เลือกตั้งและการเมือง

“สมชาย-ชาญชัย-อ.เจษฎ์” ยื่น ป.ป.ช. ส่งศาลฯ ถอดถอนครม. “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” เอางบใช้หนี้มาแจกเงินหมื่น

โดย JitrarutP

25 เม.ย. 2568

659 views

“สมชาย-ชาญชัย-อ.เจษฎ์” แท็กทีมเครือข่ายยื่น ป.ป.ช. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนครม. “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” รวมถึง สส.- สว ชุดปัจจุบัน กระทำผิดปรับงบประมาณปี 2568 ส่วนใช้หนี้มาแจกเงินหมื่น พร้อมชดใช้เงินภายใน 20 ปี มั่นใจพยานหลักฐานแน่น

25 เม.ย. 2568 ที่ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. , นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษา กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ นักเคลื่อนไหว หรือ ทนายนกเขา ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เป็นความปรากฏต่อป.ป.ช. ว่าด้วยการกระทำผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา144 ที่บัญญัติไว้ว่า ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568

โดยนายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ที่มายื่น เป็นเรื่องที่เราพบการกระทำความผิดของครม. และกรรมาธิการงบประมาณของสส.และสว. มีการกระทำความผิดในรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งต้องห้ามไม่ให้ไปตัดงบประมาณ เกี่ยวกับเรื่องของการให้เงินกู้ที่กฎหมายมีการบังคับเอาไว้ประเด็นแรก พบปรากฏว่าได้ผ่านวาระ1 เข้าไปแล้ว แต่ต่อครม.ได้มีมติตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ที่มีการให้ไปกู้ตามมาตรา 28 ซึ่งเอามาใช้ในกิจกรรม และต้องชดใช้ดอกเบี้ยพร้อมเงินกู้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้แตะต้องเงินงบประมาณดังกล่าว

ประเด็นที่2 กรรมาธิการงบก็รู้ มีการพูดกันอยู่ในการประชุมครั้งที่ 38 มีการถกเถียงกันถึงมาตรา 144 แต่ต่อมาก็ให้ผ่านงบ ซึ่งในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ให้สส.และสว.ถอดถอนงบประมาณนี้ และยังเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญปี60 ระบุไว้ว่าแม้แต่ครม.รู้ว่ามีการกระทำแต่ไม่ยับยั้งก็ให้ถอดถอนครม.ทั้งคณะ และยังเป็นครั้งแรกที่ให้อำนาจป.ป.ช.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อถอดถอนครม. สส. และสว. หากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีมูล อีกทั้งให้เรียกเก็บเงินทั้งหมดที่เอาไปทำเสียหายคืนแก่แผ่นดินภายใน 20 ปี ทั้งหมดนี้จึงมายื่นให้ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อไป

ด้านนายเจษฎ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าป.ป.ช.เห็นว่ามีมูล ก็ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แล้วศาลก็จะเป็นผู้วินิจฉัย ดังนั้นภาระของป.ป.ช.ไม่ได้ถึงต้องตัดสินเรื่องนี้เลย แต่ถ้ามีมูลก็ต้องดำเนินการโดยพลัน ซึ่งการ ดำเนินการของ ป.ป ช.คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน ส่วน ถ้าส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้วศาลมีเวลา 15 วัน

ทั้งนี้ นายเจษฎ์ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่าความผิดนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ครม. ชุดของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และการกระทำดังกล่าวยังผลต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แยกเป็น 2 ประเด็น 1.การใช้งบประมาณที่ผิด 2. ได้มีโอกาสเข้าไปใช้งบประมาณ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ส่วนสส. ก็จะเป็นสส.ชุดปัจจุบัน รวมถึงสว.ก็เป็นชุดปัจจุบันด้วยเช่นกัน

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าพยานหลักฐานที่ยื่นไปจะสามารถเอาผิดได้ นายสมชาย กล่าวว่า ข้อมูลนี้เราศึกษากันมา 5-6 เดือน แล้วเรามีรายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการต่างๆ มีมติคณะรัฐมนตรี ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ แต่ตนและนายเจษฎ์ ก็เป็นกรรมาธิการในพ.ร.บ. ป.ป.ช. ซึ่งเห็นแล้วว่าการใช้งบประมาณผิดประเภท เป็นเรื่องผิดและเคยตักเตือนมาแล้วว่าขัดรัฐธรรมนูญ จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดได้ แต่ต้องให้ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย และคิดว่าเรื่องนี้จะช่วยแก้ปัญหาประเทศเพื่อไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ เพราะตอนนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณางบประมาณปี 2569 และการแจกเงินในดิจิตอลวอลเล็ตก็จะมีขึ้นอีก ทั้งที่ประเทศกำลังจะล้มละลายอยู่แล้ว จึงหวังว่าจะทำให้เรื่องนี้หยุดและทำให้ถูกต้อง ส่วนที่ทำผิดไปแล้วก็ต้องรับผิด ส่วนมองว่าจะเป็นการล้างไพ่หรือไม่ตนเองมองว่า คนทำผิดก็ต้องรับผิดแค่นั้น

ทั้งนี้หาก ป.ป.ช.ไม่ยอมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ จะขอรอดูก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News