เลือกตั้งและการเมือง

'ภูมิใจไทย' ปราศรัยวงเวียนใหญ่ 'ศุภชัย' วอนเลือก ส.ส.พรรค สกัดความขัดแย้ง - 'นิพนธ์' ขอชาว ปชป.อย่าหวั่นตามกระแสโพล เชื่อพลังเงียบไม่ชอบความรุนแรง

โดย weerawit_c

7 พ.ค. 2566

64 views

วานนี้ (6 พ.ค.) พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณวงเวียนใหญ่ ช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. ฝั่งธนบุรี ของพรรคภูมิใจไทย หาเสียง



นายศุภชัย ใจสมุทร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ช่วงใกล้เลือกตั้ง ความรุนแรงทางการเมืองมากขึ้นทุกที บางพรรคพูดในลักษณะว่าถ้าเขาได้คะแนนเสียงมาก แต่ไม่ได้ตั้งรัฐบาล บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ บางคนบอกจะแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาล แต่ถ้าตั้งไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้น สิ่งนี้น่าเป็นห่วง ฉะนั้น วันนี้ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดชีวิตตัวเอง ประเทศเราเมื่อปี 48 - 49 มีความรุนแรงมาตลอด พอมีการยึดอำนาจในปี 57 ก็สงบขึ้นมา แต่ปัญหาความขัดแย้งยังมีอยู่ ซึ่งวิธีการที่จะลดความขัดแย้ง เราไม่ควรไปทางไหนที่สุดจนเกินไป ทั้งพรรคคนรุ่นใหม่ และพรรคแลนด์สไลด์ หากเสียงมาก แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตนเป็นห่วงว่าจะมีการชุมนุมลงถนนอีก ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกแล้ว



“การตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง ควรเลือกตามบุคลิกของพรรคการเมืองนั้นๆ พรรคภูมิใจไทยที่นำโดยนายอนุทิน ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ปะทะกับใคร เพราะกรุงเทพฯ เคยเสียหายจากการชุมนุม จากการช่วงชิงอำนาจของผู้คนที่ต้องการเอาชนะ เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้ว วันนี้ถ้าท่านสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย จะช่วยนำพาประเทศโดยคนที่มีบุคลิกประนีประนอม พร้อมนำพาประเทศหลุดพ้นจากความขัดแย้ง วันนี้พี่น้องต้องช่วยกันเลือกส.ส.เขตของพรรคภูมิใจไทย จากฝั่งธนบุรีให้มากกว่าเดิม เพื่อจะได้ผนึกกำลัง กทม.จะได้ไม่ต้องลุกเป็นไฟอย่างที่บางพรรคขู่ไว้” นายศุภชัย กล่าว



จากนั้น นายอนุทิน ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยขอแจ้งเกิดใน กทม. เราไม่ได้เพียงมาเสนอตัว แต่มีความตั้งใจขอให้มี ส.ส. ทำงานให้พี่น้องชาวกทม. ซึ่งการปราศรัยที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวันนี้ เนื่องจากพื้นที่นี้มีความหมาย ที่เรามีวันนี้ได้เพราะบรรพบุรุษของพวกเรา ทำให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข เราต้องเชื่อมั่นในสถาบันที่เราให้ความเคารพมาตลอด



นายอนุทิน กล่าวว่า เกือบ 20 ปีแล้วที่ประเทศไทยมีความขัดแย้งมาตลอด ทำให้ประเทศพัฒนาช้ามาก ฉะนั้น หากท่านต้องการเห็นการเมืองสร้างสรรค์ พรรคภูมิใจไทยคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เราทำงานตลอด 4 ปี ไม่เคยงอแง ไม่เคยทุจริต ท่านไปถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลยว่า ตอนที่พรรคมีส.ส.70 คน เราเคยไปขอรัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ ก็ไม่เคย เพราะหนูน่ารัก ถ้าเราไม่มีมารยาทที่ดี เราไม่มีทางจะได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ จากเพื่อนร่วมงาน และประชาชน นี่คือการเมืองสร้างสรรค์ ที่มีลักษณะผู้นำคุมพรรคได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าคุมพรรคภูมิใจไทยให้ทำงานให้ประชาชนได้ เรื่องอื่นไม่สน เรื่องอื่นไม่เกี่ยว



“วันนี้พรรคภูมิใจไทยจะมี ส.ส.มากสุดในรัฐบาล เพราะลุงสองลุงแยกเป็นสองพรรค แต่หลานคนนี้ยังอยู่พรรคนี้พรรคเดียว ส่วนการตัดสินใจโหวตของพี่น้องประชาชนในวันนี้ ท่านจะโหวตเพียงเพราะกระแสเท่านั้นหรือ กระแสกินได้หรือไม่ คนทำงานต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างเดินหน้า ต้องวัดกันที่ผลงานที่ความขยัน” นายอนุทิน กล่าว



ขณะที่ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์เลือกตั้ง ที่ขณะนี้มีการพูดถึงผลโพลว่า ไม่อยากให้แฟนคลับประชาธิปัตย์ตื่นตระหนก และไม่อยากให้สังคมเชื่อไปกับกระแสข่าวดังกล่าว



นายนิพนธ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติที่พรรคมุ่งในการลงพื้นที่เข้าถึงพี่น้องประชาชน เพื่อนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์มากกว่า และนโยบายต่างๆ ของพรรคอาจมองไม่หวือหวา หรือเรียกความสนใจ เพราะพรรคไม่ได้มีการสร้างกระแส สร้างภาพ สร้างคอนเทนต์ ให้เป็นที่สนใจ แต่ถ้าพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของการเสนอนโยบายที่เป็นไปตามกรอบของการบริหารราชการแผ่นดินแล้วจะเห็นว่า สิ่งที่ปชป.ประกาศนั้น สอดคล้องกันระหว่างภาระงบประมาณกับประโยชน์ที่จะตกแก่ส่วนรวมและประชาชน



“เราเน้นสิ่งที่ทำได้จริง ไม่ใช่จะประกาศเพื่อสร้างกระแส เพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง ต้องรัดกุม ไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศ กระแสข่าวที่ปรากฏนั้นจะเป็นเรื่องสมมุติทันที ถ้าพี่น้องประชาชนแสดงพลังเทคะแนนเสียงสนับสนุน ปชป.ในวันที่ 7 และ 14 พ.ค.นี้ เลือกทั้งพรรคทั้งคน”



นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด ที่ถือเป็นพลังเงียบ อยากขอพี่น้องประชาชนเปิดใจ พิจารณาในตัวนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังคงทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ แข่งขันกันที่นโยบาย และเป็นนโยบายที่จับต้องได้ เช่น นโยบายสร้างคนของพรรคเน้นการประคับประคองให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้อยู่ในสังคมได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบการศึกษาและโภชนาการแก่เด็กและเยาวชน นี่คือการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับเวทีโลกทั้งทวิภาคี พหุภาคี เพื่อการเจริญเติบโตของประเทศ เหล่านี้ ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำด้วยใจ ที่มีนโยบายครอบคลุมดูแลความเป็นอยู่ตั้งแต่ระดับรากฐานไปจนถึงการพัฒนาประเทศในระดับสากล จึงอยากขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนในกลุ่มพลังเงียบนี้ได้ช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้



“ส่วนตัวเชื่อว่า กลุ่มพลังเงียบนี้ ต้องการเห็นประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ชอบความรุนแรง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คือคำตอบ” นายนิพนธ์กล่าวในที่สุด



ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งเที่ยวหน้าแข่งกันไม่กี่พรรค แต่สำคัญที่สุด ฝากประชาชนคนนครศรีธรรมราชต้องไตร่ตรอง ให้รอบคอบ เพราะเลือกตั้งเที่ยวหน้ามันคือการเลือกอนาคตประเทศ อย่าเลือกตามกระแส อย่าเลือกแล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า หลายพรรคการเมืองอ้างว่าเก่งเศรษฐกิจ เก่งแก้ปัญหา แต่สุดท้ายโกง ประเทศก็เลยไปไม่รอด นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีติดตารางมาแล้วไม่รู้กี่คนเพราะทุจริตคอรัปชั่นและสุดท้ายรัฐบาลก็ไปไม่รอด ถูกยึดอำนาจ



พร้อมกล่าวว่า ยึดอำนาจกี่ครั้งขอให้ไปดูเหตุผล ว่าเพราะรัฐบาลมีการทุจริตคอรัปชั่น เพราะฉะนั้นหากได้รัฐบาลโกงวันไหนประเทศไปไม่รอด ตนจึงบอกว่านี่ถึงจึงเป็นหนึ่งอีกเหตุผลว่าอย่าเลือกพรรคการเมืองบางพรรคเพื่อไปตายเอาดาบหน้า หรือบางพรรคของดีมีไม่เอาจะเอายา พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายชัดเจนเราเอากัญชาทางการแพทย์ พี้ทุกวันประชาธิปัตย์ไม่เอา แต่ไม่เอากัญชาเสรี บางพรรคเสียงไม่หาจดบัตรประชาชนอย่างเดียว เตรียมแจกเงิน



วันนี้ประเทศไทยรู้จัก PM 2.5 หรือไม่ แต่ที่ร้ายกว่าพี่เอ็ม 2.5 คือPM 1,500 และPM 2,000 ขอให้ระวังให้ดี.เมื่อวานตนไปปราศรัยจังหวัดกระบี่ พอพ้นเขตพังงามาควันสีเทาเต็มไปหมดเลย อย่าให้มันลามมาจังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาชนตั้งหลักไว้กับผมพรรคไหนซื้อเสียงมากพรรคนั้นก็อยากไปมีอำนาจแล้วโกง สุดท้ายก็โกง บ้านเมืองก็ไปต่อไม่ได้ประชาธิปไตยหมด แล้วจบด้วยวงจรอุบาทยึดอำนาจ



ตนไม่อยากวิจารณ์ใคร แต่จำเป็นต้องคุยกับประชาชนเพราะถึงเวลาต้องพูดบ้าง ต้องบอกความจริงกับประชาชน และแสดงความเห็นกับประชาชนไม่มีเจตนาไปว่าพรรคไหน และไม่เอ่ยชื่อพรรคไหน แต่เพื่อเป็นข้อมูลให้กับประชาชนประกอบการตัดสินใจ บางพรรคก็รู้ว่าเลือกไปอยู่ได้ปี 2 ปี จบแล้ว แปลว่า หลัง 2 ปีเสียของ นี่คือสิ่งที่อยากให้ประชาชนได้ไตร่ตรองเพราะเป็นพรรคเฉพาะกิจ หากประชาชนเลือกพรรคเฉพาะกิจก็จะได้อนาคตแบบเฉพาะกิจ อีก 2 ปีข้างหน้าหากประชาชนเลือกใบเสร็จไม่รู้ว่าที่พาประเทศไปวิกฤตเป็นอย่างไรสุดท้ายเลือกไปแทนที่จะพาประเทศไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน กลายเป็นไปสร้างวิกฤตซ้ำวิกฤตเกิดขึ้นมา สีนี้คือสิ่งที่ผมอยากให้ประชาชนได้เห็นภาพและตระหนักให้ดี



นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ขึ้นรถแห่หาเสียง ที่อำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยผู้สมัครหาเสียง โดยมีการขึ้นรถแห่ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็นที่สนามหน้าเมือง

โดยระหว่างอยู่บนรถแห่นายชวน ได้มีการอ่านจดหมายถึงกระทรวงคมนาคมสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ถูกกลั่นแกล้งในพื้นที่ภาคใต้ มีการอนุมัติงบประมาณลงมาในพื้นที่ทำถนนน้อย กว่าพื่นที่ภาคอื่นๆ พร้อมย้ำว่าเป็นการถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และได้อ่านหนังสือชี้แจงเหตุผลที่การอนุมัติงบประมาณสร้างถนนในพื้นที่ภาคใต้ ของอธิบดีกรมทางหลวงณขณะนั้นให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับ



ขณะเดียวกันนายชวน ยังกล่าวย้ำว่า อย่าให้เขาดูถูกว่าคนทุ่งสงไม่สาไหร (ไม่รู้สึกรู้สา) ปล่อยให้เขาทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ อย่าให้เขาดูถูกว่าคนบ้านเราไม่ได้เรื่อง ตนอยากให้ทุกคนจำแต่ไม่ได้ล้างแค้น ซึ่งจากการที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีมา 2 สมัยตนให้ความเป็นธรรมกับคนทุกภาค ไม่เคยเลือกปฏิบัติ คนไทยได้เรียนทั่วประเทศ เราต้องจำว่าเคยถูกทำอะไรไว้ แต่ไม่ใช่ทำเพื่อถูกแก้แค้น แต่อยากให้รู้ว่าเขาทำร้ายพวกเราคนภาคใต้ขนาดไหน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Xg0hvXbtlcM

คุณอาจสนใจ

Related News