ตามโผ! 'มงคล' นั่งประธาน สว.ลั่นมาจากก้อนดินก้อนทราย เข้าใจความยากจน พร้อมทำงานเพื่อประชาชน

ไฮไลต์การเมืองวันนี้ คือ การประชุมวุฒิสภาครั้งแรกเพื่อเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ซึ่งผลก็เป็นไปตามโผที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า สว.สายสีน้ำเงิน จะส่งใครมาชิง เริ่มตั้งแต่การเลือกประธานวุฒิสภาที่คุณมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น



ในการประชุมวุฒิสภานัดแรกวันนี้ มีพลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี สว.ที่อายุมากที่สุด ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว โดยมีวาระให้ สว.กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งก็จะเห็นได้ว่า สว.ส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลืองมาประชุม โดยในจำนวนนั้นส่วนใหญ่ก็คือ กลุ่ม สว.ที่ถูกเรียกว่า เป็น สว.สายสีน้ำเงิน



เมื่อเข้าสู่วาระการเลือกประธานวุฒิสภา พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ ได้เสนอชื่อ นายมงคล สุระสัจจะ นายเศรนี อนินบล เสนอชื่อ นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร เสนอชื่อ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส



จากนั้นเป็นการให้แคนดิเดตแต่ละคนแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งก่อนจะแสดงวิสัยทัศน์มีการลงมติว่าจะให้แสดงวิสัยทัศน์กี่นาที โดยทางกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ เสนอให้ใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที ขณะที่อีกกลุ่มเสนอว่าไม่เกิน 5 นาที จึงเหมือนเป็นการปะลองกำลังครั้งแรกของกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ กับ สว.สายสีน้ำเงิน ซึ่งสุดท้าย ที่ประชุมมีมติด้วยเสียงข้างมาก 143 ต่อ 54 คะแนน ให้แสดงวิสัยทัศน์ไม่เกิน 5 นาที และให้แคนดิเดตมาจับฉลากเรียงลำดับการแสดงวิสัยทัศน์



นายแพทย์เปรมศักดิ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์เป็นคนแรก ได้เน้นประเด็นว่า สว.ต้องมีความเป็นอิสระ ไม่เช่นนั้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นสภาใบสั่ง สภารีโมท สภาหวยล็อก สภาบล็อกโหวต และช่วงท้ายขอให้สมาชิกเลือกผู้ที่มีสุขภาพดีมาเป็นประธาน เพราะต้องนั่งทำหน้าที่นาน ถ้าเกิดปวดปัสสาวะ และมอบรองประธานไม่ทัน จะต้องปิดการประชุมไปก่อน



จากนั้นเป็นคิวของนางสาวนันทนา เน้นประเด็นการสร้างภาพลักษณ์ให้วุฒิสภามีความยึดโยงกับประชาชน ด้วยแนวทาง 5 ส. สัมพันธ์ สร้างสรรค์ สื่อสาร สมดุล และสากล และย้ำว่า การตัดสินใจของ สว.ในครั้งนี้จะเป็นการชี้ชะตาอนาคตของวุฒิสภา เป็นตำนานในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่



ขณะที่นายมงคล แสดงวิสัยทัศน์ว่า นับตั้งแต่ตนบรรจุเป็นข้าราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ ตนสำนึกว่าแผ่นดินนี้ได้ให้โอกาสตนมากมายเหลือเกิน และตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศชีวิต จะตั้งใจปฎิบัติหน้าที่รับใช้แผ่นดิน รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่



"ความหวังที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อรับใช้ประชาชน แก้ปัญหาในชาติในช่วงที่กล่าวได้ว่าเป็นวิกฤติที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ...เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในวุฒิสภาแห่งนี้ ก็มีความตั้งใจไม่ต่างไปจากผม การปฎิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติในฐานะสมาชิกวุฒิสภาที่ต้องการให้ประเทศไทยและคุณภาพชีวิตของคนไทยไปสู่สิ่งที่ดีกว่าและดีขึ้นในทุกมิติ...อยากเห็นสังคมไทย อยากเห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เราเห็นต่างกันได้แต่เราต้องไม่สร้างความแตกแยก เราต้องเริ่มต้นจากความเป็นหนึ่งเดียวของวุฒิสภาแห่งนี้..."



และช่วงหนึ่ง ระบุว่า "ชีวิตผมมาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นเด็กวัด เรียนอาชีวะ ผมเข้าใจความยากจนข้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นมีสาย ผมเติบโตมาในระบบราชการ โดยการทำงานอย่างหนัก เต็มความรู้ความสามารถ เต็มประสบการณ์ในการประสานงานกับพี่น้องประชาชน คลุกคลีอยู่กับพี่น้องประชาชนทั้งในชนบทตลอดชีวิต..."



หากตนได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มสติปัญญาเต็มความรู้ความสามารถ...พร้อมที่จะใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ประสานงานกับทุกท่านให้เป็นเนื้อเดียวกันให้เร็วที่สุด เพื่อให้วุฒิสภาแห่งนี้บรรลุผลความเป็นสภาของสามัญชน เป็นสภาที่ประนอมอำนาจ เพื่อดับวิกฤตของสังคมไทย" จากนั้นเป็นขั้นตอนให้สมาชิกลงคะแนน ซึ่งเป็นการลงคะแนนลับ และการนับคะแนน ซึ่งสุดท้ายก็เป็นไปตามคาด คือ นายมงคล ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยได้คะแนนท่วมท้นมากถึง 159 เสียง ทิ้งห่างนางสาวนันทนา ที่ได้มาเป็นอันดับสอง ได้ 19 คะแนน และ นพ.เปรมศักดิ์ ได้ 13 คะแนน



หลังเลือกประธานวุฒิสภาเสร็จแล้ว พล.ต.ท.ยุทธนา ประธานที่ประชุม ได้สั่งพักการประชุมเพื่อให้สมาชิกได้ไปพักรับประทานอาหาร ซึ่งช่วงพักการประชุม ก็มีบรรยากาศ สว.การเข้าไปแสดงความยินดีกับนายมงคล

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/key_-LZ9F3s