เลือกตั้งและการเมือง

3 แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย นำทีมสมัครรับเลือกตั้ง - "ยศชนัน" ลั่นพกหัวใจมา จับได้เบอร์ไหนไม่สำคัญ

3 ชั่วโมงที่แล้ว

24 views

(28 ธ.ค.68) บรรยากาศช่วงเช้าที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีการนัดหมายว่าที่ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย นัดรวมตัวที่ทำการพรรคในเวลา 05.30 น. นำโดยนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยทั้ง 3 แคนดิเดตนายกฯ สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีแดง โลโก้พรรค “เพื่อไทย ทำได้” ส่วนผู้สมัครสวมใส่สูทสีดำ

จากนั้นในเวลา 06.00 น. มีการปล่อยคาราวาน โดยแกนนำพรรค ขึ้นรถเมล์ไฟฟ้าสีแดง พรรคเพื่อไทย ออกเดินทางไปยังเซ็นทาราศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เมื่อเดินทางมาถึงผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเล็งตัวเลขไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า เรื่องตัวเลขไม่เป็นไร วันนี้ได้เลขไหนก็พร้อมที่จะทำงานให้กับประชาชนทุกคน

ส่วนได้พกของขลังเพื่อเป็นขวัญกำลังใจหรือไม่ นายยศชนัน กำมือวางที่หน้าอก ก่อนจะบอกว่า ใจอย่างเดียว มีใจกับทีมงาน เมื่อวานได้กำลังใจจากว่าที่ สส. เขต ทุกคนมีขวัญกำลังใจพร้อม และวันนี้ทีมปาร์ตี้ลิสต์พร้อม ซึ่งวันนี้มากันกว่า 30 คน โดยกิจกรรมหลังจากได้เบอร์แล้ว ก็น่าจะเป็นการพบปะประชาชนในบริเวณใกล้เคียง สิ่งสำคัญที่สุด คืออยากให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นแห่งความหวังอีกครั้งหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศไทยตอนนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เป็นปีที่พวกเราจำเป็นต้องสามัคคีกัน ครั้งนี่นโยบายของพรรคเป็นไปในแนวทางที่ดูแลทั้งประชาชนรากหญ้า ซึ่งจำเป็นต้องทำ และอีกแนวทางหนึ่งคือการสร้างเศรษฐกิจใหม่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้พี่น้องประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมเต็มที่ เราเคยทำสิ่งนี้มาเหลืออีกนิดเดียว เราจะสามารถทำให้สำเร็จ ขอโอกาสพี่น้องประชาชน ครั้งนี้พวกเราพร้อมที่มองปัญหาในสายตาพี่น้องประชาชน

ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่า หลายนโยบายของพรรคเป็นนโยบายเดิม ที่นำมาสานต่อ จะมีนโยบายใดใหม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มีนโยบายที่จะเปิดอีก 2 รอบ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสิน เป็นคำตอบ และเป็นความหวัง ให้พี่น้องประชาชนว่าประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย

ส่วนจะเป็นนโยบายประชานิยมแบบเดิมหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ถ้าประชาไม่นิยม มันก็ไม่เกิดประโยชน์ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยทำ เป็นนโยบายที่ประชาชน จับต้องได้ และได้ประโยชน์กับประชาชน เชื่อว่าประชาชนต้องนิยมชมชอบแน่นอน

เมื่อถามว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนรอบนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่มี เราผ่านประสบการณ์ที่เราเป็นรัฐบาล เรารัฐราชการที่แข็งแกร่ง วันนี้กลไกหนึ่งที่เราต้องทำคือการเปลี่ยนรัฐอุปสรรค ให้เป็นรัฐสนับสนุน ซึ่งไม่ใช่แค่การสนับสนุนใครก็ตามที่มาเป็นรัฐบาล แต่ต้องสนับสนุนให้บริการประชาชน ให้ดียิ่งขึ้นต้องมีการปรับปรุง ปฏิรูปโครงสร้างรัฐเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่านโยบายที่ออกมาจะไม่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ และนายยศชนัน หันมองหน้ากัน ก่อนจะตอบว่า ครับ

ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้วางแผนการหาเสียงเลือกตั้งอย่างไร นายยศชนัน กล่าวว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ทั้งสามคน รวมถึงผู้สมัคร สส. ของพรรคเพื่อไทย มีความเชี่ยวชาญต่างกัน และสามารถทำงานแทนกันได้ ซึ่งได้มีการวางแผนหาเสียงไว้ในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว

ส่วนประเมินตัวเลข สส. บัญชีรายชื่อของพรรคไว้เท่าเดิมหรือไม่ ลดลงแค่ไหน นายสุริยะ เชื่อว่า มากกว่าเดิมแน่นอน เพราะนโยบายต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทย เมื่อเปิดไปแล้วประชาชนต้องชอบ เพราะเราทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน

ส่วนประเมินกระแสส่วนตัวของนายยศชนันอย่างไร นายยศชนัน กล่าวว่า เรามองตั้งแต่เกิด ซึ่งยังไม่สามารถเลือกตั้งได้ สิ่งสำคัญที่สุด เริ่มตั้งแต่พื้นฐานของเยาวชน เราพยายามสื่อสารตลอด ว่าอยากให้เป็นความหวัง มีความจำเป็นต้องทำนโยบายในส่วนนี้ เพื่อให้เยาวชนสามารถเติบโตมาได้อย่างดีที่สุด

ส่วนในเรื่องการทำงานก็ได้มีการสื่อสาร ในเรื่องการสร้างโอกาส สร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยทำให้โอกาสใหม่ ๆ เข้ามา และอีกนโยบายคือการดูแลผู้สูงอายุ การดูแลคนเกษียณ ด้านการศึกษา สาธารณสุข ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยทำนโยบายมาตั้งแต่ไทยรักไทย

เมื่อถามว่าประเมินว่ารอบนี้ จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากที่เปิดชื่อนายยศชนัน เป็นแคนดิเดตเบอร์หนึ่ง และเดินสายออกรายการต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยต่างแย่งตัวกัน เพื่อชวนไปพบชาวบ้าน ตนจึงคิดว่าช่วงนี้นายยศชนัน ต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเตรียมตัวลงพื้นที่ และหาเสียง และหากได้รับเลือกจากประชาชนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องทำงานหนักกว่านี้

เมื่อถามถึงความพร้อมในการจับมือจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างส้มกับน้ำเงิน พรรคเพื่อไทย จะจับมือกับพรรคไหน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มาโฟกัส ว่าใคร จะจับกับใคร เพราะวันนี้อย่าดูถูกประชาชนให้ประชาชนได้ตัดสินการเลือกตั้งจากนโยบาย จากตัวบุคลากรที่เขารักและชอบ และพรรคการเมืองที่เชื่อมั่น ไปตัดสินคนอื่นในนาทีนี้คงยังไม่ได้ เหมือนที่นายกชนันท์บอกว่าประชาชนไม่มีเทา ถ้าประชาชนเลือกมา เราต้องเคารพ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเราไม่มีข้อจำกัดว่าจะจับ หรือไม่จับกับใคร แต่มีความเชื่อมั่น จะเดินหน้าสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใครที่จะมาร่วมกับเรา ต้องศึกษาทำความเข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทย และพร้อมสนับสนุนการทำงานนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ครั้งที่แล้วเราก็เจอบทเรียนที่มีพรรคร่วมที่อาจไม่สอดประสานในบางจุด ฝากทุกพรรคการเมืองถ้ามีเวลา ก็ศึกษานโยบายพรรคเพื่อไทย เพราะในอนาคต พอจัดตั้งรัฐบาล จะได้มาคุยกัน ว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกันหรือไม่ ก่อนย้ำว่า จุดยืนเพื่อไทยขณะนี้ไม่ได้ติดขัด ในการจับมือกับพรรคใด พรรคเพื่อไทยให้เกียรติประชาชน ในการเลือกตั้งต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินก่อน

ส่วนคำถามที่บอกว่กเป็นพรรคอันหนึ่ง จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกคนหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนขอตอบเลยว่ามันอยู่ที่กระบวนการประชาธิปไตย เสียงอันดับหนึ่งได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เรายึดมั่นมาโดยตลอด ครั้งที่แล้วตอนปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็ยึดมั่นเช่นเดียวกัน ได้ให้พรรคอันดับหนึ่ง ดำเนินการในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อจับไม่ได้ จึงเป็นลำดับที่สองดำเนินการ แต่ไม่มีที่ พรรคอันดับหนึ่ง แต่ไม่มีว่าเป็นพรรคอันดับหนึ่งแล้วทุกคนต้องยกมือให้ เป็นการเข้าใจหลักการประชาธิปไตยคลาดเคลื่อน ต้องมาคุยกันว่านโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News