'บิ๊กตู่' หาทางช่วย ปชช.ปมค่าไฟแพง – 'ไทยสร้างไทย' เล่นใหญ่ ชวนคนไทยลงชื่อฟ้องรัฐ

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กับเดลินิวส์ว่า เปิดเผยว่า ได้สั่งการด่วน ให้กระทรวงพลังงานเร่งออกมาชี้แจงประชาชน เกี่ยวกับรายละเอียดค่าไฟทั้งหมด หลังพบมีประชาชนร้องเรียนประเด็นค่าไฟในเดือนเมษายน อยู่ในระดับสูง

เดิมรัฐบาลดูแลประชาชนเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะดูแลกลุ่มผู้ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือนได้ด้วยหรือไม่ วันนี้พลังงานแพง ต้องไปดูว่าแพงจากอะไร ไม่ใช่ตนไม่เดือดร้อน ทุกอย่างที่ประชาชนเดือดร้อน ตนก็เดือดร้อนหมด เพราะทำหน้าที่นายกฯ ดูแลพี่น้อง 70 ล้านคน จะให้ทุกคนพอใจ อยู่บนเหตุผลและข้อเท็จจริง ซึ่งกำลังสอบถามไปที่ กกต.ว่าสามารถทำอะไรได้บ้างกับค่าเอฟที

-----------------------------

‘เศรษฐา’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ควรสง่างาม ขอ กกต. อนุมัติงบกลางแก้ไฟแพงช่วงหาเสียง

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และคณะพรรคเพื่อไทย ปราศรัยถึงประเด็นค่าไฟแพงว่า เรื่องค่าไฟแพง ทำให้รายจ่ายของประชาชนสูงขึ้นอย่างน่ากลัว พรรคเพื่อไทยยอมรับไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อค่าครองชีพ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะบริหารจัดการค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมัน อย่าน้ำมันดีเซลต้องต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร

พรรคร่วมรัฐบาลมีการหาเสียงมากมายที่จะทำให้ราคาค่าไฟลด แต่เป็นรัฐบาลอยู่มา 8 ปีแล้วถ้าทำเป็น ทำไมไม่ทำเลย ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการ ถึงเวลาที่เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยต้องเข้ามาจัดการปัญหานี้

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการผูกขาดของรายใหญ่ พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการค้าขายแบบผูกขาด แบบผู้มีสิทธิทำกิน จนทำให้ประชาชนลำบาก เราต้องการการแข่งขันสมบูรณ์ พรรคเพื่อไทยจะนำนวัตกรรมเสริม ทำให้รายจ่ายต่ำลง รายได้สุทธิสูงขึ้น เรามั่นใจภายใน 4 ปีรายได้สุทธิของพี่น้องสูงขึ้น 3 เท่าตัว พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เราทำได้

นโยบายที่ถูกพูดถึงทั้งประเทศ รวมถึงพรรคคู่แข่ง ที่กระแนะกระแหนว่าจะทำไม่ได้ ทั้งที่ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย เราทำได้มาตลอด เรามั่นใจว่านโยบาย 10,000 บาททำได้แน่นอน ให้รีบใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ครอบครัวไหนมี 5 คนก็รับไปเลย 50,000 บาท ซึ่งจะเพียงพอซื้อสินค้าชุบชีวิตใหม่ ไม่เหมือนรัฐบาลปัจจุบันหยอดน้ำข้าวต้มซึ่งไม่เพียงพอ

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขออนุญาต กกต. อนุมัติงบกลาง แก้ปัญหาค่าไฟแพง ซึ่งอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ว่า เป็นเรื่องของความสง่างามในการทำหน้าที่ เพราะเป็นรัฐบาลมานานแล้ว แต่ประชาชนเดือดร้อนเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพลังงานแพงมานานแล้ว และเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้ว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม ตนเองไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย หรือวิธีการทำงานของใคร

---------------------------

ไทยสร้างไทย ชวนประชาชนลงชื่อฟ้อง ค่าไฟแพง

ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 32 แถลงเชิญชวนประชาชนลงชื่อฟ้องภาครัฐ ในความผิดฐานสร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จากกรณีการทำสัญญา ให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็นถึงเกือบ 60 %! ทำให้ประชาชน ต้องจ่ายค่าไฟสูงเกินความเป็นจริงทั้งที่เอกชนเจ้าของโรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตไฟแม้แต่ 1 MW.

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้ชวนประชาชนร่วมลงชื่อ ฟ้องภาครัฐ ใน 3 ส่วนคือ

1. สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ด้วยการให้เอกชนทำสัญญาสัมปทาน ผลิตไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าที่ควรเป็น

2. การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนถูก ไปให้กับเอกชนไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ส่งผลให้ต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศทดแทน ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าถึง 5เท่า อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 57

3. ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ในส่วนข้อตกลงกับเอกชน ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริง ในการใช้พลังงานเพิ่มเติม

สำหรับผู้ใดที่ต้องการร่วม “ฟ้องค่าไฟแพง” กับทางพรรคฯ สามารถกดลิ้งค์ได้ที่ https://forms.gle/gWm2AoZbZP1Dwtj59

------------------------------

สภาอุตฯ ชี้ค่าไฟยังลงได้อีก

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มติของคณะอนุกรรมการค่า FT ที่ปรับลดลงค่าไฟฟ้างวดใหม่ ลงอีก 7 สตางค์ จากการยืดหนี้ของ กฟผ. ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจาก 4.77 บาท เหลือ 4.70 บาทต่อหน่วย

แต่จากการเข้าไปดูในรายละเอียด พบว่า ยังมีใช้ตัวเลขประมาณการ ราคา LNG SPOT นำเข้า อยู่ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้าน BTU ทั้งๆ ที่ราคาตลาด ร่วงลงมาต่ำกว่า 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ มานานร่วมกว่า 3 เดือนแล้ว ดังนั้นค่าไฟฟ้างวดที่ 2 งวดเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม สามารถลดลงมาที่ 4.40 บาทต่อหน่วยได้ หากภาครัฐใช้ตัวเลขสมมุติฐานที่เหมาะสม

นายอิศเรศ เห็นว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขสมมุติฐาน LNG นำเข้า ต้องออกมาชี้แจง เนื่องจากค่า FT เป็นต้นทุนบวกพื้นฐาน หรือ cost plus basis และค่าไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ประชาชนควรได้รับรู้ข้อมูลกันอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ยังเห็นว่า ภาครัฐสามารถพิจารณาปรับระยะเวลาการพิจารณาค่า FT ให้สั้นลงกว่า 4 เดือนได้

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/k6E_VicFmgw