เลือกตั้งและการเมือง
ทีมทนาย 'ยิ่งลักษณ์' จ่อยื่นหลักฐาน ขอเปิดคดีจำนำข้าวใหม่ หวังไม่ต้องชดใช้หมื่นล้าน
โดย petchpawee_k
23 พ.ค. 2568
57 views
ทีมทนายยิ่งลักษณ์ จ่อยื่นหลักฐาน ขอเปิดคดีจำนำข้าวใหม่ หลังศาลปค.สั่งชดใช้จีทูจี หมื่นล้าน เผย เป็นยอดขายข้าวค้างโกดังแสนล้านใช้หักลบหนี้ ช่วย “ปู” รอดไม่ต้องจ่ายสักบาท ขอสังคมหยุดให้ร้าย ก่อนโชว์เนคไทแห่งความกตัญญู
เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.68) เวลา 15.00 น. ที่ศาลปกครองสูงสุด ภายหลังศาลนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ
ต่อมา ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งประกาศกระทรวงการคลังกับพวกในการยึด เพื่อทำการขายทอดตลาดเรื่องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เฉพาะในส่วนที่เกินจำนวน 10,028 ล้านบาท ในส่วนที่ปล่อยปละละเลยประเด็นการระบายข้าวจนเกิดความเสียหาย ศาลปกครองสูงสุดยังให้ผู้ถูกฟ้องคดีกันส่วนเพื่อนำมาขายทอดตลาดตามสิทธิของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2
ต่อมา นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ถ้าเทียบกับศาลปกครองกลาง จะเห็นได้ว่ามีส่วนที่เหมือนกันในส่วนคำสั่งของกระทรวงการคลัง 1351/2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดในโครงการรับจำนำข้าวที่มีการผลิต 2555/26 และ 2556/57 จำนวน 1 แสน 7 หมื่น 8 พันล้านบาท ที่ให้รับผิดชอบ 20 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท
คำพิพากษาของทั้งสองศาล ตรงกันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องรับผิดการคำนวณในส่วนนี้ เป็นผลมาจากการคำนวณการขาดทุนของทั้ง 2 โครงการ แต่ให้มารับผิดในส่วนของขั้นตอนการระบายข้าวที่บอกว่ามีการทุจริตในส่วนนี้ ซึ่งขั้นตอนการระบายข้าวจะเห็นได้ว่าอยู่ในขั้นตอนฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งมีคณะอนุกรรมการระบายข้าวเป็นผู้ดูแล แต่ส่วนคำพิพากษาที่ให้รับผิดชอบค่าสินไหม 10,028 ล้านบาทนั้น จะเห็นได้ว่า ในวันที่มีการรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57 มีข้าวเหลือในคลัง 18.9 ล้านตัน ในคำสั่งของกระทรวงการคลังระบุไว้ว่า ถ้าราชการขายข้าวได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่คณะอนุปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวให้ไว้ในวันนั้น ถ้าสูงกว่าสามารถนำมาหักในส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบได้ ซึ่งปัจจุบันข้าว จำนวน 18.5 ล้านตัน เพิ่งถูกขายหมดภายในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
“ปัจจุบันข้าวจำนวนนี้ได้ขายไปหมดแล้วในรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละ 25 บาท ถ้าขายจริงๆ จะได้เงินประมาณ 2.5 แสนล้านบาท และเมื่อนำมาหักทอนกัน ก็สามารถหักทอนกันได้กับเงินหมื่นล้านบาท ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะไม่ต้องชดใช้เลย”
นายนรวิชญ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนที่เป็นทนายความเห็นว่า การจำหน่ายข้าวในส่วนนี้ถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่ทีมทนายความพยายามยื่นเข้าไปในคดีนี้แล้ว แต่การยื่นนั้นสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งศาลก็ไม่รับ หลังจากนี้ทีมทนายความจะต้องหารือว่าจะนำประเด็นนี้ไปขอพิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่ ซึ่งตนยืนยันจะดำเนินการในส่วนนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ข้าว 18.9 ล้านตันนั้น มีบางช่วงในรัฐบาลปี 2558 -2562 มีการนำข้าวดีไปจัดเกรดขายเป็นข้าวเน่า ทำให้ตอนนั้นไม่ได้ราคา เพราะขายในกิโลกรัมละ 3-5 บาท ต่างจากที่กระทรวงพาณิชย์ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรี ขายได้ราคาถึงกิโลกรัมละ 18 บาท ได้เงินไปประมาณหมื่นล้านบาท แต่ยอดรวมที่ขายมาทั้งหมดกว่า 2 แสนล้านบาท
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่กระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลนี้ ขายข้าวเพื่อต้องการกลบหนี้ช่วยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามกลับว่า ใครเป็นคนซื้อ เอกชนเป็นคนซื้อ ซึ่งคงไม่มีใครเอาเงินมากลบ ถ้าคิดแบบตรรกกะธรรมดา
เมื่อถามว่า การหักลบหนี้ได้นั้นจะต้องมีการยื่นพิจารณาคดีใหม่ใช่หรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า จะต้องมีการยื่นพิจารณาคดีใหม่ถ้าหากต้องการหักลบหนี้
เมื่อถามว่า จะมีการยื่นขยายเวลาชดใช้หนี้หรือไม่ หากทีมทนายความจะยื่นให้พิจารณาคดีใหม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า การยื่นขอพิจารณาคดีใหม่นั้นจะต้องยื่นภายใน 90 วัน ตาม พ.ร.บ.พิจารณาคดีปกครอง มาตราที่ 75 ซึ่งในส่วนของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดนั้นถือว่าจบไป และตอนนี้ทรัพย์สินมีการยึดไปและขายทอดตลาดไปเกือบหมดแล้ว โดยจะไม่เกิน 10,028 ล้านบาท
เมื่อถามว่า ในส่วนผู้ร้องที่ 2 ที่ศาลให้กันส่วนทรัพย์สินไว้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ได้มาหลังเดือน พ.ย.ปี 2538 ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมทั้งหมด ทั้งที่ดินบึงกุ่มและเกือบทุกรายการ โดยต้องคืนนายอนุสรณ์ไปครึ่งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ที่จะมีการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่จะมีขั้นตอนอย่างไร นายนรวิชญ์กล่าวว่า จะมีขั้นตอนการยื่นพยานหลักฐานใหม่ โดยเป็นข้อมูลทางราชการ เช่น การขายข้าว และถ้าเกิดยื่นเข้าไปแล้วศาลไม่รับพิจารณาก็ถือว่าทุกอย่างจบ แต่ตนต้องการที่จะสู้เพื่อความเป็นธรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้ง
เมื่อถามว่า ศาลปกครองสูงสุดกำหนดไว้หรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องใช้เงินจำนวน 10,028 ล้านบาท ภายในกำหนดกี่วัน นายนรวิชญ์กล่าวว่า ศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาการใช้เงินในส่วนนี้มา แต่ให้เพิกถอนคำสั่งบางส่วนเท่านั้น ซึ่งทรัพย์สินตอนนี้มีทั้งที่ขายไปแล้ว และส่วนที่กำลังรอการขายเท่านั้น และส่วนที่เกิน 10,028 ล้านบาท ก็ต้องคืนแต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ และไม่มีกำหนดว่าต้องคืนให้ภายในกี่วัน โดยจะไปว่ากันในส่วนของการบังคับคดี ซึ่งคู่ความต้องดำเนินการในส่วนนี้ด้วย เบื้องต้นคือกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลัก กรมบังคับคดีเป็นคนยึดให้ ตามคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น หลังจากนี้ตนขอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าจะยื่นกับกรมบังคับคดี หรือว่ากระทรวงการคลัง
“อยากฝากสื่อมวลชน และคนที่เชียร์ หรือไม่เชียร์ท่าน โปรดอย่านำประเด็นพวกนี้ไปให้ร้าย ใส่ร้ายท่าน เพราะผมสงสารท่าน ทั้งคดีอาญา และคดีในส่วนนี้ และโดนไปหมื่นกว่าล้านบาท ส่วนทนายความ ถ้ามีช่องทางทางกฎหมายที่จะสามารถทำได้ เราก็ยินดีที่จะสู้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ท่าน”
เมื่อถามว่า คำพิพากษานี้จะมีผลต่อการกลับเข้าประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีผลหรือไม่ และไม่ทราบว่าท่านจะเดินทางกลับเมื่อไหร่และไม่รู้ว่าพำนักอยู่ที่ไหน ในคดีแพ่งพวกนี้ไม่มีผลอะไร และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็คงทราบเรื่องจากข่าวแล้ว ซึ่งส่วนตัวตนไม่ได้คุยอะไรกับนายทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการสัมภาษณ์นายนรวิชญ์ได้โชว์เนคไทสีน้ำเงินที่มีลายปักลายเซ็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า เนคไท เส้นนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนซื้อให้ ตั้งแต่สมัยท่านเป็นนายกฯตั้งใส่มาในวันนี้ ก็เพ่อระลึกถึง และแสดงให้เห็นว่า ตนเองจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่
แท็กที่เกี่ยวข้อง คดีจำนำข้าว ,ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ,ทนายความ