เลือกตั้งและการเมือง
จะแบนก็แบนไป! สว.ร่วมด้วยช่วยปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เปิด “ล้งวุฒิสภา”
โดย chutikan_o
17 มิ.ย. 2568
235 views
จะแบนก็แบนไป! สว.ร่วมด้วยช่วยปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เปิด “ล้งวุฒิสภา” รับซื้อ-พร้อมกระจายขายผลไม้ “มงคล” เมิน “กัมพูชา” แบนผลไม้ไทย เย้ยแค่ตลาดท้องถิ่นไม่ใช่ตลาดใหญ่
วันที่ 17 มิ.ย. 2568 ที่รัฐสภา วุฒิสภาจัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย ร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของชาติ” โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตปีนี้สภาพดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีจำนวนมาก เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มังคุด เงาะ ทุเรียน เป็นต้น ทำให้ผลไม้ตามฤดูกาลมีราคาตกต่ำ ประกอบกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทางกัมพูชาได้ออกมาตรการงดนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ที่อาจได้รับผลกระทบต่อเกษตรกรไทย
นายมงคล กล่าวว่า ทางวุฒิสภาพร้อมประสานความร่วมมือกับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหาทางระบายผลผลิตทางการเกษตรในราคาที่ยุติธรรม เนื่องจากรัฐสภามีสถานที่ขนาดใหญ่ มีบุคลากร รวมกว่า 5,000 คน สามารถรองรับช่วยเหลือได้
ในวันนี้มีการนำมังคุด 1,000 กิโลกรัม มะม่วงน้ำดอกไม้ 300 กิโลกรัม และทุเรียน 100 กิโลกรัม มาจำหน่ายภายในพื้นที่รัฐสภา หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจะมีการขยายผลในระยะต่อไป
นายมงคล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้วุฒิสภายังเตรียมร่วมกับกลุ่มมิตรภาพ พร้อมประสานกับสถานทูตประเทศต่างๆ เพื่อมอบผลไม้ไทยเป็นของฝากและประชาสัมพันธ์คุณภาพผลผลิตของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยอาศัยเครือข่ายกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาต่างประเทศเป็นตัวกลางเชื่อมโยง
“วุฒิสภาพร้อมเป็นสื่อกลาง และใช้สถานที่ภายในรัฐสภาซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในการรองรับผลผลิตทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร เพราะนี่คือหน้าที่ที่เราต้องร่วมกันช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤต และขอเชิญสื่อมวลชนและประชาชนร่วมเป็น กำลังใจและสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยใน เพื่อยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกรไทย เราจะจัดกิจกรรมดังกล่าวไปเรื่อยๆ เพื่อระบายสินค้าโดยเฉพาะสินค้า และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทย จะมีการจัดจำหน่ายสินค้าทุกเดือน โดยกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา เป็นเจ้าภาพหลัก อย่าลืมว่า สว.มาจากทุกสาขาอาชีพ รวมถึงอาชีพเกษตรกรเกษตรกรด้วย” นายมงคลกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้กัมพูชาปิดกั้นการนำเข้าผักผลไม้จากประเทศไทยแล้วจะช่วยเกษตรกรอย่างไร นายมงคลกล่าวว่า หากที่ไหนถูกปิด ที่ไหนขายไม่ได้ ให้เอามาที่รัฐสภา เราขายแป๊บเดียวก็หมดแล้ว วันนี้ที่เอามาก็ไม่พอขาย
ส่วนการปิดด่านในครั้งนี้จะมีผลกระทบมากหรือไม่ นายมงคลกล่าวว่า ได้สอบถามทางราชการจังหวัดตามชายแดน แล้วพบว่ามีผลกระทบไม่มากเพราะเกี่ยวข้องกับกำลังซื้อ เพื่อนบ้านเองก็มีการผลิตผลผลิตทางการเกษตรเช่นกัน เราจึงไม่ได้ส่งผลผลิตทางการเกษตรไปกัมพูชาเป็นหลัก เป็นเพียงแค่ตลาดท้องถิ่น
แท็กที่เกี่ยวข้อง สว. ,กัมพูชา ,ผลไม้ไทย ,ล้งวุฒิสภา