ไม่เลื่อน! กกต. เปิด 5 เหตุผล เดินหน้าเลือก สว. ตามไทม์ไลน์

เรื่องการเลือก สว. หลังจากที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณา กฎหมายเลือก สว. 4 มาตรา ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้วันนี้ กกต.มีการประชุม ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ที่สุดแล้ว ที่ประชุมมีมติ เอกฉันท์ไม่เลื่อนการเลือก สว. ยังคงเดินหน้าจัดไปตามไทม์ไลน์ เดิม



คุณอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผย ผลการประชุม กกต. ซึ่งกรณีที่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณา กฎหมายเลือก สว. 4 มาตรา ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า กกต.มีมติ เอกฉันท์ไม่เลื่อนการเลือก สว. เนื่องจากยังไม่มีเหตุจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะทำให้การเลือก สว. ต้องเลื่อนออกไป ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้ง กกต.ก็ต้องปฏิบัติตาม คำวินิจฉัย และ กกต. ไม่หวั่นหากมีคนไปยื่นร้องให้การเลือก สว. ครั้งเป็นโมฆะ เพราะที่ กกต. ดำเนินอยู่จนถึงวันนี้เป็นการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน ยืนยันว่า กกต. ไม่ได้ปฏิบัติต่างจากที่กฎหมายกำหนด



ทางด้าน นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็ได้มีการแถลงข่าว ยืนยันว่า กกต.จำเป็นต้องการเดินหน้า การเลือก ส.ว เพื่อให้ได้ สว.200 คน ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้



ซึ่งตามไทม์ไลน์ ในระดับ อำเภอ จะเลือก วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายนนี้ ระดับจังหวัด วันที่ 16 มิ.ย. และระดับ ประเทศ 26 มิ.ย. คาดว่า ประกาศผลได้ ต้นเดือน ก.ค.



เลขาธิการ กกต. ให้เหตุผล ในการเเดินหน้า เลือก สว. ครั้งนี้ ไว้ 5 เหตุผล คือ



1. ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ในการรับคำร้องว่า ยังไม่ปรากฏความเสียร้ายแรงที่ยากต่อการแก้ไขเยียวยาในภายหลัง

2. ยังไม่มีเหตุจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จนต้องเลื่อน

3. ก่อนบังคับใช้ กฎหมาย เลือก สว. ร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณา ของ ศาลฎีกา /ศาล รธน. /และ กกต. ตามรัฐธรรมนูญมาแล้ว ว่าขัด รธน.หรือไม่

4. การทำหน้าที่ ของ กกต. ก็ทำตามกฎหมายที่ออกมาโดยชอบของรัฐสภา

5. ถ้ามีเหตุจำเป็นมิอาจหลีกเลี่ยงได้ขึ้นมาในอนาคต กกต. สามารถใช้อำนาจแก้ไขปัญหาได้



เลขาธิการ กกต. บอกด้วยว่า มีหลายคนบอกว่า มันสับสนและซับซ้อน เพราะบางเรื่อง กฎหมายเขียนไม่สุดทาง ทำให้คนไปตีความ เกิดความสับสน



ส่วนประเด็นความไม่ชัดเจน อื่นๆ ที่สังคมตั้งคำถาม อย่างเรื่อง ที่ถูกมองว่า กกต. ตัดสิทธิ์การเลือก สว. ในอำเภอที่มีผู้สัมครแค่กลุ่มเดียว เพราะไม่สามารถเลือกไขว้ได้นั้น เลขา กกต. บอกว่า ไม่ได้ตัดสิทธิ์ นะ มีกลุ่มเดียวก็ยังจัดให้มีการเลือก รอบแรก คือ เลือกกันเองภายในกลุ่ม แต่ เมื่อผ่านไปรอบ 2 คือ รอบเลือก ไขว้กลุ่ม พอไม่สามารถไขว้ได้ ผู้ สมัครก็จะไม่มีคะแนน กระบวนการมันก็จะจบที่ตรงนั้น



ส่วน เรื่อง ที่ กกต. ทำบัตร เลือก สว.ใหม่ ออกมา จากเดิมการเลือกในรอบ 2 จะใช้บัตรใบเดียว เลือกบัตรใบเดียวได้ 4 กลุ่ม กกต. เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นแบบแยก บัตรออกมา เลือก ใบละกลุ่มแทน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบัตรเสีย เนื่องจากถ้าเป็นบัตรใบเดียวเลือกได้สีกลุ่ม ถ้ากลุ่มให้เลือก เสียไป ก็เสียไปทั้ง 4 กลุ่ม ด้วย



และประเด็น สำคัญ เลขา กกต. ยืนยันว่า ทุกสถานที่เลือก สว. ในแต่ละดับ จะมีสถานที่สังเกตการณ์ ให้กับกลุ่มองค์กรต่างๆ สามารถเข้ามาสังเกตการณ์ได้



สำหรับ เรื่องที่ศาลรับคำร้อง เป็นประเด็น หลังจากที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไปร้องในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.วิเดือน งามปลั่ง ผู้สมัคร สว. และยังมีอีกคำร้องในลักษณะเดียวกันของผู้ สมัคร สว.รายอื่นๆ



เป็นการร้องกับศาลปกครอง แต่มีคำขอให้ศาลปกครอง ส่งคำโต้แย้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความกฎหมาย เลือก สว. 4 มาตรา ว่าขัดรัฐธรรมนูยมาตรา 107 เรื่งอที่มา สว.หรือไม่



มาตรา 36 ของกฎหมายเลือก สว. กำหนด ผู้สมัคร สว.สามารถมีผู้ช่วยแนะนำตัว ซึ่ง ทนายธีรยุทธ บอกว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติ ผู้ช่วยแนะนำตัว ไว้ ต่างจาก การเลือกตั้ง สส. คือ รอบบนี้จะเป็นใครก็ได้ คนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็สามารถมาช่วยแนะนำตัว ผู้สมัคร สว.ได้ เป็นการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ ผู้สมัครบางคน ไม่สามารถจ้างผู้ช่วยแนะนำตัวได้ และ เปิดทางให้มีการครอบงำ ชักจูงจากกลุ่มบุคคล ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน ทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ที่กำหนดให้มีมาตรการที่ ให้การเลือก สว.เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม



อีก 3 มาตรา คือ มาตรา 40 (3) / มาตรา41(3) /มาตรา42(3) กำหนดการเลือก ระดับ อําเภอ/ระดับจังหวัด/ระดับประเทศ ให้ลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้ (ไม่ต้องลงคะแนนให้ตัวเอง แต่ลงคะแนนให้คนอื่นได้) ประเด็น ทนายธีรยุทธ บอกว่า มีพิรุธ เพราะกฎหมายกำหนดให้ไม่ต้องลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองก็ได้ เท่ากับว่า คนที่มาสมัครแต่ไม่ลงคะแนนให้ตัวเอง เป็นการรับจ้าง ให้เข้ามาเลือกคนอื่นหรือเปล่า เข้าลักษณะเป็นการสมยอมกันในการเลือก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/FKIBQJg1KYc