เลือกตั้งและการเมือง

‘ชูวิทย์’ บุกกกต. ยื่นยุบ 'ภูมิใจไทย’ กล่าวหาผิด ม.72 รับเงินบริจาค ขู่เดินสายทำลายเสียงทั่วประเทศ

18 มี.ค. 2566

160 views

‘ชูวิทย์’ บุก กกต. ยื่นยุบภูมิใจไทย ผิด ม.72 รับเงินบริจาค นอมินีเอื้อผลประโยชน์กระทรวงคมนาคม ขู่เดินสายทำลายเสียงทั่วประเทศทันทีที่ยุบสภา ลั่น! มึงตายยกรังแน่ บอก “ภูมิใจพังจิ้มไปตรงไหนก็มีแต่หนอง” มอบรองเท้าส้นสูงหลังโดนรุมจ่อฟ้อง 400 เขต เย้ยกลับกลัวจนขนลุกซู่ ปล่อยมุกต่อสาย "บิ๊กป้อม" รอรับ ส.ส.ทั้งเขื่อง ยุบแน่ 100%


วานนี้ (17 มี.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งโต๊ะแดงแถลงข่าว ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศสู้กลับพรรคภูมิใจไทย หลังว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย 400 เขต เตรียมยื่นฟ้องหมิ่นประมาททั่วประเทศ ด้วยการเดินสายหาเสียงทุกภาคทั่วประเทศ ทันทีที่มีการยุบสภาฯ และมีพระราชกฤษฎีกาจัดการเลือกตั้ง เพื่อทำลายคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำลายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่หากพรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมเป็นรัฐบาล ก็จะรณรงค์ขัดขวางไม่ให้ ได้เก้าอี้กระทรวงคมนาคมอีก


และนำหลักฐานเกี่ยวกับการรับบริจาคเงินของพรรคภูมิใจไทยบัญชีทรัพย์สินของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาพรรคภูมิใจไทย และเอกสารโอนเงินโอนหุ้นของบริษัท ที่พบว่านายศักดิ์สยาม เป็นเจ้าของยื่นให้ กกต. พิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเห็นว่าเข่าข่ายความผิดตามมาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพทย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย


นายชูวิทย์ มั่นใจว่าจะสามารถยุบพรรคภูมิใจไทยได้ 100% และจะดำเนินการได้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง แต่หากดำเนินการไม่ทัน ก็จะรณรงค์หาเสียงทำลายคะแนนเสียงพรรคภูมิใจต่อไป โดยมั่นใจว่าในพื้นที่ กทม. พรรคภูมิใจไทยจะสอบตกทั้งหมด ได้คะแนนเสียงแค่พันต้น ๆ ส่วนต่างจังหวัด ไม่ได้เพราะจะตั้งโต๊ะแดงพูดนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย คงได้แค่แสนกว่าเสียงปาร์ตี้ลิสไม่เหลือ ย้ำการต่อสู้กับพรรคภูมิใจไทย เป็นเรื่องสนุกจะตาย ก่อนเผลอเรียกชื่อพรรคผิดเป็นพรรคภูมิใจพัง จิ้มไปตรงไหนก็เป็นหนองทั้งนั้น


 ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะต่อสู้แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยเตรียมให้ ส.ส. ทั้ง 400 เขต ฟ้องดำเนินคดีและจะเริ่มทำลายเสียงพรรคภูมิใจไทยทันทีประกาศยุบสภา ส่วนการฟ้องดำเนินคดีกว่า 400 คดี เป็นคดีเอกภาพที่สามารถรวมเป็น 1 คดี ได้เพราะเป็นความผิดเดียวกันและการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องกัญชาและรถไฟฟ้าถือว่าเป็นนโยบายสาธารณะ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้

 ระหว่างแถลงข่าวนายชูวิทย์ ได้นำสบู่และกะละมังมาโชว์การล้างมือเพื่อตอบโต้พรรคภูมิใจไทยว่าตนมือสกปรกรับงานมาจากบุคคลอื่นเพื่อทำลายชื่อเสียงของพรรค พร้อมนำเทปกาวสีดำมาปิดปาก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่านายชูวิทย์ ถูกปิดปากไม่ให้พูดกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะฟ้องกลับตน รวมทั้งยังตั้งคำถามกลับถึงพรรคภูมิใจไทยว่า “ที่กล่าวอ้างว่าตนเองรับงานมาขอให้พูดชื่อให้ชัดเจน ว่ารับงานมาจากใคร” พร้อมปล่อยวาทะเด็ด “กลัวพรรคภูมิใจไทยจนขนลุกซู่” และจะสู้พรรคภูมิใจไทยต่อไป


 โดยนายชูวิทย์ ยกตัวอย่างถึงการเข้าข่ายความผิดในมาตราดังกล่าว พบว่านายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของนายศักดิ์สยาม แต่มีพฤติการณ์เป็นนอมินีถือหุ้นแทนนายศักดิ์สยาม ในบริษัทบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ประมูลงานชนะในกระทรวงคมนาคม ระหว่างปี 2562-2564 รวม 104 โครงการมูลค่ากว่า 1,568 ล้านบาท จากนั้นบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย 4,800 ล้านบาท และยังพบว่าเป็นพนักงานของบริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ 1991 จำกัด มีเงินเดือน 9,000 บาท แต่กลับบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทยกว่า 2.7 ล้านบาท


นอกจากนั้นยังพบว่านายศักดิ์สยาม ในฐานะกรรมการบริหารบริหารบริษัทศิลาชัยฯ โอนหุ้นของบริษัทบุรีเจริญฯ จำนวน 119 ล้านบาท โดยไม่มีค่าตอบแทนให้กับนายศุภวัฒน์ และยังพบว่าบริษัทศิลาชัยฯโอนเงินบริจาคให้พรรคภูมิใจไทยอีก 4.7 ล้านบาท


นายชูวิทย์ กล่าวว่าพฤติการณ์ดังกล่าวพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 72 เนื่องจากรู้ หรือควรจะรู้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเงินที่ได้รับบริจาคได้มาด้วยไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากนายศักดิ์สยามเป็นเลขาพรรคและกระทำการนำเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบเข้าพรรค


ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชาติได้ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามความผิดมาตรา 144 และเชื่อว่าการยื่นของพรรคของพรรคก้าวไกล และการยื่นต่อ กกต. ของตนจะสามารถพิจารณาทันก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ


 นอกจากนี้นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องนโยบายของกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค อ้างว่าให้กัญชาใช้ในทางการแพทย์ จากหลักฐานวิชาการกัญชาไม่ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตเวช แต่ในปัจจุบันกลับพบว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกัญชาเพิ่มขึ้น เช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่พันตำรวจโทเกิดอาการคลุ้มคลั่งและก่อเหตุยิงในบ้านพัก ก็มีผลมาจากการเสพกัญชา


นายชูวิทย์ ยังบอกว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่านายอนุทินนัดรับประทานอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนบางนา-ตราด 32 เมื่อวันที่ 15 มีนาคมเวลา 18.30 น. กับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล  ตนอยากถามว่าการนัดรับประทานอาหารครั้งดังกล่าวมีจุดประสงค์อะไร "ไม่รู้ว่าไปหาหรืออะไรกันจะเก็บตนหรือ" ถ้าเป็นอย่างนั้นตนก็ไม่กลัวเพราะตนทำหน้าที่ตามสิทธิของประชาชนในการตรวจสอบพรรคการเมือง


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าคิดว่า นายศักดิ์สยาม วางแผนก่อนจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่ นายชูวิทย์ ถึงกับสบถว่า "ไม่รู้โคตรพ่อโคตรแม่มัน ไม่รู้จริง ๆ"


ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยออกมาแถลงว่า นายศักดิ์สยาม ถูกใส่ร้าย โดยนายชูวิทย์ ใช้ศาลเตี้ยนั้น มองว่า ศักดิ์สยามตายแหงแก๋ “ที่ใส่ร้ายผมว่าทำอาบอบนวด ซื้อบาร์เบียร์ ซึ่งซื้อบาร์เบียร์ผมติดคุกสองปีไปแล้ว ส่วนอาบอบนวดผมก็เห็นทุกคนมาเที่ยวกัน อย่าให้ผมได้เอ่ยชื่อ แล้ววันนี้คุณล้วนแต่เอาเรื่องเก่ามาพูดเพื่อใส่ร้ายผม อยากใส่ก็ใส่ไปเยอะเยอะเลย แต่ผมไม่กลัว กูไม่กลัวมึง เพราะสิ่งที่ผมทำก็เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ การรณรงค์ต่อต้านพรรคภูมิใจไทยก็ถือเป็นภารกิจหลักของผม ที่อ้างว่าชูวิทย์ รับงาน พูดจาอาฆาตมาดร้ายนั้น ผมยังไม่รู้เลยว่าผมอาฆาตมาดร้ายตรงไหน หากบอกว่าผมรับงาน ก็ขอให้ใจถึงหน่อยว่ารับงานมาจากใคร ให้พูดออกมาตรง ๆ ไม่ใช่พูดแบบก้ำกึ่ง”


พร้อมปล่อยมุกต่อสายหาพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหลังสื่อมวลชนสอบถาม ปรากฏภาพร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับ นายอนุชิน นายศักดิ์สยาม และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แกนนำพรรคคนสำคัญ ว่า "อ่ะโหล บิ๊กป้อม กกต. จะรับเรื่องยุบพรรคภูมิใจไทย ดี ส.ส.จะได้ไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สอยไปทั้งเขื่อง"


ก่อนที่นายชูวิทย์ จะไปยื่นหนังสือถึง กกต. ได้เดินเข้าหากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณโถงกลางศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตะโกนเชิญชวนไม่ให้เลือกพรรคภูมิใจไทยเสียงดังกึกก้อง และพูดซ้ำ ๆ ว่า “อย่าเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคนี้มันบ้ากัญชา” และบอกกับสื่อมวลชนว่า “มึงตายแน่ ตายทั้งรัง” ทำให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นตอบกลับอย่างมีอารมณ์ร่วมว่า "ไม่เลือก"


นายชูวิทย์ ยังได้เดินไปหยิบรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง แล้วพูดว่า “สวยดี รองเท้าผู้หยิงน่าจะเอาไปฝากพรรคภูมิใจไทย มันเป็นพรรคที่มีผู้หญิงหรือเปล่า คนตั้ง 400 คน มารุมผม ผมประชาชนคนเดียว พรรคนี้พรรคยังไงของมัน มันไม่ใช้ลูกผู้ชาย มันเอาคน 400 คน มารุมผม” พร้อมหยิบรองเท้าส้นสูงพูดว่า “นำไปฝากพรรคภูมิใจไทย”


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/GE43op_v6vg

คุณอาจสนใจ

Related News