เลือกตั้งและการเมือง
“บิ๊กเล็ก” เผยไทยปฏิเสธ หลัง “อันวาร์” ต่อสายขอเพิ่มเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ ขอยึดจำนวนเดิม
19 ส.ค. 2568
290 views
“บิ๊กเล็ก” เผยไทยปฏิเสธ หลัง “อันวาร์” ต่อสายขอเพิ่มเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ ขอยึดจำนวนเดิม แนะไม่พอให้ใช้จากสำนักงานทูต ฮึ่มให้อดทนต่อการยั่วยุของชาวบ้านกัมพูชา แต่ถึงจุดๆ หนึ่งค่อยว่ากัน รับไอเดียสร้างรั้ว ต้องจัดลำดับ เอาสร้างรั้ว หรือเตรียมพร้อมรบก่อน
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกัมพูชาแสดงความไม่พอใจและออกมาขัดขวางระหว่างไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (ไอโอที) ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี โดยระบุไทยไม่แจ้งก่อน ว่า คงต้องค่อยๆ คุยกันไป เพราะเราตกลงกันแล้วตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ว่าจะนำไอโอทีลงไป ความตั้งใจของตนเองหลังจากการประชุมจีบีซีจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (อาร์บีซี) ต่อ รายละเอียดการปฏิบัติพื้นที่จะต้องเป็นผู้ลงรายละเอียด ที่ทั้งสองฝ่ายต้องมาคุยกันถึงรายละเอียดทั้ง 13 ข้อ ส่วนการที่ไอโอทีลงพื้นที่และทหารกัมพูชามาต่อว่านั้น ไม่เป็นไร ต้องคุยกัน เราอยากให้มีกลไกมาตรวจสอบทั้งสองฝ่าย เพื่อความแสดงความโปร่งใสและจริงใจ
เมื่อถามว่า การที่ทหารกัมพูชาออกมาแสดงในลักษณะนี้ หมายถึงไม่ยอมรับการเจรจาหรือการพูดคุยของไทยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องดู เพราะเมื่อสักครู่ได้ร่วมประชุมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ซึ่งทางกัมพูชาต้องการจะเพิ่มจำนวนคนเข้ามาอีก อย่างที่ตนเองเคยพูด ในระดับนโยบายเขาแสดงความจริงใจและต้องการให้มีชุดเข้ามาสังเกตการณ์ แต่ในระดับพื้นที่อาจจะคลาดเคลื่อน แต่จะต้องพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากยังไม่ทราบในรายละเอียด
ส่วนการที่ประชาชนออกมาแสดงการยั่วยุที่บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งอาจจะมีการพังรั้วลวดหนามในอนาคต ได้เตรียมรับมืออย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ย้ำว่าต้องการให้ใช้กลไกเดิมคือ อาร์บีซี ไอโอที ซึ่งหากไอโอทีทำงานแล้วมีปัญหาเราจะใช้ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (เอโอที) แต่วันนี้ที่นายกฯมาเลเซียโทรศัพท์มาคุย อยากให้มีการเพิ่มคนในชุดไอโอที โดยทางมาเลเซียให้เหตุผลว่าอัตราในสำนักงานปัจจุบันที่ไม่สามารถรองรับงานที่เพิ่มขึ้นมาได้ แต่ทางไทยยืนยันขอจำนวนเท่าเดิม และให้ใช้คนในสถานทูตไปก่อน
ส่วนสามารถรับมือกับการใช้จิตวิทยาของกัมพูชาได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่าต้องพยายามไม่ให้เกิดการยั่วยุและใช้อาวุธ แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยในอาเซียนกำลังเฝ้าดูกันอยู่ ผ่านการใช้กลไกไอโอที ซึ่งเราจะต้องไม่แสดงอาการว่าเป็นฝ่ายยั่วยุเสียเอง ต้องใช้ความอดทน แต่หากถึงจุดๆ หนึ่งก็ว่ากันอีกที
ส่วนกรณีผู้ช่วยทูตทหารที่ลงพื้นที่กับฝ่ายไทยก่อนหน้านี้ มีการตอบรับอย่างไรบ้างนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาเชื่อถือในข้อมูลของเรา จากที่ตนสังเกตเห็นได้อื่นในการประชุมจีบีซี สื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ มารอฟังการแถลงของเรา จากการปฏิบัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเรามีเครดิตที่ดีกว่า
ส่วนกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ฟ้องร้องเอาผิดผู้นำกัมพูชา โดยใช้กลไกในประเทศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการใช้มาตรการที่เบาไป พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นการเสนอกลไกทางกฎหมายในที่ประชุม สมช. โดยเป็นกลไกเริ่มต้นและคงจะมีอะไรเพิ่มเติมต่อไป แต่ตนไม่ขอให้รายละเอียดในกลไกด้านกฎหมาย เนื่องจากจะคลาดเคลื่อนได้
เมื่อถามว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการหารือถึงเรื่องการล้อมรั้วลวดหนามหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่มี จากที่ได้ตรวจสอบจากหน่วยและพูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แนวลวดหนามที่วางไว้ไม่ใช่รั้ว เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิด โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เป็นเช่นนั้น ซึ่งขณะนี้เป็นการวางแนวในส่วนที่คิดว่าเขาจะเข้ามา
ส่วนจะมีการสร้างเป็นรั้วถาวรได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า หากตอบในระดับนโยบาย งบประมาณมีอยู่เพียงเท่านี้ จะทำรั้วก่อนหรือเตรียมความพร้อมรบก่อน เราต้องจัดลำดับความเร่งด่วน แต่หากทำไปพร้อมกันงบประมาณไม่เพียงพออย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมามีการของบประมาณในการสร้างรั้วพื้นที่ภาคใต้ แม่น้ำโกลก ซึ่งขอมานานแล้วแต่ยังไม่ได้ให้เขา แต่หากไปสร้างรั้วแนวชายแดนไทย-กัมพูชาก่อน ทางพื้นที่ภาคใต้จะตั้งคำถามว่าแล้วที่เขาขอล่ะ
พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมนั้น ได้มีการประสานกับทาง ครม.และกระทรวงการคลังให้ใช้วิธีพิเศษเฉพาะเจาะจง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถจัดหาได้ทัน ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็ยินดี แต่จริงๆ ไม่อยากที่จะขออะไรมากไปกว่านี้ เพราะเป็นห่วงว่าจะเกิดความไม่เรียบร้อย แต่จะต้องพยายามทำให้เร็วที่สุด ซึ่งคงไม่เป็นปีแน่นอน โดยส่วนใหญ่เป็นของที่เราเคยจัดซื้อมาแล้วก่อนหน้านี้ จึงไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด เราห่วงทั้งความช้าและความถูกต้อง ในยามนี้ขวัญกำลังใจของหน่วยในพื้นที่ตนต้องเร่งรัดไม่ให้ชักช้า และทุกภาคส่วนก็พร้อม สำนักงบประมาณก็ถามว่าเสนอความต้องการมาแล้วหรือยัง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเซ็นไปแล้ว 2-3 รายการ
แท็กที่เกี่ยวข้อง บิ๊กเล็ก ,อันวาร์ ,ไทยกัมพูชา ,เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์