สภาวุ่น! สส.เพื่อไทย จี้ 'หมออ๋อง' ลาออก ชี้ปฏิบัติไม่เหมาะสม หลังบุกทำเนียบ

การประชุมสภาวันนี้ ช่วงหนึ่งมีบรรยากาศที่ดุเดือด ซึ่งเป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากกรณีที่ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่บุกไปทวงถามเรื่องร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา



ในการประชุมสภาฯ ก่อนจะเข้าสู่ระเบียบวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ใช้สิทธิลุกขึ้นหารือต่อการทำหน้าที่ของนายปดิพันธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราฎษร กรณีบุกไปที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาเพื่อทวงถามเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเงิน ที่ส่งไปให้นายกฯลงนาม

การประชุมสภาวันนี้ ช่วงหนึ่งมีบรรยากาศที่ดุเดือด ซึ่งเป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากกรณีที่ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ที่บุกไปทวงถามเรื่องร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา



ในการประชุมสภาฯ ก่อนจะเข้าสู่ระเบียบวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ใช้สิทธิลุกขึ้นหารือต่อการทำหน้าที่ของนายปดิพันธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราฎษร กรณีบุกไปที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาเพื่อทวงถามเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเงิน ที่ส่งไปให้นายกฯลงนาม โดยนายไชยวัฒนา ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายปดิพัทธ์ ที่ไปที่บุกทำเนียบรัฐบาล รัฐธรรมนูญ กำหนดอำนาจหน้าที่ประธานสภาฯให้ดำเนินกิจการของสภาให้เป็นไปตามข้อบังคับสภา และวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ แต่การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และไม่สมควร



นี่คือเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของ สส. ซึ่งรัฐธรรมนูญได้แบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ไม่ก้าวล่วงกัน แต่ตัวแทนประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ กลับบุกฝ่ายบริหาร เพื่อทวงถามร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน



การเปิดประเด็นของ สส.เพื่อไทยดังกล่าว ก็ทำให้ สส.ก้าวไกลลุกขึ้นมาประท้วง แสดงความไม่เห็นด้วย เริ่มจาก นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ที่บอกทาง สส.เพื่อไทย ว่า ให้เสนอเรื่องนี้เข้ามาเป็นญัตติเลย สส.ได้ช่วยกันพิจารณา



ตามด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ ที่แสดงความเห็นด้วยกับการกระทำของนายปดิพัทธ์ บอกว่า เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯแล้ว เพื่อติดตามร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วพอสมควร ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป 6-7 เดือน เพราะ สส.เป็นผู้เสนอกฎหมาย ดังนั้น การทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ จึงเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำ และไม่ควรตำหนิว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ



จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาอภิปรายว่า ตนเองชื่นชมการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ และมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่การเสนอกฎหมาย เช่น ร่างพระราชบัญญัติไร่อ้อย และน้ำตาล ที่ตนเองเสนอได้มาในปี 2562 แต่กว่าที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงนาม ก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปี เพราะเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน



ปรากฏว่าระหว่างที่นายธีระชัย กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วง และให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น เดินหน้าเข้าสู่วาระการประชุม เพื่อไม่ให้เป็นการเตะถ่วงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จนทำให้นายธีระชัย ไม่พอใจ และเรียกร้องให้ นายปดิพัทธ์ ลาออก เพื่อรักษาศักดิ์ศรี เข้าตามตรอก ออกตามประตู



ก่อนที่นายประเสริฐพงษ์ จะลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง จนทำให้นายธีระชัย ไม่พอใจ แม้นายพิเชษฐ์ จะปิดไมค์โครโฟนแล้ว ก็ยังตะโกนลั่น ก่อนที่นายพิเชษฐ์ จะเรียกเจ้าหน้าที่ และสั่งให้นายธีระชัย หยุดการอภิปรายและนั่งลง เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การประชุมตามปกติ




โดยนายไชยวัฒนา ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายปดิพัทธ์ ที่ไปที่บุกทำเนียบรัฐบาล รัฐธรรมนูญ กำหนดอำนาจหน้าที่ประธานสภาฯให้ดำเนินกิจการของสภาให้เป็นไปตามข้อบังคับสภา และวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ แต่การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และไม่สมควร



นี่คือเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของ สส. ซึ่งรัฐธรรมนูญได้แบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ไม่ก้าวล่วงกัน แต่ตัวแทนประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ กลับบุกฝ่ายบริหาร เพื่อทวงถามร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน



การเปิดประเด็นของ สส.เพื่อไทยดังกล่าว ก็ทำให้ สส.ก้าวไกลลุกขึ้นมาประท้วง แสดงความไม่เห็นด้วย เริ่มจาก นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ ที่บอกทาง สส.เพื่อไทย ว่า ให้เสนอเรื่องนี้เข้ามาเป็นญัตติเลย สส.ได้ช่วยกันพิจารณา



ตามด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ ที่แสดงความเห็นด้วยกับการกระทำของนายปดิพัทธ์ บอกว่า เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯแล้ว เพื่อติดตามร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วพอสมควร ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป 6-7 เดือน เพราะ สส.เป็นผู้เสนอกฎหมาย ดังนั้น การทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ จึงเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำ และไม่ควรตำหนิว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ



จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาอภิปรายว่า ตนเองชื่นชมการทำหน้าที่ของนายปดิพัทธ์ และมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่การเสนอกฎหมาย เช่น ร่างพระราชบัญญัติไร่อ้อย และน้ำตาล ที่ตนเองเสนอได้มาในปี 2562 แต่กว่าที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงนาม ก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปี เพราะเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน



ปรากฏว่าระหว่างที่นายธีระชัย กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วง และให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น เดินหน้าเข้าสู่วาระการประชุม เพื่อไม่ให้เป็นการเตะถ่วงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จนทำให้นายธีระชัย ไม่พอใจ และเรียกร้องให้ นายปดิพัทธ์ ลาออก เพื่อรักษาศักดิ์ศรี เข้าตามตรอก ออกตามประตู



ก่อนที่นายประเสริฐพงษ์ จะลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง จนทำให้นายธีระชัย ไม่พอใจ แม้นายพิเชษฐ์ จะปิดไมโครโฟนแล้ว ก็ยังตะโกนลั่น ก่อนที่นายพิเชษฐ์ จะเรียกเจ้าหน้าที่ และสั่งให้นายธีระชัย หยุดการอภิปรายและนั่งลง เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การประชุมตามปกติ

https://youtu.be/tSPlg_BC8jg