของโครงสร้างอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง วันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเองมีการจดทะเบียนกว่า 10% แล้ว ปลายปีที่แล้วก็มีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 40% ปัญหาของฝุ่นที่เกิดขึ้นในกทม. ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการใช้รถประมาณ 50% หากเราสามารถให้คนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นได้ ก็จะเป็นการดี การขนส่งต่าง ๆ ที่ต้องมีการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ การย้ายท่าเรือคลองเตยที่ท่านผู้ว่าฯ เสนอมา ทางรัฐบาลเองก็ต้องไปพูดคุยว่าท่าเรือคลองเตยจะต้องมีการย้ายหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีการย้าย ก็จะยังมีการบรรทุกของต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เยอะ ซึ่งทำให้เกิดปัญหา PM2.5 ยืนยันว่าทางรัฐบาลและกทม.ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่  แต่ถ้าจะให้ปัญหาเป็นศูนย์เลยในระยะเวลานี้เลย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นธรรมกับทางท่านผู้ว่าฯ เท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าท่านได้พยายามทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีความจริงจัง จริงใจอยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ต้องวิเคราะห์ให้ได้อย่างแท้จริง เพื่อจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ที่ผ่านมาเราดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น เช่น การตรวจไซต์งานก่อสร้าง แต่เรื่องรถยนต์ หากเราห้ามรถยนต์วิ่งในกรุงเทพฯ จะช่วยเรื่องฝุ่น PM 2.5 หรือไม่นั้น ตรงนี้ต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ เพราะที่ผ่านมาในโซนเขตมีนบุรี หนองจอก ฝุ่น PM 2.5 สูงมาก แต่เป็นเขตที่มีปริมาณรถยนต์น้อย แสดงว่าฝุ่นอาจจะมาจากนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นการออกมาตรการต่างๆ ต้องมีการคิดอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนจำนวนมาก ทั้งนี้ กทม. ได้มีการหารือกับกรมการขนส่งทางบก วางแผนระยะยาวในการลดจำนวนรถยนต์เก่าลง แต่คงต้องออกเป็นรูปแบบกฎหมายและค่อยๆ พัฒนาอย่างรอบคอบ


“เรื่องท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติอยู่แล้วตั้งปี 2562 เป็นเรื่องที่ต้องมาทบทวนกันว่าเวิร์กหรือไม่เวิร์กอย่างไร แต่เห็นตัวอย่างจากทั่วโลก เช่น ลอนดอน ท่าเรือที่อยู่ในเมืองเขาย้ายออกข้างนอกหมด ซึ่งจะมีผลในการควบคุมน้ำทะเลที่หนุนสูงด้วย หากท่าเรือยังมีเรือใหญ่เข้า-ออกแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ตลอดเราจะควบคุมได้อย่างไร ก็คงมีหลายปัจจัย ซึ่งท่านนายกฯ ก็คงให้ศึกษารายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่ง”  


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงปัญหาการจราจรใน กทม. ว่า หัวใจของการแก้รถติดไม่ใช่การทำถนนเพิ่ม แต่หัวใจคือ การทำขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลได้ทำเส้นเลือดใหญ่จำนวนมากแล้ว มีรถไฟฟ้าต่าง ๆ สายสีส้ม สีเหลือง สีชมพู สีม่วงใต้ ซึ่งเป็นการทำต่อเนื่องกันมาหลายรัฐบาล แต่ปัญหา คือ ระบบ Feeder ที่จะทำให้คนออกจากบ้านมาถึงรถไฟฟ้าได้ ซึ่งทาง กทม.พยายามดำเนินการอยู่ โดยทำทางเดินเท้าเพื่อให้คนสามารถเดินสะดวก ภายใน 4 ปี เราตั้งเป้าทำทางเดินเท้าให้ดีขึ้นอย่างน้อย 1,700 กิโลเมตร เพื่อเป็น First Mile/Last Mile ที่เชื่อมโยงระบบการเดินทางจากบ้าน รถในซอย รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสาธารณะต่าง ๆ ตลอดจนโครงสร้างหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะแก้ปัญหาในระยะยาว รวมทั้งระเบียบวินัยจราจร  โดย กทม.ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับเรื่องไฟจราจร (ไฟเขียว-ไฟแดง) ให้มีความเป็นอัตโนมัติมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องทำกำลังดำเนินการอยู่ และคาดว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้เป็นต้นไป


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงทิศทางการพัฒนาในอนาคตของ กทม. ที่อยากเห็น ว่า การพัฒนาใน กทม. มีหลายมิติ ทั้งเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย การจราจร PM2.5 ความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งต้องให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม โดยจุดมุ่งหมายในการพัฒนาคือทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลและกรุงเทพมหานครมีการคุยกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ


เมื่อถามถึงการทำงานกับผู้ว่า กทม.จะไม่มีความขัดแย้งกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ผมเชื่อว่าท่านดูจากภาษากาย ท่านคงทราบว่าไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ท่านผู้ว่าฯเชิญผมมา ผมก็ยินดี ที่มาและขอขอบคุณด้วย ซึ่งเราเองมีการคุยกันตลอดเวลา ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเจอกัน 5-6 คน พูดคุยกันตลอดเวลา ยกหูสายตรงได้ตลอด เรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นเลย และไม่เคยมีด้วย"


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/2Fda6fFEclg

คุณอาจสนใจ

Related News