เลือกตั้งและการเมือง
'พิธา' แวะสภาให้กำลังใจสส.พรรค คุยสื่อฯชื่นมื่น ย้ำยังไม่พิจารณาโหวตพท.
โดย panwilai_c
10 ส.ค. 2566
52 views
"พิธา" ปรากฏตัวที่สภา หลังหายไป 2 สัปดาห์ แวะโรงอาหารซื้อไอศกรีมกะทิใส่ลอดช่อง ย้ำยังไม่พิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีฯ จากเพื่อไทย ขอดูรายละเอียด และให้ สส.ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน ประกอบการตัดสินใจ หากสงสัยเพิ่มจะถาม "อุ๊งอิ๊ง"
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาที่อาคารรัฐสภาครั้งแรก หลังหายไปนาน 2 สัปดาห์ เนื่องจากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นายพิธา บอกว่าการเดินทางมาวันนี้ เพื่อให้กำลังใจเพื่อน สส. ในพรรค เนื่องจากวันนี้มีรายงานเข้าที่ประชุมสภาหลายเรื่อง
นายพิธา กล่าวถึง การที่แกนนำเพื่อไทยไปขอคะแนนเสียงก้าวไกลที่พรรคเมื่อวานนี้ว่า ก็รับฟังกันทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่านั้น ถ้าฝั่งเพื่อไทยหรือก้าวไกลมีคำถาม ก็จะนัดเจอกันเรื่อยๆ ส่วนจะมีโอกาสโหวตนายกฯให้เพื่อไทย หรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังรับฟังกันก่อน คงต้องรอดู คำถามเพิ่มเติมก็ พรรคก้าวไกลก็อาจจะสอบถามกลับไป แต่ถ้าเป็นสาระสำคัญจริงๆก็ต้องรับฟังกัน และคิดให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอยากให้มีการตั้งรัฐบาลแบบสลายขั้ว แล้วโหวตนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์ สว. มองเรื่องนี้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ก็ยังรับฟัง และตั้งใจฟัง หากฟังแล้วมีคำถามต่อก็จะถาม น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กลับไป ว่าหมายความว่าอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ต้องฟังมากกว่าอย่างอื่น และต้องดูว่าสถานการณ์จะทำอะไรให้มันคลี่คลายไปได้บ้าง ตนมองว่ามีปัจจัยที่ต้องคิดรอบคอบหลายเรื่อง โดยยึดหลักการเป็นสำคัญ และยึดในสิ่งที่เราเคยสัญญาไว้ตอนหาเสียง ซึ่งจะอธิบายได้ว่ามีหลักประกอบการพิจารณาอย่างไรบ้าง และต้องฟังประชาชน
เมื่อถามถึงเสียงของประชาชนในโซเชียลที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็นไม่ต้องการจะโหวตให้พรรคเพื่อไทย นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ในโซเชียล แต่ตนได้ย้ำให้ สส. ลงพื้นที่ด้วย อยากฟังเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เพราะด้วยความที่เป็นผู้แทนราษฎร ก็หมายความว่าคนที่มีอำนาจจริงๆคือราษฎร สส.จึงต้องลงพื้นที่ถามประชาชนว่าคิดเห็นอย่างไร เวลาตัดสินใจอะไรยากๆ เราตัดสินใจเองก็ยากอยู่ แต่ถ้าคิดไม่ออกก็ต้องกลับไปหาประชาชน ประชาชนพูดว่าอย่างไรก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีน้ำหนักประกอบการตัดสินใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการตัดสินใจให้รอบคอบ เพื่อมาวินิจฉัยและพิจารณา เมื่อถามว่าจะถึงขั้นฟรีโหวตหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาคิด
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ หากไม่มีรัฐบาล จะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ได้ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องรับฟังและพิจารณา เพราะในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวนมาก แต่ละคนโหวตอะไรไว้ก็เห็นอยู่ ถ้าเราเอาองค์ประกอบของคนที่เคยขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาบอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันก็มีความขัดแย้งกันอยู่ จึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องซักถามพูดคุยกันเพื่อหาความชัดเจน
เมื่อถามว่า ตอนนี้น้ำหนักการโหวตเลือกนายกฯ ของพรรคก้าวไกลไปทิศทางไหน นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของการรับฟังอย่างเดียว ต้องฟังและคิดอย่างรอบคอบ ตนคิดว่าตอนนี้ยังมีเวลา ทำไมต้องรีบขนาดนั้น
ส่วนความคืบหน้าคดีการถือครองหุ้นสื่อไอทีวีนั้น นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่ออะไรมา ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงทั้งการส่งหนังสือ ซึ่งก็ยังรออยู่
สำหรับความคืบหน้าคดียุบพรรค ที่มีการเสนอแก้ไขมาตรา 112 นั้น นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ขยายเวลาในการชี้แจง จึงให้ฝ่ายกฎหมายที่รับผิดชอบ คือ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ดูคำร้องของผู้กล่าวอ้างว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เพราะคิดว่าจะสามารถคัดค้านได้
หัวหน้าพรรคก้าวไกลยังกล่าวถึง กรณีหากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สามารถเสนอชื่อนายพิธาในรอบที่สองได้ว่า จะต้องรอดูคำสั่งศาลก่อนแต่ในข้อเท็จจริง ตามข้อบังคับที่ 41 หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็สามารถที่จะเสนอชื่อตนเองได้ เช่น หากมีการเสนอชื่อ ประกบคู่แข่งขันกันระหว่างตนเองกับคนอื่น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรอคำสั่งศาลสามารถต่อสู้กันได้เลย เชื่อว่าโอกาสที่จะเสนอชื่อยังมีอยู่ ซึ่งต้องดูเวลาที่เหมาะสม
ตอนนี้จึงทำหน้าที่ได้เพียง เป็นกำลังใจให้กับ สส.ของพรรคก้าวไกล ที่ทำงานอยู่ พร้อมกับเตรียมลงพื้นที่หาเสียงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดระยอง เขต 3 ซึ่งทางพรรค ส่ง นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ลงรักษาเก้าอี้ ซึ่งเคยทำงานมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่และมีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคก้าวไกล พร้อมกับสอบถามว่ามีพรรคการเมืองใดส่งผู้สมัครแข่งขันบ้างมี นายสาธิต ปิตุเตชะ หรือไม่จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยมองว่าก็ดีเพราะว่าการเลือกตั้งจะคึกคักอีกครั้ง และจังหวัดระยองเป็นพื้นที่หนึ่งในดวงใจ ซึ่งที่ผ่านมาเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่ดีมาก
นายพิธายังกล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นในเชิงกฎหมายว่าพรรคก้าวไกลจะต้องเลือกระหว่างตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและตำแหน่งรองประธานสภาว่า ตอนนี้พรรคมีทางออกที่เหมาะสมแล้ว หากถึงวันจะต้องเลือก พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่าพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้เป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้ใครจะรู้พร้อมกับหัวเราะ และกล่าวขอบคุณ
ทั้งนี้นายพิธาบอกว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ได้เข้ามายังรัฐสภานับจากวันที่ศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่วันที่ 19 กรกฎาคม จึงต้องการมากินของโปรดและอาหารที่ชอบ ก่อนได้เดินไปซื้อน้ำมะพร้าวกับไอติมไอติมกะทิมหาชัย โดยปกติท็อปปิ้งจะใส่ข้าวเหนียวแต่ว่าหมด จึงใส่ลอดช่องแทน โดยออกตัวว่าไม่มีนัยยะทางการเมืองที่หมายถึงจะลอดช่องใดหรือไม่ จากนั้นนายพิธาได้เป็นนั่งกินไอติมพร้อมกับพูดคุยกับสื่อมวลชน
นายพิธาได้ ทักทายและถ่ายรูปร่วมกับ ประชาชน ทีมงานสส. แม่บ้าน แม่ค้าในโรงอาหาร รวมถึง สส.ของพรรค ซึ่งจังหวะหนึ่ง แม่ค้าได้มอบน้ำส้มให้กับนายพิธา รวมถึงฝากขนมให้กับน้องพิพิมบุตรสาวของนายพิธาด้วย
นายพิธา ยืนยันว่าไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วเข้าสภา เพราะวันนี้ตอนเข้าก็ได้นำบัตรประชาชนไปแลก ไม่ได้ใช้สิทธิ์สส. วันนี้มากินข้าวตามปกติ เพื่อให้สส.พรรคก้าวไกลอุ่นใจว่าหัวหน้าไม่ได้ทิ้ง ยังฟังคำอภิปรายของพวกเขาอยู่ และเป็นกำลังใจในการทำงานให้กับพวกเขา พร้อมกับโชว์บัตรให้ผู้สื่อข่าวเพื่อยืนยัน
อยากจะส่ง soft Power ไปให้พวกเขา ว่าหัวหน้ากำลังติดตามอยู่ ชื่นชมในการอภิปรายครั้งแรก แล้วยังหวังว่าจะได้รีบกลับมาในสภาโดยเร็ว เพราะมีหลายเรื่องที่พรรคเตรียมไว้ นายพิธา ยอมรับว่าวันนี้กำลังใจยังดี มีเยอะพอที่จะมาแบ่งคนอื่น
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้าน การตรวจสอบจะเข้มข้นอย่างไร นายพิธาระบุว่า แน่นอนหน้าที่ใครหน้าที่มัน แต่อยากจะบอกว่าถ้าเป็นฝ่ายบริหาร จะทำงานได้เข้มข้นกว่า ต้องการที่จะเป็นฝ่ายบริหารที่ทำงานด้วยข้อมูล และรวดเร็ว ให้ได้ผลลัพธ์มากที่สุด และเปลืองภาษีประชาชนให้ได้น้อยที่สุด ใช้งบประมาณไม่ตรงกับความท้าทายของยุคสมัย
ฉะนั้นใครที่เคยประทับใจการทำงานเมื่อตอนที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนี้ก็ต้องตามมารยาททางการเมืองให้พรรคเพื่อไทยจัดไปก่อน สักวันหนึ่งหากเปลี่ยนใจ อยากให้คนรุ่นใหม่ ได้ลองทำงานลองดูซิว่าจะเป็นอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เพราะคิดมาอย่างถี่ถ้วนพอสมควร ได้ศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาของแต่ละประเทศมา อยากจะทำงานให้เห็นว่าประเทศไทยไปไกลได้มากกว่านี้ ฉะนั้นหากประทับใจ ความเข้มข้นของฝ่ายค้าน ถ้าเป็นรัฐบาลเข้มข้นกว่าแน่นอน
จากนั้นนายพิธาได้เดินไปทักทายนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลพร้อมสวมกอด พร้อมระบุว่ามาให้กำลังใจ และพูดคุยถึงเรื่องที่นายรังสิมันต์เดินทางไปประชุม ที่อินโดนีเซีย ซึ่งได้พูดคุยกับ พ.ท.หญิงแทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ สว.สหรัฐอเมริกาที่เป็นคนไทย
ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวได้แซว รังสิมันต์ โรม ต่อหน้า พิธา ว่านี่จะเป็นหัวหน้าคนต่อไปใช่หรือไม่ ทำให้ พิธา หัวเราะ โรม จึงตอบกลับว่า "โอ๊ยอย่าเพิ่งเลยครับ"
นอกจากนี้นายพิธา ยังเปิดเผยว่าปัญหาสุขภาพตอนนี้แข็งแรงดี ขณะที่สื่อแซวให้เบ่งกล้ามโชว์ นายพิธาปฏิเสธพร้อมระบุว่าอายคน เดี๋ยวเบ่งแล้วมันไม่มี ช่วงนี้ฝนตกไข้หวัดมีหลายสายพันธุ์ ขอให้ประชาชนและพี่น้องสื่อมวลชนระวังสุขภาพ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Vekju2KG1NE