เลือกตั้งและการเมือง

‘ศิริกัญญา’ ซัด รัฐบาลหน้ามืด เพื่อดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ ‘จุลพันธ์’ ลั่น ชอบด้วยกฎหมาย

โดย olan_l

3 ก.ย. 2567

48 views

การอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 มีความเข้มข้นโดยการอภิปรายของพรรคประชาชน


วันนี้มีการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ถึงแม้ในภาพรวมจะเป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่มีการประท้วงหรือปะทะคารมกันแบบแรง ๆ แต่ในเนื้อหาก็มีความเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงการอภิปรายพรรคประชาชน

โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ลุกขึ้นมาอภิปรายครั้งแรกในมาตรา 4 คือ วงเงินงบประมาณรวม 3,752,700 ล้านบาท ขอปรับลดงบประมาณลงอีกราว 2 แสนล้านบาท เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนไป มีแนวโน้มชะลอตัว รัฐบาลเสี่ยงจัดเก็บรายได้ไม่ตรงเป้า

แต่ช่วงที่ น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายอย่างดุเดือด คือ ในมาตรา 6 เรื่องงบกลาง โดยโฟกัสไปในเรื่องงบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และขอตัดงบประมาณในส่วนนี้ 1.87 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่ตั้งไว้ในวาระ 1 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท และ อีก 3.5 หมื่นล้านบาท ที่ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า มาจากการเบี้ยวหนี้ ชักดาบธนาคารรัฐ 5 แห่ง ก็ขอให้คืนให้ธนาคารทั้ง 5 แห่งไป

น.ส.ศิริกัญญา พูดถึงการหางบเพื่อทำโครงการนี้ของรัฐบาลว่า "เรียกว่าหน้ามืดแล้ว มีเงินตรงไหนเหลือก็ขอไปล้วง ไปควักออกมาให้หมด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ครบ 3.05 แสนล้านบาทอยู่ดี ยังขาดอีก 1.17 แสนล้านบาท เท่ากับคน 12 ล้านคน ที่ตอนนี้ยังหน้าซิ่วหน้าขวานว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้ประชาชนจนครบ ซึ่งหากยังไม่ครบแล้วท่านจะไปตัดงบธนาคารแห่งรัฐมาก่อนทำไม

จึงเห็นว่า สภาฯ ยังไม่จำเป็นต้องเห็นชอบเงินจำนวน 1.87 แสนล้านบาทเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ควรรอให้มีการแถลงนโยบายให้จบก่อน แล้วค่อยมาออกเป็นพ.ร.บ.โอนงบประมาณ ก็ยังทันและควรจะเลิกเรียกว่าดิจิทัลวอลเล็ตได้แล้ว เพราะไม่มีดิจิทัลและวอลเล็ตแล้ว

อีกคนที่อภิปรายอย่างดุเดือด คือ นายวีระ ธีระภัทรานนท์ (นักจัดรายการชื่อดัง)กรรมาธิการจากสัดส่วนพรรคประชาชน ในช่วงที่อภิปรายมาตรา 4 ขอลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ตั้งไว้ 3,752,700 ล้านบาท เหลือ 3,565,000,000 ล้านบาท

นายวีระ ระบุว่า งบ 2568 มีที่มาจาก 2 ทางด้วยกัน ได้แก่ รายได้ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ 287,000 ล้านบาท และมาจากการกู้เงินเพื่อชดเชยรายได้ที่ไม่เพียงพอ 865,000 ล้านบาท

"พูดแบบชาวบ้านก็คือ เงินกูไม่พอ เลยต้องใช้เงินกู้มาเติม" เป็นการจัดงบประมาณแบบขาดดุล ซึ่งมีการจัดงบประมาณแบบนี้มามากกว่า 10 ปี เรียกว่าประเทศเราได้ติดกับดักการจัดทำงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นทุกปี ...นี่คือการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถานะการเงินการคลังของรัฐ ถ้าหากไม่ยับยั้งหรือบริหารจัดการแก้ปัญหาเสียตั้งแต่ต้นมือ สิ่งที่เป็นภาระทางการคลัง ก็จะกลายเป็นความเสี่ยงทางการคลัง และสุดท้ายนำไปสู่วิกฤติการคลังได้ในที่สุด"

ขณะที่รัฐมนตรีจุลพันธ์ ก็เป็นคนหลักของรัฐบาลในการลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายตลอดทั้งวัน ช่วงหนึ่งนายจุลพันธ์ ชี้แจงประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันรัฐบาลดำเนินการตามกฎหมาย และ ชัดเจนแล้วว่านายกฯคนใหม่ก็ประกาศชัดเจนว่าจะเดินหน้าโครงการนี้

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบฯ 68 ชี้แจงมาตรา 6 งบกลาง ว่าในส่วนของบกลางรายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนที่ห่วงในการเปลี่ยนแปลงงบของธนาคารรัฐ 5 แห่ง ยืนยันว่าชอบด้วยกฎหมายทุกประการ

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า โครงการเติมเงิน10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเราได้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และอยู่ในขั้นตอนการทูลเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี(ครม.) และต้องมีการเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ และนำเสนอนโยบายแห่งรัฐต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจนถึงวันนี้ จากนายกฯก็ได้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะต้องเดินหน้าต่อ แต่รูปแบบและรายละเอียดของโครงการอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยจะต้องรอให้ได้ ครม.ชุดใหม่และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0V-kNb2oA58

คุณอาจสนใจ

Related News