เลือกตั้งและการเมือง

โฆษกกล้าธรรมลั่น อุดมการณ์ทางการเมือง ซื้อขายกันไม่ได้ – ‘ช่อ’ ซัดแรง สส.งูเห่า เป็นกะหรี่ทางการเมือง

โดย petchpawee_k

16 พ.ค. 2568

21 views

โฆษกพรรคกล้าธรรม ลั่น อุดมการณ์ทางการเมือง ซื้อขายกันไม่ได้ เผยไม่ได้มีแค่พรรคประชาชน ย้ำการย้ายขั้วรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ ขออย่าใจแคบ ถ้าย้ายขั้วแล้วดูแลพี่น้องในพื้นที่ได้ดีกว่าเดิม ก็ให้เขาย้ายไปเถอะ

วานนี้ 15 พ.ค. 2568 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 ในฐานะโฆษกพรรคกล้าธรรม กล่าวถึง กรณีการย้ายสังกัดเข้าพรรคการเมือง ว่าถือเป็นเรื่องปกติ ของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่างมีเอกสิทธิ์ เลือกเข้าสังกัดพรรค ที่คิดว่า จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ในแต่ละพื้นที่ ที่สส. ดูแลรับผิดชอบ

นายอัครแสนคีรี ยังเปิดเผยอีกว่า พรรคกล้าธรรม เราเป็นสถาบันการเมืองที่เปิดกว้าง ไม่ได้มีแค่ สส.พรรคประชาชน เท่านั้น ที่ขอย้ายเข้ามาสังกัด แต่ยังมีสส.อีกหลายพรรค ที่สนใจเดินไปทิศทางเดียวกับพรรค

“ผมขอย้ำว่า อุดมการณ์ทางการเมือง ซื้อขายกันไม่ได้ ถ้าพรรคไม่มีคุณค่าในตัว คงไม่มีใครให้ความสนใจอยากมาทำงานร่วมกับเรา ดังนั้น การย้ายขั้วทางการเมือง เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ ขออย่าใจแคบ ถ้าย้ายขั้วแล้วดูแลพี่น้องในพื้นที่ได้ดีกว่าเดิม ก็ให้เขาย้ายไปเถอะ”

--------------------------------
ช่อ พรรณิการ์ ย้อนคำสมัยก่อนเปรียบพวก สส.งูเห่า เป็นกะหรี่ทางการเมือง ปชช . ต้องช่วยกันประชาทัณฑ์ ตั้งเป้า ดูด สส. 30-40 คน เพื่อแทน "พรรคภูมิใจไทย" เป็นเรื่องเกินจริง ลั่น หวังสูงไปหลังมีข่าวอยากได้ เก้าอี้ "มท.1"


น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงที่น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 6 จังหวัดชลบุรี พรรคประชาชน แสดงความประสงค์จะย้ายไปพรรคกล้าธรรม และพรรคกล้าธรรม เองก็ระบุว่าจะมี สส.ฝ่านค้าน อีกหลายคนเตรียมย้ายเข้ามาร่วมพรรคอีกจำนวนมาก ว่า การที่โหม มีอีกหลายคนนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคกล้าธรรม ก็โหมมากว่า 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเป็นที่ทราบกันดี หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะมีการปรับ ครม. ดังนั้น การที่พยายามจะเปิดตัว สส.ย้ายร่วมพรรคก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องของการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถแยกเรื่องงูเห่ากับ เสถียรภาพของพรรครวมได้เลย เพียงแต่ราคาคุย ที่บอกว่า มีจำนวน 20 หรือ 30 คน ตอนนี้ ก็เห็นชัดแล้วว่า มี "น.ส.กฤษฎิ์" เพียงคนเดียว แม้จะออกไปแบบเต็มตัวไม่ได้ แต่พรรคประชาชนเตรียมโหลไว้เยอะ พร้อมรองงูส่งเสริมสุราก้าวหน้า ส่วนจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ไม่สามารถรับรองแทนพรรค หรือ สส.แต่เท่าที่พูดคุยกับทีมจังหวัดชลบุรี และภาคตะวันออก ก็ยังถือว่าแน่นหนาอยู่

"ประชาชนทราบดี พรรคจะมีการกรองคนเป็นอย่างดี แค่ไหน และตนมองว่า การพัฒนาจากสมัยของตนตอนพรรคอนาคตใหม่ ที่มีงูเห่านับสิบ ตอนนี้มีเพียงแค่ 1 ก็ถือว่ามีพัฒนาการ แต่พอมีกล้วย มีแป้ง มันก็สามารถล่องูโผล่ออกมาจากถ้ำได้ เราก็ไม่รู้ว่า สุดท้ายจะมีงูเห่าอีกมาน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าพรรคเดินต่อไปได้และประชาชนเข้าใจ เพราะปัญหาเรื่องของงูเห่า มีปัญหาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้ สส.เมื่อถูกขับออกและย้ายพรรคได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้มีการซื้องูเห่าโดยเฉพาะ รวมถึงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล เมื่อมีการชักเข้าชักออก ทำให้มีคนคิดว่าหากมีการขยายมุ้ง ก็อาจจะได้เก้าอี้เพื่อนและตนได้ข่าวว่าอยากจะได้ถึง ตำแหน่ง มท.1 ก็มองว่า อันนี้หวังสูงไปนิดนึงการจะซื้องูเห่าให้ถึง 30-40 คน เพื่อมาแทนที่พรรคภูมิใจไทย มองว่าเป็นเรื่องที่เกินจริง แต่ที่พรรคกล้าธรรม บอกว่าจะถึง 20 คนนั้น ก็ขอให้รอดูกันต่อว่า จะมาจากไหน ถ้าจะมาจากพรรคประชาชน ถึงหลัก 10 ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้"

เมื่อถามว่ามองการเมืองลักษณะนี้เป็นอย่างไรนั้น น.ส.พรรณิการ์ มองว่า การเมืองถอยหลังไป กว่า 40 ปีได้ ตั้งแต่ยังมีคำหยาบที่เรียกว่า" กะหรี่การเมือง" ย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่ประชาชนต้องช่วยกันประชาทัณฑ์ ว่า เมื่อเราพูดถึง งูเห่าหมายถึงคนทรยศ และไม่ได้หมายถึงทรยศต่อพรรคการเมืองแต่หมายถึง ทรยศต่อประชาชนที่เลือกมา เพราะอย่าง น.ส.กฤษฎิ์ ก็ชัดเจนแล้วว่าประชาชนเลือกมาเพราะเป็นพรรคก้าวไกล ประชาชนเลือกมาเพราะพรรคแต่พอถึงเวลาบอกว่าอุดมการณ์ไม่ตรงกัน และขอให้พรรคขับออกเพื่อให้ไปอยู่พรรคกล้าธรรม

อย่างไรก็ตามตน ก็มองว่า น.ส.กฤษฎิ์ มีอยู่ 2 ทางเลือก ก็คืออยู่ให้จบครบเทอม ครั้งหน้าก็เลือกตั้งลงในนามพรรคกล้าธรรม หรืออดทนไม่ได้ ร้อนรนไปหมด ก็ลาออก ซึ่งก็แฟร์ทั้งคู่ พรรคประชาชนก็ส่งคนในนามของพรรคประชาชนต่อ ให้ประชาชนเจ้าของอำนาจตัดสินใจอีกครั้ง แพ้คือแพ้ชนะคือชนะ แต่ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า น.ส.กฤษฎิ์ ไม่ต้องการลาออก เพราะไม่ต้องการ เสียสิทธิ์ในการเป็น สส.

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ ว่า การที่ธรรมกล้าธรรมดึง สส.งูเห่าอย่างนี้ เป็นการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี น.ส.พรรณิการ์ มองว่า คงไม่ซื้องูเห่าไปดูเล่น เพราะงูเห่าไม่ได้น่ารักอะไรและอีกมุมนึงก็เปลือง แต่แน่นอน ว่า ณ วันนี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนละครหลังข่าวเป็นละครตบจูบแต่ช่วงหลัง เหมือนจะตบแรงแล้วไม่มีจูบ โดยภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ก็เล็งเห็นอยู่แล้วว่า พรรคไหน ถ้าหาเสียงสนับสนุนเสถียรภาพของรัฐบาล ก็จะมีอำนาจในการต่อรองมาก ซึ่งต้องยอมรับว่าในยุคนี้มีการซื้องูเห่าเป็นไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วสมัยของพรรคอนาคตใหม่การซื้องูเห่า ก่อนหน้านี้ก็ถูกซื้อโดยพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยออกมาพูดแบบตรงๆ บอกแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเขามาเอง แต่ในยุคนี้หัวหน้าพรรคกล้าธรรมกลับยกมือตัวเองขึ้นมาดม เนื้อหอม แสดงให้เห็นว่าใครต่อใครก็อยากย้ายเข้ามา ซึ่งตนมองว่าประชาชนไม่ได้ทานหญ้าว่าในการย้ายพรรคกลางเทอมแบบนี้ และไปพรรคกล้าธรรม ที่ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่านโยบายและแนวทางพรรคเป็นอย่างไรเพราะว่าประชาชนก็ทราบกันดีอยู่

ส่วนกรณีที่พรรคกล้าธรรม ระบุว่า เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งปี 2570 ไม่ได้ต้องการต่อรองทางการเมือง ตนมอง ว่า ตลกแล้ว เพราะทุกคนก็รู้กันดี ว่า งูเห่าไม่ว่าจะสีส้มหรือสีแดงสอบตก 100% จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยสถิติก็บอกแล้วว่าหากคาดหวังการเลือกตั้งครั้งต่อไปงูเห่าไม่สามารถที่จะกลับมาชนะการเลือกตั้งได้เพราะประชาชน จะลงทัณฑ์อย่างถึงที่สุด




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VYfYQpI3GCE

คุณอาจสนใจ

Related News