เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' เผยไม่มีปัญหา หากต้องทำงานร่วม 2 ลุง ชี้ทุกอย่างต้องอยู่กับความเป็นจริง

โดย thichaphat_d

12 ส.ค. 2566

252 views

วานนี้ (11 ส.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรอบสองสัปดาห์ หลังพรรคเพื่อไทยรับไม้ต่อจากพรรคก้าวไกลและมีมติเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ก่อนเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 2023/24 ระหว่างทีม โปลิศ เทโรฯ พบกับ พีจี ปทุมฯยูไนเต็ดกล่าวถึงกระแสสนับสนุนและคัดค้านที่ออกมาช่วงนี้ ว่าเป็นธรรมดาตามระบอบประชาธิปไตยที่มีคนรักและมีคนชอบ


ส่วนที่กรรมาธิการจริยธรรมวุฒิสภา รับเรื่องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองฯ ตรวจสอบนั้นการเป็นนักการเมืองต้องตรวจสอบได้ นายเศรษฐา ยืนยันในความบริสุทธิ์ เชื่อว่ากรรมาธิการจริยธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับตน ส่วนเรื่องของนายชูวิทย์ ก็จะขอใช้สิทธิตามกฎหมายที่จะต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง วันนี้ ตนเดินหน้าเรื่องการเมือง ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน


เมื่อถามต่อว่า กังวลจะมีผลต่อเสียงสนับสนุนในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากพิสูจน์แล้วว่าได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย คิดว่าจะได้รับความไว้วางใจ ส่วนการแสดงวิศัยทัศน์ต่อรัฐสภานั้น ตนไม่ได้เป็นสส. แต่หากได้รับเลือกแล้ว คงต้องมีการชี้แจง


เมื่อถามว่า เสียงสส.ที่พรรคเพื่อไทยรวมได้ มั่นใจหรือไม่ว่าจะมีเสียงสว.เข้ามาเพิ่ม นายเศรษฐา กล่าวว่า คณะเจรจากำลังเจรจาอยู่ มั่นใจว่าในสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ หวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งสว.และทุกพรรคการเมือง และหวังว่าจะได้เสียงตอบรับที่ดี


เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับคะแนนเสียงในการได้รับเลือกเป็นนายกฯ ในครั้งเดียว นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจเพราะเชื่อในสิ่งที่ทำมา และมองว่าในช่วงสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติที่พรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรวบรวมเสียงให้พอ เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐและจัดการปัญหาของบ้านเมือง


เมื่อถามว่า เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้วจะเป็นคนเลือก ครม.เองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าเรามีพรรคร่วมหลายพรรค ตนได้โหวตให้เป็นนายกฯ ก็คงมีส่วนร่วมในการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล


เมื่อถามว่าตอนนี้เสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมาช่วยยกมือสนับสนุน ถึงเวลานั้นจะสามารถทำงวานร่วมกับพรรค 2 ลุงได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าอย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้น วันนี้เราได้มีการแถลงจับมือกับหลายพรรคไป จนมาถึงวันนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาในระดับที่ดีแล้ว และขอขอบคุณ สส.ทั้ง 40 คนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะยกมือโหวตให้ เอาไว้ให้ผ่านการโหวตนายกฯแล้ว ค่อยมาพูดคุยกันภายหลัง


เมื่อถามย้ำว่า ไม่ขัดใช่หรือไม่ที่จะทำงานร่วมกับ 2 ลุง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเอาเรื่องหลักการเป็นหลักดีกว่า ตนมองว่าเรื่องนโยบาย เรื่องของประชาชนและเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องมาช่วยกัน


เมื่อถามต่อว่าหากพูดเรื่องหลักการ ก่อนหน้านี้เคยบอกจะไม่จับมือกับ 2 ลุง แต่ตอนนี้เหมือนจะปิดดีลกับสองลุงได้แล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกเหนือจากพรรคที่ได้มีการแถลงข่าวไป ตนเองก็พูดได้แค่นี้ แต่อยากเชิญ สส.ที่มีเอกสิทธิ์ ช่วยร่วมโหวตให้ผ่าน เสร็จแล้วค่อยมาว่ากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป


เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะมีปัญหาหรือจะมีการแสดงออกอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มีครับ เรื่องของการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผลก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว วันนี้เราต้องอยู่กับความเป็นจริง เราต้องการมีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในการที่จะแก้ปัญหาของประชาชน แก้ไขเรื่องรัฐธรรมนูญ แก้ไขเรื่องความขัดแย้ง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเข้ามาเป็นรัฐบาล เรื่องของนโยบายพรรคร่วมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประชาชน”


เมื่อถามว่ากลัวว่าสิ่งที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้จะกลับมาทิ่มแทงตัวเองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าการกระทำหรือการพูดต้องมีคำอธิบายทุกอย่าง


เมื่อถามต่อว่าตอนนี้เหมือนทั้งสองพรรคจะมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แสดงว่ามีคำอธิบายไว้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมาพูดคุยอีกที


เมื่อถามว่าวัตถุประสงค์หลักของการเป็นรัฐบาลคือการแก้รัฐธรรมนูญปี 60 แต่มีพรรคสองลุงที่เป็นผู้คลอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าร่วมจะยังยืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า หากเขาจะเข้ามาร่วมเขาจะต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าแม้มีสองพรรคนี้เข้าร่วมเราก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/cUliMLfKr6s

คุณอาจสนใจ

Related News