เลือกตั้งและการเมือง

‘เพลง ชนม์ทิดา’ โพสต์สุดเศร้าถึงพ่อ ไม่คิดว่าจะเป็นเพลงสุดท้าย - แพทย์เตือนผู้ป่วยหัวใจ เสี่ยงฮีทสโตรกถึงตาย

โดย petchpawee_k

1 เม.ย. 2566

89 views

"สุนทร" เผย "วัฒนา" เศร้าสูญเสียลูกชาย แต่โทรมาให้กำลังใจตลอดทั้งคืน ยืนยันการเมืองกลุ่มสมุทรปราการ ก้าวหน้าเดินหน้าต่อ แม้ขาดนายท้ายเรือคนสำคัญ ด้าน ลูกสาว "เพลง ชนม์ธิดา" โพสต์สุดเศร้าถึงคุณพ่อ ไม่คิดว่าจะเป็นเพลงสุดท้าย  ขณะที่แพทย์เตือน ผู้ป่วยโรคหัวใจอาจเสียชีวิตเฉียบพลันหากมีอาการฮีทสโตรก


ภายหลังมีการยืนยันว่านายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือเอ๋ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และนักธุรกิจชื่อดัง เสียชีวตลงเมื่อกลางดึกวันที่ 31 มี.ค.66 เวลา 01.15 น. ที่ผ่านมาในวัย 55 ปี


นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สมาชิกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า กล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่า น่าจะเกี่ยวกับหัวใจล้มเหลวเส้นเลือดในหัวใจตันซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางแพทย์ได้แจ้งไว้ รออยู่แล้วซึ่งไม่แน่ใจว่ามีโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วหรือไม่แต่ที่ผ่านมานายชนม์สวัสดิ์เป็นคนที่แข็งแรงออกกำลังกายบ่อยจึงยังไม่ทราบว่าปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากอะไร


ขณะเดียวกันนายสุนทร ยังกล่าวว่า เดียวตลอดคืนวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา นายวัฒนา อัศวเหม บิดาของนายชนม์สวัสดิ์ได้มีการโทรติดต่อพูดคุยตลอดทั้งคืน ซึ่งท่านก็เป็นห่วง  และเสียใจเพราะเป็นการสูญเสียลูกชายทั้งคนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ  แต่ในเรื่องจิตใจนายวัฒนามีจิตใจที่เข้มแข็ง และได้ให้กำลังใจมาในการที่จะร่วมมือกันในการทำงาน ก็คือพวกเราก็พร้อมย้ำว่าหากพูดกันตรงตรงพวกเราก็ยังคงทำงานกันเหมือนเดิม


ส่วนการจัดงานนายวัฒนาไม่ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษเพียงแต่กำชับให้ดำเนินการให้ดีที่สุดเพราะนายชนม์สวัสดิ์เป็นที่รักของประชาชนในพื้นที่


ส่วนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วานนี้ไม่ได้เดินทางมา  ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานว่าจะเดินทางมาในวันใด  ซึ่งพลเอกประวิตรขอให้ทุกฝ่ายมี ตั้งใจ ความสมัครสมานสามัคคี ที่จะดำเนินการกันต่อไป


ทั้งนี้ นายสุนทร ขอให้เลิกพูดถึงเรื่องของการเลือกตั้งได้แล้วเนื่องจากจะมีการรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อกันในสัปดาห์หน้าแล้ว  คงต้องเดินหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เหมือนเรือลำหนึ่งที่ไม่มีคนคัดท้าย  


ซึ่งในช่วงนี้นายสุนทรได้กล่าวด้วย น้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอ  พร้อมยืนยันว่าทางกลุ่มจะไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่าทีมงานทุกคนจะเข้าใจว่านายชนม์สวัสดิ์ต้องการอะไร และจะดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของนายชนม์สวัสดิ์

พร้อมเปิดเผยว่าที่ผ่านมานายชนม์สวัสดิ์ ขอให้ทุกคนทำงานเต็มความสามารถและเต็มที่ และเป็นเรื่องปกติที่ขณะนี้ทีมงานทุกคนเสียขวัญแต่ยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน  

เมื่อถามว่าเมื่อนายชนม์สวัสดิ์ เสียชีวิตจะเสมือนคนคัดท้ายเรือไม่อยู่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าจะเต็มที่เหมือนเดิมหรือไม่ นายสุนทร ยืนยันว่าจะดำเนินการเหมือนเดิม

เมื่อถามว่าใครจะเป็นผู้มาสานต่องานทางการเมือง นายสุนทรกล่าวว่า ทีมงานสมุทรปราการก้าวหน้าเคยสัญญากันไว้ว่าเราจะทำงานกันเป็นทีม ไม่มีใครแตกแถวไปไหนไปด้วยกันทำอะไรทำเหมือนกันหมด ยังคงสามัคคีกันเหมือนเดิมทุกอย่าง

---------------------------------------------

 นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สมาชิกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เปิดเผยความรู้สึกหลังสูญเสีย นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ว่า ตั้งแต่รับโทรศัพท์ทราบข่าว ตนร้องไห้ทั้งคืนจนถึงเช้าแทบไม่ได้หยุด เพราะเช้าวันที่ 30 มี.ค. ยังได้พบกับนายชนม์สวัสดิ์ ในการอบรมก่อนที่จะแยกไปประชุม และจากนั้นนายชนม์สวัสดิ์ เดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นายชนม์สวัสดิ์ ก็มีท่าทีมีความสุข ร่าเริง และได้ย้ำว่าให้ดูแลพวกเราให้ดีที่สุด พร้อมกำชับให้ลูกทีมขยันลงพื้นที่ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะได้กินข้าวเป็นมื้อสุดท้ายร่วมกันมันเร็วมาก ทั้งนี้นายชนม์สวัสดิ์ ไม่มีอาการว่าจะป่วยแต่อย่างใด และเป็นคนที่ออกกำลังกายบ่อย


ขณะที่ทิศทางของกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าต่อจากนี้ในการเลือกตั้ง กรุงศรีวิไล กล่าวว่า พรุ่งนี้พรรคจะมีการอบรม รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีการพบกับสมาชิกด้วย


ด้าน นายสัณชัย เองตระกูล หรือเป๊ก ในฐานะน้องชายคนสนิทของนายชนสวัสดิ์ อัศวเหม ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ว่าหมดสติไป ซึ่งส่วนตัวแล้ว มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันมาก เป็นพี่ชายที่รักและดูแลกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นพี่ชายที่เคารพรัก มีอะไรก็จะปรึกษาตลอด สำหรับการสูญเสียครั้งนี้ มองว่าเกิดขึ้นเร็วและกะทันหันมาก  ไม่รู้จะพูดยังไง นับว่าเป็นการสูญเสียที่แทบจะทำใจไม่ได้เลย


นายสัณชัย ยังระบุว่า ตนและนายชนม์สวัสดิ์มีการพูดคุยกันตลอด และทราบมาว่าเมื่อวานนี้ มีการไปซ้อมเพื่อที่จะเตรียมแข่งรถ  ส่วนเรื่องสุขภาพเท่าทราบมา เคยมีปัญหาโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็ก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่นอนตนยังไม่ทราบแน่ชัด ต้องรอครอบครัวออกมาชี้แจง


ทั้งนี้ นายสัณชัย ยังกล่าวว่า ในวงการการเมืองและวงการต่างๆ นายชนม์สวัสดิ์ เป็นที่รักของทุกคน มีอะไรช่วยเหลือเสมอ เชื่อว่าทุกคนเสียใจกับการจากไปครั้งนี้กันหมด

---------------------------------------------------

 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีความใกล้ชิดกับครอบครัว “อัศวเหม” ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ถึงการเสียชีวิตของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ด้วยน้ำเสียงเศร้า ว่า “เป็นความจริง โดยท่านเสียประมาณช่วงตี 1 วันที่ 31 มี.ค.66 ที่ผ่านมา โดยมี ครอบครัว ผม และพี่เนวิน ชิดชอบ อยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ ได้เฝ้าดูแลท่านจนสิ้นลม ซึ่งรายละเอียดอื่นๆ คง ต้องให้ ทางครอบครัวและญาติเป็นผู้ให้ข่าว”


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายชนม์สวัสดิ์ ได้ไปซ้อมแข่งรถที่สนามช้างฯ เมื่อซ้อมแข่งรถเสร็จพอลงจากรถมีอาการอ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง คนใกล้ชิดจึงเรียกรถฉุกเฉินพาไปโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ดูแลทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างเต็มที่ แต่ประคองอาการไว้ได้ถึงเที่ยงคืน


นายอนุทิน กล่าวย้ำอีกว่า นายชนม์สวัสดิ์กับตนเอง และนายเนวิน ชิดชอบ มีความสนิทกันมาก เปรียบเสมือนพี่น้องกัน โดยเฉพาะครอบครัวตนเอง ที่ลูกชายของตนเอง และลูกสาวนายชนม์สวัสดิ์เป็นแฟนกัน รักกัน เปรียบเสมือนสูญเสียญาติที่สนิทไปคนหนึ่ง ต้องเสียใจเป็นธรรมดา โดยตนเมื่อทราบข่าวก็รีบไปดูอาการตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการดูแลตนเองในช่วงหน้าร้อนนี้ ที่หลายคนอาจจะเกิดความกังวลว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก ว่า หลักการดูแลตัวเองพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะการตรวจภาวะหัวใจก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ เช่นเดียวกับอาการฮีทสโตรก อย่าให้ปัจจัยสุขภาพพื้นฐาน เป็นตัวถูกกระตุ้นโดยฮีสโตรก เพราะความร้อนทำให้ร่างกายทำงานหนัก


ขณะที่ ประธานชุมชนศูนย์การค้าปากน้ำ กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ชุมชน ติดตามข่าวตั้งแต่บ่ายวานนี้ (31 มี.ค.66) ทุกคนก็ภาวนาขอให้คุณเอ๋ ปลอดภัย เพราะคุณเอ๋ เป็นที่รักของคน หากเอ่ยปากอะไรทุกคนก็ช่วยพร้อมใจกันช่วยเหลือเต็มที่ ทำงานเก่งและจังหวัดสมุทรปราการเจริญรุ่งเรืองได้เพราะนายชนม์สวัสดิ์ / ที่ผ่านมาอยู่ชุมชนได้รับความช่วยเหลือและรู้สึกเสียดาย ที่จากไป เพราะนายชนม์สวัสดิ์ ยังสามารถ ทำประโยชน์และพัฒนาได้อีกมาก ทุกคนเสียดาย และหลังรู้เรื่องก็ต่างกันร้องไห้กันหมด


ล่าสุดตนเองเจอกันครั้งสุดท้าย คือวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ยังเข้ามากอด และบอกว่า “อย่าทิ้งเอ๋นะ” ซึ่งตนยืนยันว่าหลังจากนี้จะสนับสนุนสานต่องานของครอบครัวอัศวเหม เพราะคนเองรักครอบครัวนี้มาก หาก ไม่ใช่ตระกูลอัศวเหมตนเองก็จะไม่สนับสนุนใครแล้ว

-----------------------------------------------------------

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหลอดเลือดสมองเตือน ผู้ป่วยโรคหัวใจอาจเสียชีวิตเฉียบพลันหากมีอาการฮีทสโตรก

นพ.ธนบูรณ์ วรกิจธำรงชัย นายแพทย์ชำนาญการพิเศษอายุรกรรมประสาท เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ระบุถึง โรคลมแดดหรือ ฮีทสโตรก จะเกิดขึ้นโดยมีปัจจัยเรื่องสภาพอากาศโดยผู้ที่อยู่กลางแดด เป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมีปัจจัยอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น สวมใส่เสื้อผ้าหนา/อยู่กลางแดดเป็นเวลานาน/ ห้องที่ระบายอากาศไม่ดี ความร้อนอบอวล ซึ่งลำดับการเกิดอาการจะแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่จะมีอาการอุณภูมิร่างกายสูง เกิน 40 องศาฯ มีเหงื่อออก จนไปถึงมีอาการชักและหมดสติ


โดยผู้ป่วย ฮีทสโตรก เมื่อหมดสติ ระบบการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะแปรปรวน เช่น ตับ ไต ระบบเลือดรวมไปถึงหัวใจที่พยายามสูบฉีดเลือด เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้หลอดเลือดขยาย หัวใจมีการทำงานมากกว่าปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเเละเสียชีวิต


 หากอาการฮีทสโตรก เกิดขึ้นกับบุคคลทั่วไปที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงส่วนใหญ่จะไม่ก่อเกิด การเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ซึ่งผู้ป่วยจะมีโอกาสรอดชีวิตสูง หากได้รับการปฐมพยาบาล และรับการรักษาได้ทันท่วงที


 แต่ในกรณีที่มีการเสียชีวิตแบบเฉียบพลันจากกลุ่มอาการฮิทสโตรก นั้นพบว่า ผู้ป่วยมักมีปัจจัยอย่างอื่นคือกลุ่มที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ กลุ่มนี้เมื่อถูกกระตุ้นจากอาการของฮีทสโตรก จะทำให้ภาวะโรคเดิมกำเริบเฉียบพลันและเสียชีวิตรวมไปถึง กลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็กก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการเสียชีวิตหากเกิดอาการฮีทสโตรก


โรคฮีทสโตรก ถือเป็น ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หากเกิดอาการในขั้นหมดสติให้รีบ เช็ดตัวหรือประคบน้ำแข็งเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายและรีบนำตัวส่งรักษายังสถานพยาบาลทันที

-------------------------------------------------------
'เพลง ชนม์ทิดา' โพสต์สุดเศร้าหลังสูญเสียคุณพ่อ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ กะทันหัน ไม่คิดว่าจะเป็นเพลงสุดท้าย ปัดหมุดโพสต์ความทรงจำพ่อแม่ลูก 


 เพลง ชนม์ทิดา ลูกสาว เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรม โดยโพสต์ลงไอจีสตอรี่ สุดเศร้า เป็นสิ่งที่เจ้าตัวทำให้ในวันเกิดของคุณพ่อ โดยไม่รู้ว่าจะเป็นเพลงสุดท้ายของทั้งคู่ พร้อมข้อความสุดเศร้ามากๆ ในวันที่สูญเสียคุณพ่ออย่างไม่คาดคิดมาก่อน


โดยในไอจีสตอรี่ของน้องเพลง มีการระบุข้อความ ที่แชร์คลิปดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยว่า I never knew this would be our last song when I made this present for you on your birthday.

(หนูเพิ่งรู้ว่านี่เป็นเพลงสุดท้ายของเรา ที่หนูได้ทำเป็นของขวัญในของวันเกิดคุณพ่อ)


พร้อมกับแท็กไปที่ อินสตาแกรม ของคุณ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ @chonsawat28

 นอกจากนี้ น้องเพลงยังโพสต์เนื้อเพลง Dance with My father ของ Luther Vandross นักร้องดังระดับโลก ซึ่งเป็นเพลงที่ประกอบอยู่ในคลิปด้วย โดยเนื้อเพลงที่ น้องเพลงนำมาโพสต์ ระบุว่า

"If I could get another chance (หากมีโอกาสอีกสักครั้ง)

Another walk,(ได้เดินเล่นด้วยกันอีกสักครั้ง)

another dance with him (และได้มีโอกาสเต้นรำไปพร้อมกัน)

I’d play a song that would never ever end (ฉันจะเล่นเพลง ที่ไม่มีวันจบ)

How I’d love, love, love to dance with my father again" (เพื่อบอกถึงความรักของฉัน ที่ได้เต้นรำกับพ่ออีกครั้ง)

 นอกจากนั้นยังได้มีการปักหมุดโพสต์เก่าของ เพลง และ พ่อเอ๋ นับตั้งแต่โพสต์เก่าที่น้องเพลงอวยพร เอ๋ ในวันพ่อ 5 ธันวาคม 2565 โพสต์ที่น้องเพลงอวยพร เอ๋ ในวันเกิดของ เอ๋ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และโพสต์ของเอ๋ที่กอดตู่ นันทิดา ภรรยา ด้วย



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/PxkFxF3jLlI

คุณอาจสนใจ

Related News