เลือกตั้งและการเมือง

“ไอติม” ชี้ “เพื่อไทย” มีอำนาจยุบสภาได้เลย ไม่ต้องรอพรรคประชาชน

1 ก.ย. 2568

117 views

“ไอติม” ชี้ “เพื่อไทย” มีอำนาจยุบสภาได้ไม่ต้องรอพรรคประชาชน ย้ำจุดยืนเดิมยุบสภาคือทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ ไม่ใช่ต้องเลือกใครมาแทนที่การยุบสภา แต่ต้องเลือกคนไปยุบสภามา เผยวงประชุมมีความเห็นหลากหลาย

14.55 น. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม สส.พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ตัวแทนพรรคเพื่อไทยได้ให้ความเห็นว่า ถ้าพรรคประชาชนไม่สามารถตัดสินใจเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งได้จะตัดสินใจยุบสภานั้น โดยมองว่า ทางพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคประชาชนตัดสินใจ เพราะพรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินการยุบสภาได้ โดยไม่ต้องรอเรา แต่สามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ ณ เวลานี้ยุบสภาได้เลย

และตนเองขอย้ำในจุดยืนของพรรคประชาชน 3 ข้อคือ ตั้งแต่มีคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกับฮุนเซน ทางพรรคได้เรียกร้องมาตลอดว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการยุบสภาเพื่อให้ประเทศมีการเลือกตั้งใหม่และมีรัฐบาลใหม่โดยเร็ว เป็นรัฐบาลที่มีความชอบธรรมและมีสเถียรภาพ รวมถึงศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งทางพรรคเรียกร้องมาตั้งแต่วันนั้น เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ณ เวลานั้น ทั้งอดีตนายกฯ แพทองธาร และนายภูมิธรรม เวชยชัย แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง

ส่วนข้อที่ 2 มาจนถึงวันนี้ทางพรรคประชาชนยืนยันว่า รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจยุบสภาอยู่ที่นายภูมิธรรม และพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากจะยุบสภาก็สามารถดำเนินการได้เลย ไม่ต้องรอพรรคประชาชนตัดสินใจ และประการสุดท้ายอยากย้ำกับประชาชนว่า เหตุผลที่พรรคประชาชนต้องมาประชุมด้วยความหนักใจ ณ เวลานี้ ก็เพราะก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีการยุบสภา ดังนั้นต้องมองว่า “พรรคประชาชนจะใช้เสียง 143เสียงในสภาอย่างไรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีไปยุบสภา ดังนั้นมันไม่ใช่ว่าเราต้องการจะเลือกใครมาแทนที่การยุบสภา แต่เราต้องเลือกคนไปยุบสภา หากไม่มีการยุบสภาเกิดขึ้นจนถึงวันที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งนี่เป็นจุดยืนของพรรคประชาชนที่อยากฝาก ไปยังประชาชน”

ส่วนการยุบสภาในช่วงนี้ถือเป็นข้อดีของพรรคประชาชนใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวย้ำว่า เราเรียกร้องให้มีการยุบสภาตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุด ดังนั้นไม่ว่านายกจะขื่ออะไร พรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นพรรคใด องค์ประกอบของสภาชุดนี้ไม่สามารถทำให้เรามีรัฐบาลที่มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาประเทศได้ ทั้งความชอบธรรม และความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมือง และเสถียรภาพ ศักยภาพในการตั้งทีมบริหารที่จะดึงคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาขับเคลื่อนการแก้ปัญหายากๆของประเทศได้ ดังนั้นเราก็ยังยืนอยู่จุดเดิมจาก 2 เดือนที่แล้ว

เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยขู่ยุบสภา คือการโยนความรับผิดชอบให้พรรคประชาชน ว่าเป็นคนที่ทำให้ไม่สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่นี้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามแบบนั้น แต่ตนเองมีหน้าที่เพียงแค่มายืนยันในข้อเท็จจริง ว่าหากพรรคเพื่อไทยต้องการยุบสภาไม่จำเป็นต้องรอความเห็นของพรรคประชาชนสามารถที่จะดำเนินการได้เลย

ส่วนหากมีการเปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของทั้งสองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย นายพริษฐ์ ระบุว่า ถ้าไม่มีการยุบสภาและไม่มีกลุ่มใดสามารถที่จะรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง แล้วพรรคประชาชนจำเป็นต้องพิจารณาว่าจะนำเสียงสส.ของพรรคไปสนับสนุนใครให้เข้ามาทำหน้าที่ในการยุบสภาตามสามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชน 14,000,000 คน ที่เลือกพรรคประชาชนก็อยากจะได้รับความมั่นใจว่าคนที่จะมาตอบรับเงื่อนไข จะรักษาคำพูดได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งพรรคประชาชนก็จะยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว หากส่งแคนดิเดตนายกฯมาก็จะทำให้ ประชาชนพิจารณาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

ส่วนพรรคเพื่อไทยมีเจตนาอย่างไรที่ออกมาพูดในประเด็นนี้นั้น นายพริษฐ์ ว่า จะมีเจตนาอย่างไรให้ไปถามพรรคเพื่อไทย

ส่วนเรื่องความคิดเห็นของพรรคเพื่อไทยที่จะยุบสภาหากพรรคประชาชนไม่เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งจะมีการพูดคุยในที่ประชุมวันนี้ด้วยหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ บอกว่า ประเด็นนี้ไม่ได้คุยเพราะเป็นจุดยืนของพรรคประชาชนมาโดยตลอด แต่ที่จะต้องมาชี้แจงก็เพราะอยากให้เกิดความชัดเจนกับประชาชน และจะต้องรีบกลับขึ้นไปประชุมและรับฟังความคิดเห็น เพราะวันนี้มีการอภิปรายกันอย่างหลากหลายจึงไม่อยากพลาดในทุกประเด็น

นายพริษฐ์ ยังบอกอีกว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ยังประชุมกันอยู่ และมีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งตั้งแต่วันศุกร์ สส.ของพรรคก็ทีโอกาสกลับเข้าไปในพื้นที่ เพื่อพูดคุยกับประชาชน ดังนั้นขั้นตอน นการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายทั้งของตัว สส.เอง และ ประชรชนในพื้นที่ที่สะท้อนเข้ามา คงต้องใข้เวลาสักพัก และตอนนี้ยังอยู่แค่ช่วงต้นของการประชุมยังไม่ทราบว่าจะจบลงเมื่อไร

เมื่อถามถึงการพูดคุยในที่ประชุม มีการแสดงความคิดเห็นถึงคุณสมบัติแคนดิเดตของทั้งสองพรรคอย่างไรบ้างนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้ แต่ที่ผ่านมาเราย้ำว่าการตัดสินใจหากไม่มีการยุบสภาและไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เราก็จะพิจารณาเลือกนายกเพิ่มอีกหนึ่งภารกิจเพื่อไปยุบสภาและดำเนินการตาม3เงื่อนไขของพรรค ดังนั้นจึงไม่ใช่ประเด็นที่จะมาพิจารณาว่าคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกคนไหนดีหรือไม่ดีกว่ากันเพราะเราไม่ได้ไปสนับสนุนการทำหน้าที่ของนายกคนนั้นหรือรัฐบาลชุดนั้น เพราะถ้าจะมีการดำเนินการใดๆของเงื่อนไขพรรคคือต้องมีคนเข้าไปเพื่อยุบสภา

คุณอาจสนใจ

Related News