เลือกตั้งและการเมือง

ไลน์ ปชป.เดือด! ปม 'ปริญญ์' ลามใครเป็นกิ๊ก-ชู้ 'นิพนธ์' ขอเรื่องในบ้าน อย่าเอาไปบอกข้างนอก

โดย passamon_a

17 เม.ย. 2565

434 views

ไลน์กลุ่ม กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ เดือด ใครเป็นกิ๊กใครเป็นชู้ ด้านไลน์กลุ่ม ส.ส.-อดีตส.ส. จี้ผู้บริหารพรรคออกมาขอโทษประชาชน ขณะที่ 'นิพนธ์' วอนอะไรที่พูดกันภายใน ก็อย่าเอาไปข้างนอก ส่วน 'เทพไท' ชี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของพรรค ในการคัดสรร กก.บห.


เมื่อวันที่ 16 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เนื่องจากมีคดีล่วงละเมิดทางเพศหลายรายนั้น ได้มีการพูดคุยภายในกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่มีสมาชิกในนั้นรวม 36 คน


โดย นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้นำข้อความที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ที่ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนให้นายปริญญ์ เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค


ซึ่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ส่งข้อความในไลน์ว่า "แปลว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยครับ" ขณะที่นางศรีสมร ตอบว่า "ไม่มีความเห็นค่ะท่าน"


หลังจากนั้น นางมัลลิกา บุญมีตระกูล ซึ่งเป็นคนสนิทของนายจุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความสวนขึ้นมา ในลักษณะเปิดประเด็นเหน็บแนมคนในพรรคอย่างดุเดือด ว่า "พฤติกรรมของคนหนึ่งคน ควรถูกสอบจริยธรรมทั้งกรรมการบริหารพรรค รึ? แปลว่า อยากอะไร? อยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค? อยากเปลี่ยนกรรมการบริการพรรค หรือ อยากอะไร? เรื่องนี้เป็นกระบวนการหรือเปล่า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค 39 คน เรื่องของปริญญ์ยังไม่รู้เลยว่า "ผิด ถูก" เป็นอย่างไร


แต่ถ้าเทียบกัน !! เรื่องที่คนรู้กันทั้งพรรคว่า คน ๆ หนึ่ง เป็น "ชู้" ของเมียคนอื่นมานานนม !! แบบนี้ ต้องสอบจริยธรรม ไหม หรือ พวกที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็น "กิ๊ก" ของผัวคนอื่น หรือพวกที่เอาเสื้อไปแขวนไว้บนรถของผัวคนอื่นเพื่อไปงานด้วยกัน ... หรือให้ผัวคนอื่นขับรถไปรับถึงบ้านตนเอง แบบนี้ เรียกว่าต้องสอบจริยธรรมไหม? .... หรือ คนบางคน เป็น "ชู้" ของผัวคนอื่นมานาน จนถึงขั้นสุด "รู้กันทั้งบาง" มาวันหนึ่ง เปลี่ยนทางจากผัวของอีกคน มาเป็นผัวของอีกคน !! แล้วคน ๆ นั้น เป็น ส.ส. ในสภาด้วย !!


แบบนี้ เราต้องสอบจริยธรรมไหม ???? ใครจะสอบ !!!! ถ้าต้องตั้งกรรมการ มาสอบจริยธรรมกรรมการบริหารพรรค ตั้งเลย !! สอบตั้งแต่กรรมการเนี่ยแหละ" หลังจากโพสต์ข้อความนี้ ในกลุ่ม กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่าในห้องดังกล่าวเงียบ


ส่วนในไลน์กลุ่มชื่อ "อดีต ส.ส.และส.ส.ประชาธิปัตย์" ที่มีสมาชิกในห้องรวม 155 คน ได้มี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง โพสต์ข้อความว่า "ขออนุญาตนะครับ เรื่องที่เป็นข่าวฉาวในขณะนี้ กระทบคนที่ทำที่พื้นที่อย่างหนัก ผมเชื่อว่า ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.และส.ก.จะยิ่งหนักกว่า หนักที่สุดคือชื่อเสียงของพรรคเรา ที่อีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ผมขอให้ผู้บริหารมีท่าทีที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้ ที่จะสร้างความมั่นใจกับสังคมว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เพิกเฉย ดูดาย หรือเกียร์ว่าง กับเรื่องที่เกิดขึ้นครับ ขออนุญาตที่ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมา"


หลังจากนั้นไม่มีสมาชิกพรรคหรือผู้บริหารพรรคตอบ ต่อมา นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุตอบว่า "ปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่จบก็เพราะไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำอย่างตรงไปตรงมา เห็นใจคนลงพื้นที่ค่ะ"


ขณะที่ นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา ได้โพสต์ต่อว่า "น่าเสียดายเหตุการณ์นี้ไม่น่ามาซ้ำเติมพรรคให้ตกต่ำลงไปในสายตาประชาชนเลย สงสารพี่เอ้ และบรรดาผู้สมัครส.ก.ทุกคน ถ้าฝ่ายบริหารไม่สืบสวนความจริงและออกมาขอโทษประชาชนในเรื่องนี้ ก็จะกระทบภาพของพรรคในอนาคตอีกด้วยครับ"


ด้าน นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อาวุโสที่สุดในห้องไลน์กลุ่มนี้ ได้ส่งข้อความว่า "อย่ากลัวปัญหา เมื่อมีปัญหา ก็อย่าหนีปัญหา" หลังจากนั้นไม่มีการพูดคุยถึงประเด็นต่ออีก


ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ยังมีกระแสความเคลื่อนไหวและการพูดคุยซุบซิบกันว่าในหมู่สมาชิก ส.ส. และอดีต ส.ส.พรรค ถึงกรณีของนายปริญญ์ ว่าตอนที่นายจุรินทร์ เสนอชื่อนายปริญญ์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค และทีมเศรษฐกิจทันสมัย ท่ามกลางการไม่เห็นด้วยของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และ ส.ส.หลายคน ที่รู้จักประวัตินายปริญญ์ ได้เคยทักท้วงและคัดค้าน เพราะไม่เคยผ่านงานการเมือง ไม่เคยเป็น ส.ส. หรืออดีตผู้สมัคร ส.ส.


แต่ปรากฏว่า นายจุรินทร์ ยังยืนยันเสนอชื่อนายปริญญ์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย เพื่อต้องการสร้างภาพให้เห็นว่า สามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเป็นทีมอเวนเจอร์ ซึ่งขณะนั้น นายกรณ์ จาติกวณิช ยังเป็นสมาชิกพรรค และเป็นอดีต รมว.คลัง ถูกมองข้ามหัวไป จนทำให้นายกรณ์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และไปตั้งพรรคกล้า


ในเวลาต่อมา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของนายปริญญ์ และล่าสุดในไลน์กลุ่ม กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ หลุดออกมา จนมีข้อความตอบโต้เดือด ว่า


เมื่อนายปริญญ์ ตัดสินใจดำเนินการตามที่แถลงแล้ว เราก็เคารพการตัดสินใจของนายปริญญ์ และการตัดสินใจก็จบที่นายปริญญ์ ได้พิจารณาดีที่สุดแล้ว เขาลาออกจากทุกตำแหน่งและสมาชิกพรรค ถือว่าแสดงความรับผิดชอบสูงแล้ว ดังนั้นเรื่องนายปริญญ์ ถือว่าเข้าสู่การพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว ส่วนนายปริญญ์ จะดำเนินการกับคนที่กล่าวหาอย่างไรก็ว่ากันไป


ทุกฝ่ายในพรรคก็เดินหน้าปฏิบัติภารกิจของพรรคต่อไป อะไรที่พูดกันภายในก็อย่าเอาไปข้างนอก เรื่องในบ้าน บางครั้งก็ให้เป็นการคุยกันภายใน เราคุยกันแบบพี่น้อง เหมือนครอบครัว ถ้าเอาเรื่องภายในไปบอกข้างนอก ก็ดูเป็นบ้านที่ไม่สงบสุข


"ผมขอร้องและวอนทุกฝ่ายให้เห็นแก่พรรค เวลานี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงปีจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ก็ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนในพรรคร่วมแรงร่วมใจกันทำภารกิจให้กับพรรคตามหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ส่วนใครมีความเห็นส่วนตัวอย่างไรก็ว่าไป"


ผมเคารพทุกฝ่าย และเป็นสิทธิส่วนตัว เราถือว่าประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ใครสั่งให้ใครหยุดพูดได้ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของพรรค แต่พูดอะไรก็ควรดูวันเวลา และคำนึงถึงพรรคบ้าง ในเวลานี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าพวกเราสามัคคีกันและเดินไปข้างหน้า และเตรียมพร้อมสู้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีก 8-9 เดือนข้างหน้า


ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า จากกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ถูกข้อกล่าวหาว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ จนได้ลาออกจากทุกตำแหน่งภายในพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว ซึ่งเป็นความผิดส่วนตัว และไม่อยากให้ไปเกี่ยวข้องกับพรรค แต่ก็มีคนบางกลุ่ม สื่อบางสำนัก ใช้สื่อโซเชียลปั่นกระแสพยายามพุ่งเป้าโจมตีทำลายพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพรรคเป็นอย่างยิ่ง


เมื่อนายปริญญ์ได้แสดงความรับผิดชอบต่อพรรค โดยการลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินการกับนายปริญญ์ ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ตามข้อบังคับพรรค ที่มีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจน ส่วนตัวได้กล่าวขอบคุณนายปริญญ์ ที่ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบีบบังคับให้ลาออก ถือว่าเป็นการแสดงสปิริตเพื่อรักษาบรรทัดฐานของพรรคไว้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความ หรือการละเมิดทางเพศ หรือเกี่ยวกับจริยธรรมแต่อย่างใด ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด


สำหรับกรณีที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวเรื่องแชตหลุดว่า มีผู้บริหารพรรคและคนในพรรคประชาธิปัตย์ให้กำลังใจนายปริญญ์ ในเรื่องนี้นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะในกลุ่มไลน์ของพรรคยังไม่มี ส.ส.คนใด หรือกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคคนใด ให้กำลังใจ หรือปกป้องนายปริญญ์เลย มีแต่สนับสนุนให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะเชื่อว่าคำพิพากษาของศาลยุติธรรมเท่านั้นคือคำตอบสุดท้าย


จากปรากฏการณ์ของนายปริญญ์ จะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ในการคัดสรรบุคคลเข้าสู่ตำแหน่ง กก.บห.พรรค ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจของพรรคให้มีความรอบคอบ รัดกุมให้มากกว่านี้ ในสมัยอดีตที่ผ่านมา บุคคลที่จะเข้าสู่ตำแหน่ง กก.บห.พรรค จะต้องเป็นสมาชิกพรรค และทำงานกับพรรคเป็นเวลายาวนานพอสมควร ถ้าเป็น ส.ส.ของพรรค ก็จะเป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัย กว่าจะก้าวสู่การเป็น กก.บห.พรรค ได้


แต่การเข้าสู่ตำแหน่งภายในพรรคของนายปริญญ์ นับว่ากรณีพิเศษที่เป็นรองหัวหน้าพรรคโดยไม่ได้ผ่านการเป็น ส.ส.หรือผู้บริหารพรรค หรือในตำแหน่งอื่นในพรรคมาก่อน จึงทำให้ไม่สามารถพิสูจน์จุดยืน แนวความคิด หรือประวัติส่วนตัวได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ย่อมกระทบต่อขวัญกำลังใจของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และชื่อเสียงของพรรคอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ขอให้เชื่อมั่นในความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอุดมการณ์มั่นคง จุดยืนชัดเจน จะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด ยึดความถูกต้องเป็นหลัก เคารพในหลักนิติรัฐนิติธรรมเป็นที่ตั้งมายาวนานถึง 76 ปี


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/twhg9INg7yA

คุณอาจสนใจ

Related News