'เศรษฐา' ลั่น 10 พ.ย. รู้ทุกเรื่องปมเงินดิจิทัล - ไม่แปลกใจผลโพล อยากให้แก้ปากท้อง ยันทำอยู่ ทำแล้ว และจะทำอีก

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ขณะเดินพบปะสื่อมวลชนบนรถไฟ ถึงความชัดเจนเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ จะรู้เรื่องหมดทุกอย่าง ทั้งที่มาที่ไปและรายละเอียด รวมถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ทั้งนี้ยอมรับว่าเรื่องเงินดิจิทัลอาจจะมีความเห็นต่างบ้าง แต่ก็จะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนจะเท่าไหร่นั้นก็จะจะต้องมีการพูดคุยกัน ยืนยันพร้อมรับฟังทุกความเห็น


เมื่อถามว่า นโยบายนี้เป็นจุดเดิมพันของรัฐบาลได้เคยหาเสียงไว้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ขอให้ประชาชนตัดสิน เพราะก็มีหลายนโยบายที่สำคัญเหมือนกัน อย่างเช่นโพลสำรวจของสื่อมวลชน ก็มีการสะท้อนถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นเงินดิจิทัลจึงเป็นเรื่องสำคัญ รองลงมาคือเรื่องหนี้สินครัวเรือน ซึ่งเมื่อวานก็ได้เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือ โดยทุกเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องเดิมพันทั้งหมด และเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรคก็เป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมอีอีซี


ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ย้ำว่า จะทำเงินดิจิทัลอย่างจริงจังแน่นอน และขณะนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังก็กำลังดำเนินการอยู่ พร้อมกับประสานกับทุกฝ่าย และขณะนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียม ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทยก็บอกว่าไม่ได้ติดอะไร เพียงแต่ได้เตือนให้ระวังไว้ในเรื่องนี้ พร้อมกับแนะนำให้จะต้องมองผลกระทบระยะยาว ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเชิงบวกอย่างไร ทั้งที่สื่อและผู้ใหญ่หลายคนเตือน ก็รับฟังทุกฝ่าย


ที่บอกว่าพูดจาไม่รู้เรื่องนั้นมันไม่ใช่ กระบวนการแต่ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการมีเตือนมาตนก็ฟัง เวลาแถลงก็จะแถลงได้ครบทั้งหมด มีคำถามอะไรก็จะได้ตอบได้ พร้อมย้ำว่าเห็นใจรัฐมนตรีช่วยคลังที่ทำงานหนักมาก ที่ต้องประสานกับทุกภาคส่วน เรื่องกกต. เรื่องทำนโยบายก็ด้วย


ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนเรื่องนี้ เดินหน้าก็ต้องระวังถอยหลังก็ไม่ได้ นายเศรษฐา ระบุว่า หากพูดอย่างงั้นแสดงว่าผมมีความคิดจะถอย แต่ไม่ได้คิดจะถอยหลังเลย เพราะฉะนั้นต้องทำต่อไปอย่างดีที่สุดและถูกต้องตามกฎหมายด้วย และต้องทำให้แน่ใจว่าสาธารณะชนเข้าใจ ไม่มีที่ให้สังคมต้องสงสัย


นายเศรษฐา ยืนยันว่า จะใช้แอปเป๋าตังมาร่วมด้วย โดยหวังให้ประชาชนใช้นโยบายนี้ได้อย่างสบายใจ และไม่เห็นด้วยที่จะให้เป็นเงินสด เพราะหากเบิกไปไปใช้ในเมืองใหญ่ที่เศรษฐกิจดีอยู่แล้ว ไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลต้องการให้เมืองเล็กได้เติบโต หน้าที่รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกภาคส่วนก่อนจะตัดสินว่าอย่างใดเกิดประโยชน์ที่สุด ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ทำหรือไม่รับฟังหรือดื้อที่จะทำ


แต่ก็ยอมรับว่าที่พูดคุย ระหว่างผู้ใหญ่ อาจจะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า GDP ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโตเฉลี่ยแค่ 1.8 % เวลาที่จะต้องแก้ไขปัญหาทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น พร้อมกับยืนยันเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารราชการแผ่นดินและไม่ให้สังคมมีข้อกังขา ย้ำจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งหลายเรื่องก็ต้องพยามทำไป


ก่อนจะทิ้งท้ายว่า เข้ามาทำงานตรงนี้ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เพราะอาสาเข้ามาทำจะต้องทำแม้เหนื่อยก็สามารถพักได้ และก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบคำถามชี้แจงต่อสื่อมวลชน


นอกจากนี้ นายเศรษฐา กล่าวถึงผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่ผ่านโพลสื่อมวลชนบางสำนัก สะท้อนปัญหาของประชาชน อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าน้ำ ค่าไฟเป็นลำดับหนึ่ง ขณะที่ปัญหาการเมือง อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า


ผลสำรวจแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง คือ เศรษฐกิจและเรื่องการเมือง โดยข้อเสนอเรื่องการลดค่าน้ำ ค่าไฟรวมถึงค่าน้ำมัน รัฐบาลได้ดำเนินการจัดการแล้ว เราจะทำอยู่ และจะทำอีก แต่เรื่องที่ใหญ่กว่านั้น คือปัญหาหนี้สิน โดยตนได้ประชุมเรื่องนี้เบื้องต้นไปแล้วกับฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง และฝ่ายปกครอง โดยจะมีมาตรการเรื่องนี้ออกมาในเร็ว ๆ นี้


ขณะที่โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็จะเป็นอีกมาตรการหนึ่ง รวมถึงผลักดันให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างงาน และห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ธุรกิจในประเทศไทยเบ่งบานขึ้นได้


นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนข้อเสนออยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางในการจัดทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ได้เขียนไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้อย่างชัดเจนแล้ว โดยพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โพลที่ออกมา ไม่ได้เป็นที่แปลกใจ เราทำงานอย่างเต็มที่


ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ยังจะต้องทำควบคู่ไปกับเรื่องของปัญหาการเมืองหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า บางเรื่องที่คนพูดน้อยไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ เช่น เรื่องของสมรสเท่าเทียม รวมถึงสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพ สิ่งเหล่านี้ต้องยกระดับขึ้นมา ขอย้ำว่าต้องทำไปพร้อมกันทุกอย่าง

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/2W5fJP6jHzA