เลือกตั้งและการเมือง

'ปิยบุตร' ลั่นเวลาของผมหมดลงแล้ว ตัดพ้อโดนทัวร์ลง จากนี้ขอไม่พูดเรื่องการเมือง

โดย thichaphat_d

23 ก.ย. 2566

50 views

วานนี้ (22 กันยายน 2566) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป กว่า 1 ชั่วโมง 12 นาที

ในช่วงท้าย นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจนางสาวพรรณิการ์ รวมถึงนักการเมืองที่โดนเรื่องนี้ อะไรที่ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไม่ควรโดนเป็นลูกระนาดแบบนี้

“ต้องให้กำลังใจคุณพรรณิการ์ด้วย ผมเองก็ยอมรับตรงไปตรงมาว่าอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย เป็นจิตสำนึกส่วนบุคคลของผมเล็กน้อย ทุกท่านก็คงจะทราบ เพราะคุณช่อก็เคยเล่าอยู่ ว่าผมเป็นคนไปชวนคุณพรรณิการ์ให้มาร่วมกันก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน ขอให้เขามาเป็นโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ช่วงประชุมพรรคอนาคตใหม่ คุณช่อก็จะนั่งติดกับผม พอคุณช่อโดนลงโทษแบบนี้ ผมก็เสียใจและมีความรู้สึกว่านึกย้อนไปเหมือนกันว่า ถ้าวันนั้นผมไม่ชักชวนกันมา คุณช่ออาจจะเป็นผู้ประกาศข่าวที่มีชื่อเสียง และผลงานเป็นที่นิยมชมชอบของคนจำนวนมาก แต่วันนั้นคุณช่อเด็ดขาดมาก ผมชวนปุ๊บก็ตัดสินใจมาร่วมเดินทางด้วยกัน เพราะเราเห็นว่าเราต้องการมีพรรคการเมือง เพื่อต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ได้ หากไม่ชวนมาการแสดงออกของคุณชอบมา 6 ปีที่แล้ว ก็คงไม่โดนขุด มันเกิดจากบทบาทการเป็นผู้แทนราษฎร เกิดจากฝ่ายอนุรักษ์ฝ่ายความมั่นคงรู้สึกระแวดระวังกังวลใจกับพรรคอนาคตใหม่”

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าชีวิตเขาคงไปได้ดี คงไม่มาถูกใครชอบหรือชัง ยอมรับว่าอินกับเรื่องนี้มาก ถือเป็นจิตสำนึกส่วนบุคคล ไม่เช่นนั้น นางสาวพรรณิการ์ไม่ต้องมาถูกสังคมนินทาใส่ร้าย ไม่มีคดีความติดตัว แต่ก็ต้องชื่นชนที่นางสาวพรรณิการ์ มีใจที่เด็ดขาดตั้งใจมาร่วมทำงานหวังเปลี่ยนแปลงประเทศร่วมกัน ต้องให้กำลังใจ และก็เสียดายแทนประเทศไทยที่ต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถไป

นายปิยบุตร ยังกล่าวว่า กรณีที่ตนวิจารณ์พรรคก้าวไกล ว่าแสดงออกเรื่องดังกล่าวช้าไปนั้น ต้องยอมรับว่าตนอินกับเรื่องนี้มาก และคาดหวังว่าพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองที่มีจุดยืดกับเรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ การใช้นิติสงครามในการประหารกัน และน.ส.พรรณิการ์ ก็เป็นผู้เริ่มต้นก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และยังเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกลอีกด้วย ตนจึงตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างตรงไปตรงมา และตนทราบดีว่ามีคนไม่เห็นด้วย และวิจารณ์กลับมาจำนวนมาก

“บ้างก็ว่าผมใจร้อน บ้างก็ว่าทำไมไม่ดูไลน์กลุ่ม ทำไมไม่ส่งไลน์กันภายใน ทำไมต้องมาพูดข้างนอก ตกลงแล้วผมหวังดีกับพรรคหรือเปล่า ผมเรียนว่าที่ท่านวิพากษ์วิจารณ์ผมมาทั้งหมด ผมอ่านหมด และน้อมรับเป็นธรรมดาที่บุคคลสาธารณะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องปกติ บางคนก็บอกให้ผมไปคุยกับสส.เงียบๆ ให้ยกหูหา แต่คำถามคือในทางกฎหมาย ผมถูกห้ามอยู่แล้วในเรืองการครอบงำ และในทางความเป็นจริงผมไม่มี โอกาสเข้าไปแนะนำ แนะแนวอะไรในพรรคก้าวไกล เว้นแต่จะเจอสส.ในชีวิตประจำวัน หากมีอะไรก็พูดคุยกัน แต่ผมไม่ได้เข้าไปสั่งสอน หรือให้คำปรึกษาภายในพรรคเลย”

นายปิยบุตรกล่าว ดังนั้น สส.ทั้ง 151 คน รวมถึงคณะผู้นำของพรรค ตนจะไปสื่อสารอะไรได้ ทำได้มากที่สุดคือโพสต์ในที่สาธารณะ เพื่อให้เป็นหลักประกันชัดเจนว่าทุกคนได้เห็นแน่นอน ตนไม่มีสิทธิเข้าไปทำงานในพรรคเนื่องจากกฎหมายได้ห้ามไว้ และทางพรรคก็ไม่ได้เชิญเข้าไปด้วย ลองคิดดูว่าการที่ตนวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล ตนได้ประโยชน์ส่วนบุคคลอะไรบ้าง ตรงกันข้ามมีแต่คนเกียจตนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ผ่านมาเวลาตนแสดงความคิดเห็น จะมีแค่ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม มาต่อต้านและมาโจมตี ซึ่งตนโดนมา10ปีแล้ว เมื่อเข้ามาช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียงอย่างเต็มที่ก็ถูกผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยตอบโต้และเป็นเป้าหมายสำคัญ จนมาวันนี้ตนวิจารณ์พรรคก้าวไกล ตนก็โดนผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลตำหนิติเตียน ไม่พอใจ หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมาถ้าตนจะถูกวิจารณ์จากฝ่ายอนุรักษ์นิยมอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร โดนจากผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยก็พอเข้าใจได้ แล้วตนจะหาเรื่องใส่ตัวโดยการวิจารณ์พรรคก้าวไกลอีกทำไม

“กลายเป็นว่าต่อไปนี้เวลาผมพูดอะไรก็มีคนจองกฐินผม 3 กลุ่ม แล้วผมจะทำไปทำไมทำไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ผมจะดำรงตำแหน่ง หรือจะกลับมาเล่นการเมืองได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ อามิสสินจ้างก็ไม่ได้ ค่าตัวก็ไม่ขึ้น ความนิยมชมชอบก็ลดน้อยลงมีแต่คนด่าเพิ่มขึ้น แล้วผมจะไปทำไม พูดสั้นๆเพราะผมยังเชื่อมั่นพรรคก้าวไกลอยู่ ว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ดังนั้นใครจะวิจารณ์ผมก็เต็มที่ ไม่มีลบโพสต์รวมถึงดำเนินคดี”

นายปิยบุตรกล่าวว่า ถ้าสถานการณ์ดำเนินไปในลักษณะที่ไม่พร้อมจะฟังการพูดอย่างตรงไปตรงมาของตน “นับตั้งแต่นี้ผมจะพยายามไม่พูดถึงพรรคก้าวไกล” ซึ่งตนมีข้อเขียนที่เตรียมไว้ด้วยความปรารถนาดีถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งอาจจะเป็นข้อเขียนสุดท้ายที่พูดถึงพรรคก้าวไกล และต่อไปนี้ตนจะไม่พูดอีกแล้ว เพราะมีคนไม่เห็นด้วยไม่พอใจเท่าไหร่ อย่างน้อยที่สุดข้อเขียนสุดท้ายนี้ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการเมืองไทย ผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลรวมถึงผู้ที่สนับสนุนด้วย


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/CJuotjGl0MA

คุณอาจสนใจ

Related News