เลือกตั้งและการเมือง
"โรม" งง "กคพ." ตั้งต้นคดีฮั้ว สว.แค่ฟอกเงิน เหน็บรัฐบาลเหมือนภาวะเสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน
โดย nutda_t
7 มี.ค. 2568
64 views
7 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (กคพ.) รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เวลาจะพูดถึงฟอกเงิน ต้องมีคดีมูลฐานก่อน ซึ่งตนงงว่าจะตั้งฐานโดยใช้คดีมูลฐานอั้งยี่ซ่องโจร ก็จะสามารถไปคดีฟอกเงินได้ แต่เมื่อตั้งต้นจากคดีฟอกเงินก่อน ก็จะต้องกลับไปตั้งต้นว่าคดีมูลฐานเป็นอย่างไร หากถามว่าทำได้หรือไม่ ตั้งเป็นคดีฟอกเงินก็ทำได้ แต่อาจจะต้องตั้งต้นจากอั้งยี่ซ่องโจรเป็นหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องของการล็อบบี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะเริ่มต้นพิจารณาตำรวจหายไปถึง 3 คน ทั้งที่ตำรวจอยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ ทำไมถึงไม่สามารถกำกับดูแลให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองในบอร์ดดีเอสไอได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า มีผู้ที่มาเกี่ยวข้องมาแทรกแซง แล้วทำให้กระบวนการของดีเอสไอที่มีการประกาศไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา อาจจะดูแปลกประหลาด กลายเป็นว่าแทนที่จะสามารถตั้งต้นได้จากอั้งยี่ซ่องโจร แล้วไปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก็จะเดินไปได้ดีกว่า จริงๆ แล้วต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามที่จะเปิดปฏิบัติการอย่างหนักในเรื่องนี้ แต่แสดงให้เห็นว่า การที่มีบุคคลภายนอก เข้ามาแทรกแซงแล้วทำให้ฐานที่จะดำเนินการเอาผิดกับ สว. ชุดนี้ ว่าอาจจะกระทำความผิดกับคดีอั้งยี่ซ่องโจรหรือไม่ จึงมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่สามารถ ที่จะดำเนินการได้แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรม ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ จึงมีคำถามว่าศักยภาพของรัฐบาลนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องไม่มองแค่ สว.ต้องถามกลับไปด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความผิดอะไรหรือไม่ ถึงปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ สมมติว่ามีการกระทำความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นการฮั้ว สว.หรืออะไร แต่กกต.ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานขนาดนี้ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของ กกต.ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่าเป็นเพราะการพบกันของผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกรัฐบาลหรือไม่ จึงทำให้คดี สว. เหลือเพียงแค่คดีฟอกเงิน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานภาพของรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสภาวะเสือ 2 ตัว อยู่ถ้ำเดียวกัน ซึ่งทำให้ปัญหาความเป็นเอกภาพของรัฐบาลที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่ เพราะมีการปะทะกันระหว่างการทำงานของสองขั้ว ทำให้การทำงานไม่มีความเป็นเอกภาพ การที่เราจะบอกว่าเสือตัวไหนแข็งแรง จะดูแค่ที่นั่ง สส.ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากกว่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีความอ่อนแอลง ผนวกกับมีผู้มีอำนาจที่อยู่นอกรัฐบาลเข้ามามีปัจจัยเกี่ยวข้อง ในการล็อบบี้ต่างๆ สุดท้ายจึงทำให้ดีเอสไอไม่สามารถที่จะทำคดีเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษได้อย่างเต็มที่ การตั้งข้อกล่าวหาจึงดูค่อนข้างแปลกประหลาด
เมื่อถามว่าการที่ตั้งคดีแค่การฟอกเงิน คิดว่าจะส่งผลอะไรกับ สว.ชุดนี้บ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูจากบรรยากาศแบบนี้ แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่มีศักยภาพ ในการที่จะใช้ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นแบบนี้ ถ้ามีผู้กระทำความผิดฮั้ว สว.จริง เขาอาจจะฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย และเป็นบทพิสูจน์ว่าตัวรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมาก มากกว่าที่จะแสดงถึงความเข้มแข็ง คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคือภาวะผู้นำของนายกฯ มากเพียงพอหรือไม่ว่ามีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากเพียงพอหรือไม่ ในการที่ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายซึ่งรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นว่านี่คือรัฐบาลที่เขาต้องยอมรับ และการเป็นผู้นำต่อไป ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจฝ่ายต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป และเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า การตั้งข้อหาแค่นี้ไม่ทำให้เก้าอี้ สว.สั่นสะเทือน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่ายังอีกไกลที่จะไปบอกว่าสะเทือนหรือไม่สะเทือนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะดูได้จากผลโหวตที่ออกมา ก็ชัดว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะการออกมาในรูปคดีฟอกเงิน สุดท้ายแล้วก็ต้องมาหาคดีมูลฐานอยู่ดี
เมื่อถามว่าผู้ลาประชุมส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขนาดตำรวจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังเอาไม่อยู่เลย อย่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้คนมาแทน แล้วมาไม่ได้ อย่างนี้มอบหมายทำไม เรารู้อยู่แล้วว่าวิธีการเช่นนี้ “มีคุณเขาขอมา” คุณก็เลยใช้วิธีขอลาไม่เข้าประชุมตั้งแต่ต้น กะว่าจะไม่ผิดใจกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่การทำแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งตำรวจเอ งก็ไม่สนใจนายกรัฐมนตรีเลย และจริงๆแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ตำรวจยังไม่ให้ความเคารพนับถือเลย จึงกลับไปที่ตัวนายกฯ ว่าที่ตำรวจและองค์กรต่างๆ ไม่เชื่อฟัง เพราะนายกฯไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ
“ผมเชื่อว่ามีการต่อรอง และดีลกันทางการเมืองต่อไป ผมว่าเกมเรื่องนี้สำหรับฝ่ายต่างๆยังคงอีกไกล และผมไม่อยากเดาว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เชื่อว่าทุกมูฟเมนต์ทุกย่างก้าวของฝ่ายต่างๆ ล้วนถูกนำไปตีความในหลายๆ ด้านอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่าสว.สีน้ำเงิน หมายถึงอะไร แต่ทุกย่างก้าวของฝ่ายการเมือง จะนำไปสู่การตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆคำถามเป็นคำถามที่ไม่ดีเลย แต่เป็นคำถามที่ประชาชนสงสัย และรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง โรมรังสิมันต์ ,คดีฮั้วสว