เลือกตั้งและการเมือง
"วินธัย" โผล่แจง กมธ.ความมั่นคงฯ ยันกองทัพไม่มี IO ขณะ "โรม" ไม่เห็นด้วยใช้ IO ตามนักการเมือง
โดย nutda_t
1 พ.ค. 2568
211 views
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการในการพิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร ( IO ) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่าได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ โดยมีพลอากาศตรี วิศัลย์ ธรรมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและการข่าว สำนักนโยบายและแผนกลาโหม , พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก , พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาฯจักร ( กอ.รมน.) , พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ , พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,นายวิสูตร ด้วงมาก ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) , นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การพิจารณาวันนี้ ทางกรรมาธิการเห็นว่าเรื่อง IO ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่ามีการใช้ปฏิบัติการ IO หลายครั้ง ทั้งต่อประชาชน นักวิชาการ นักการเมือง เมื่อเป็นแบบนี้ก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบเสียที และหลังจากที่เรามีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เราถือว่าเป็นรัฐบาลพลเรือน เราคาดหวังว่าปฏิบัติการ IO จะไม่มีอีกแล้ว แต่กลายเป็นว่า ปฏิบัติการ IO กลับรุนแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และยังมีอยู่
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเห็นว่าเรื่องการทลายลัง IO มีความก้าวหน้า อย่างน้อยที่สุดประชาชนได้เห็นโครงสร้างนี้แล้ว และ IO เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะ IO การเมืองฝ่ายค้านเท่านั้น แต่พบว่าแม้กระทั่งคนในรัฐบาล หรือคนที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลก็โดน IO ฉะนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่ตนคิดว่าจะเป็นต้องมีแนวทางในการแก้ปัญหา และจัดการเรื่องนี้อย่างมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาที่เราเห็นอยู่ยังไม่มีทางออกในเรื่องนี้เลย ดังนั้นทางกรรมาธิการจึงพยายามเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในวันนี้
“หากถามว่าความคาดหวังคืออะไร ผมคิดว่าเราไม่ควรจะเห็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในการทำข้อมูลปฏิบัติการข่าวสารแบบนี้ เวลาการทำข้อมูลข่าวสารแบบนี้มันเต็มไปด้วยเฟกนิวส์ เต็มไปด้วยการสร้างความเกลี่ยดชังมีจุดมั่งหมายสร้างความแตกแยก ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของกองทัพ อุดมการณ์ของทหารไทย และทำไมเราต้องปล่อยให้ปฏิบัติการแบบนี้ยังมีอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าส่วนตัวมองการใช้ IO ติดตามนักการเมืองไม่เหมาะสมหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในการรบ เช่น ถ้าเป็นการรบระหว่างประเทศ A กับ ประเทศ B ตนเข้าใจว่ามีความจำเป็นในเรื่องปฏิบัติการาข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้าถึงข้อมูล เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง ตนในฐานคณะกรรมาธิการ ไม่ได้ขัดในเรื่องนี้ แต่ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะนำเครื่องมือนี้ไปเตรียมความพร้อม หรือไปใช้ในเหตุการณ์ที่มีสงคราม มีการรบกันกับประเทศอื่นที่อาจเป็นอริราชศัตรู แต่กลายเป็นว่ามาปฏิบัติกับคนในประเทศราวกับเป็นศัตรูของชาติเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องมทำลายความมั่นคงเสียเอง
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การที่กองทัพใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำสงครามกับรัฐอื่น แต่สุดท้ายกลับเอามาใช้กับคนในประเทศ สุดท้ายความั่นคงความสามัคคีของคนในชาติก็สูญสลายไป สุดท้ายเครื่องมือแบบนี้จะถูกตั้งคำถามทั้งการจัดการ การตัดงบประมาณ สุดท้ายเครื่องมือแทนที่จะไปจัดการกับพ่อค้ายาเสพติด คนที่ทำลายความมั่นคงก็ทำไม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือผิดประเภท จึงทำให้สภาฯไม่ไว้วางใจให้ใช้เครื่องมือแบบนี้ต่อไป กลายเป็นว่าความมั่นคงของประเทศโดยรวมอ่อนแอลง เพราะสาเหตุสำคัญคือหน่วยงานความมั่นคงใช้เครื่องมือในลักษณะแบบนี้ทำลายความั่นคงของชาติเอง
ขณะที่การประชุมกรรมาธิการ ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนฟังเพียงในช่วงแรก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. , กระทรวงกลาโหม , กองทัพบก , กองทัพเรือ , กองทัพอากาศ , และสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าไม่มีนโยบายทำปฏิบัติการ Information Operation หรือ IO แต่เป็นการสื่อสารเพื่อความเข้าใจการทำงานของหน่วยงาน และบทบาทหน้าที่ของทหารในการป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน รวมถึงสนับสนุนงานของรัฐบาล
ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น คือ กองทัพบกไม่มีการทำ IO แต่คำนี้ เกิดขึ้นกับทั่วโลก ซึ่งใช้ปฏิบัติการทางทหาร คือการใช้ IO เป็นเครื่องมือสื่อสารในการรบ และอยู่ในภารกิจป้องกันประเทศ ทั้งนี้เมื่อมาอยู่ในประเทศไทย กองทัพจึงใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจและแก้ไขในสิ่งที่เข้าใจผิด ด้วยวิธีประชาสัมพันธ์ และที่ผ่านมากองทัพพยายามที่จะแก้ไขเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเน้นไปที่เรื่องการสร้างความรับรู้ เพื่อปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กร แต่ทั้งหมดเป็นการกระทำโดยเปิดเผย รวมถึงเป้าหมายทั้งหมด คือ ประชาชน และนโยบายของเราไม่เคยคิดว่าความเข้าใจทั้งหมดเป็นเรื่องเลวร้าย แต่เป็นผลดีที่จะทำให้เราได้ชี้แจง ไม่มีลักษณะก้าวร้าว หรือทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน จึงไม่เรียกว่าปฏิบัติการ IO แต่มันคือการสร้างความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ หรือการสร้างการรับรู้
พลตรีวินธัย ยังกล่าวต่อว่า วันนี้เราใช้ช่องทางออนไลน์สื่อสารเป็นหลัก ซึ่งหากพบว่าไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ก็มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเรื่องการหมิ่นประมาท ที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยขั้นตอนในการดำเนินการมีเป้าหมาย คือบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งอาจรวมไปถึงนักการเมืองหรือนักวิชาการด้วย ที่จะอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากสังคมให้ความสนใจ ซึ่งการติดตามจากกองทัพไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะสุดท้ายเราจะต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง ดังนั้นหากความเข้าใจผิดเกิดจากเป้าหมายดังกล่าว ก็จะต้องเร่งชี้แจงก่อน และยอมรับตรงๆ เป้าหมายอื่นคือผู้ที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร โดยมีความต้องการที่สังคมรับรู้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ย้ำว่า ไม่ได้โกรธ หรือตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้ง อมรับว่ากองทัพบกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ ในช่องทางออนไลน์ แต่ทำในลักษณะเปิดเผย
ส่วนต่างๆที่ออกมาโจมตีนักการเมือง และมีการแอบอ้างว่าเป็นทหาร หรือหน่วยงานด้านความมั่น พลตรีวินธัย ยืนยันว่า ไม่ใช่หน่วยงานกองทัพ และหากพบเหตุในลักษณะนั้น ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลย
แท็กที่เกี่ยวข้อง วินธัยสุวารี ,รังสิมันต์โรม ,IOกองทัพ ,ปฏิบัติการIO