เลือกตั้งและการเมือง
กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ เสนอฟ้อง “ผู้นำกัมพูชา” ฐานก่ออาชญากรสงคราม อึ้ง! “เขมร” ไม่ยอมจ่ายค่าไฟ
31 ก.ค. 2568
291 views
ที่ประชุม กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ เสนอฟ้อง “ผู้นำกัมพูชา” ฐานก่ออาชญากรสงคราม ด้าน สมช.รับลูก เตรียมศึกษากฎหมายเพิ่ม ยันเจรจาที่มาเลเซีย คุยแค่หยุดยิงเท่านั้น ขณะ กสทช.เตือน ปชช.อย่ารับสายเด็ดขาด เบอร์ขึ้นต้น +697 และ +698 ชี้ปิดเบอร์ผีไปแล้ว 1.7 หมื่นบัญชี อึ้ง! เขมรไม่ยอมจ่ายค่าไฟ กฟภ.เลยงดจ่าย 8 จุด
วันนี้ (31 ก.ค. 2568) ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผลการประชุมคณะ กมธ. ซึ่งนำโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน
คณะ กมธ. ได้ประชุมพิจารณากรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลไกการพูดคุยผ่าน JBC โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงว่าการเจรจาระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นเรื่องการหยุดยิงเท่านั้น ไม่ได้มีการเจรจาเรื่องดินแดนแต่อย่างใด สมช. ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังเจรจาให้หยุดยิง เมื่อเวลา 24.00 น. กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน โดยยังมีการยิงต่อเนื่องจนถึงเวลา 08.00 น. ของวันถัดมาจึงสงบลง โดยไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ตามเดิมและควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้จำนวนหนึ่งและได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมต่อพวกเขา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อส่งกลับกัมพูชาต่อไป ขณะเดียวกันนี้รัฐบาลไทยกำลังตรวจสอบสถานการณ์หยุดยิงตามแนวชายแดน จึงขอให้ประชาชนยังคงอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวต่อไปอีกสักระยะเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการเรื่องหลักการที่ไทยยึดถือในการเจรจาแบบทวิภาคี โดยมีเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่
1. ยึดตามบันทึกความเข้าใจ MOU ปี 2543 ระหว่างไทย-กัมพูชา
2. ไทยมีกลไกการเจรจาทวิภาคีกับพม่า ลาว มาเลเซีย ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้ผล
3. ไทยเราไม่ต้องการเปิดเวทีพหุภาคี
กระทรวงการต่างประเทศ ระบุเพิ่มเติมว่าจะมีการพัฒนากระบวนการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและคัดกรองข้อมูลก่อนจะสื่อสารเพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นเอกภาพ
ด้านสำนักงาน กสทช. รายงานว่ามีการตรวจสอบเบอร์โทรจากต่างประเทศ โดยเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 และ +698 ฝากพี่น้องประชาชนต้องระวังในการรับสาย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการปิดเบอร์ต้องสงสัยไปแล้วกว่า 170,000 ซิม พร้อมย้ำว่า หน่วยงานความมั่นคงสามารถแจ้งตัดสายต้องสงสัยได้ทันที และมีการตรวจสอบ IP ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่วันที่ 13–24 มิ.ย. 68 กัมพูชาไม่ได้ใช้ไฟฟ้าจากไทยทั้ง 8 จุด เนื่องจากบริษัทในกัมพูชาค้างชำระค่าไฟ โดยทางไทยใช้มาตรการงดจ่ายไฟ แทนการเจรจา หากต้องการใช้แนวทางแบบประเทศพม่า จะต้องมีมติจาก สมช. โดยได้เสนอเรื่องให้ ศูนย์ประสานงานชายแดน (ศป.ชด.) พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไปตามมติ
ต่อมามูลนิธิอิมมานูเอล เปิดเผยกรณีเหยื่อค้ามนุษย์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งถูกหลอกและกักขัง ก่อนถูกตั้งข้อหาเป็นอาชญากร โดยมูลนิธิกำลังให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่แท้จริง ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์นี้ ส่วนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) รายงานว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชามีจุดปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทยถึง 14 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนและดำเนินคดี พร้อมออกหมายจับ “นายก๊ก อาน” และพวกอีก 6 ราย โดยตำรวจไทยเร่งปราบปรามอาชญากรข้ามชาติกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
ภายหลังการรับฟังข้อมูล คณะกรรมาธิการได้ซักถามและแสดงความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้ 1.เสนอให้ใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ดำเนินคดีกับผู้นำกัมพูชาในกรณีอาชญากรรมสงครามและการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ต้องผ่านการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่าย ขณะที่ สมช. จะศึกษากฎหมายระหว่างประเทศเพิ่มเติม 2.เสนอให้พัฒนาระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ สมช. รับทราบข้อเสนอ พร้อมประสานงานกับกองทัพเพื่อให้ข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3.เรื่องการควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่รุกล้ำอธิปไตยไทย สมช. ยืนยันจะดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ
4.ในวันที่ 1 ส.ค. กมธ.ได้รับแจ้งว่า ทางรัฐบาลได้เชิญคณะทูตจากกว่า 20 ประเทศ อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ลาว เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ฯลฯ ลงพื้นที่ชายแดนเพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริง 5.เรื่องการเยียวยาทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สมช. ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดูแลเรื่องการเยียวยาประชาชน ส่วนทหารนั้น กระทรวงกลาโหมมีระบบดูแลอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว 6.เรื่องการห้ามโดรนบินใน 7 จังหวัด สมช. ชี้แจงว่าตำรวจและทหารกำลังเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว 7. เรื่องการตั้ง “Monitoring Team” เพื่อแสดงศักยภาพไทยในเวทีระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการเสนอให้ตั้งทีมโดยเร็ว พร้อมให้มีตัวแทนทูตร่วมในทีม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใจแก่ชาวโลก
แท็กที่เกี่ยวข้อง ผู้นำกัมพูชา ,ไทยกัมพูชา ,กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ