เลือกตั้งและการเมือง

ไร้เงาเขมรร่วมวง! ไทยจับมือ UNODC จัดประชุมต่อต้านสแกมเมอร์ ‘อนุทิน’ เรียกร้องนานาชาติร่วมปราบ

7 ชั่วโมงที่แล้ว

25 views

ประเทศไทยร่วมกับ UNODC เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลก เพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต โดยมี 58 ประเทศเข้าร่วม เลขาธิการสหประชาชาติ ส่งวีดีโอมาร่วมเปิดประชุมหวังว่าจะเกิดความร่วมมือต่อต้านอาชญกรรมสแกมออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสียดายที่กัมพูชา ไม่ได้เข้าร่วมประชุมประชุม ขณะที่นายกรัฐมนตรี คาดหวังที่ทุกประเทศจะร่วมประกาศแถลงการณ์กรุงเทพ ในวันพรุ่งนี้ ติดตามรายงานจากคุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย


กระทรวงการต่างประเทศร่วมมือกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC จัดประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลก เพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวง ทางอินเทอร์เน็ต (IC-GPOS) ระหว่างวันที่ 17 - 18 ธ.ค.68 ที่กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วม 338 คน จาก 58 ประเทศ สหภาพยุโรปและ 5 องค์การระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ ส่วนกัมพูชาไม่ได้ส่งตัวแทน เข้าร่วมประชุม ในจำนวนนี้มีผู้แทนระดับรัฐมนตรี 7 ประเทศ ได้แก่ รวันดา ไทย เมียนมา อินโดนิเซีย เวียดนาม อินเดีย และจีน


นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการประชุมว่า อาชญากรรม "สแกมเมอร์" เป็นภัยคุกคามของโลกที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือในการส่งกลับบุคคลกว่า 10,000 คนจากกว่า 40 จากศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และไทยจำเป็นต้องประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองเหยื่อ และแยกแยะผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน ไทยสามารถยึดทรัพย์ได้มูลค่าเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เกือบ 1 หมื่นล้านบาทแล้วและไทยเป็นหนึ่งใน 72 รัฐภาคีที่ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ โดยหวังว่าจะมีการรับรอง แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ (Bangkok Joint Statement) ร่วมกันในวันพรุ่งนี้

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ขอบคุณรัฐบาลไทยและ UNODC ที่จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น เพราะออนไลน์สแกมเป็นอาชญากรรมที่มีเหยื่อทั่วโลก และยังมีการค้ามนุษย์ สหประชาชาติพร้อมเป็นหุ้นส่วนสำคัญในต่อต้านสแกมเมอร์


นาย Volker Turk ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวย้ำว่าอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาคลำน้ำโขง ฉ้อโกงประชาชนเป็นมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท มีผู้ตกเป็นทาสและการค้ามนุษย์มีการประมาณว่ามีผู้คนหลาย 100,000 คนจาก 60 ประเทศถูกล่อลวงให้ไปทำงานในศูนย์สแกมเมอร์โดยสถานที่หนึ่งอาจอยู่หลาย 10,000 คน จึงต้องมีมาตรการเร่งด่วน คัดแยกเหยื่อ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกบังคับส่งกลับไปยังประเทศ ที่เสี่ยงต่ออันตรายร้ายแรง รัฐต้องปกป้องพื้นที่พลเมืองและเสรีภาพของสื่อ และต้องระบุชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการจ้างงานที่เป็นเท็จ ซึ่งกว่า 70% ของการปฎิบัติการหลอกลวงจะอยู่ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและขยายตัวอย่างรวดเร็ว


นางสาวเดลฟีน ช้านทซ์ ผู้แทนจากUNOCD ชื่นชมนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้นำในการร่วมมือกับนานาชาติ ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแนวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ UNODC จึงหวังว่าการประชุมครั้งนี้ที่ต่อเนื่อง จากการลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประเทศเวียดนาม จะนำไปสู่การประชุมสุดยอดด้านการฉ้อโกงระดับโลก ที่จะจัดขึ้นในปีหน้าโดย UNODC และอินเตอร์โพล ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในเดือน มี.ค.69


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่าเสียดายที่ประเทศกัมพูชาไม่ได้เข้าร่วม แม้ไม่ได้พาดพิงประเทศใด แต่ต้องยอมรับว่าภูมิภาคของเราเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมออนไลน์ หากกัมพูชามาร่วมก็เป็นเรื่องดี เพราะเป็นเรื่องหนี่งในข้อตกลงสันติภาพ


ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวถ้อยแถลงในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ขอบคุณทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุม เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยจริงจังกับการปราบปรามออนไลน์สแกม ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกและเชื่อว่าแถลงการณ์ร่วมกรุงเทพ จะเป็นจุดเริ่มต้นต่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าจะให้หมดไปภายใน 5 ปี


นายกรัฐมนตรี เปิดเผยมีหลายประเทศให้ความสำคัญอย่างโมร็อคโค ส่งรัฐมนตรีมาร่วมถึง 3 คน รวมถึงอินเดียที่ขอบคุณในการส่งกลับเหยื่อสแกมจากเมียนมา แต่เป็นห่วงที่หลายคนหนีกลับมาอีก จึงต้องทำงานร่วมกัน และเสียดายที่กัมพูชา ไม่เข้าร่วมประชุม ก็แสดงให้เห็นหลายอย่าง เพราะเราจริงใจที่จะแก้ปัญหานี้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/L9XXVHLB4tE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  กัมพูชา ,สแกมเมอร์

คุณอาจสนใจ

Related News