เห็นด้วยหรือไม่? 'เก็บค่าธรรมเนียมรถติด' - 'วิโรจน์' เห็นด้วยโมเดล แต่ต้องคิดให้ดี ทุกคนไม่ได้มีรถไฟฟ้าผ่านหน้าบ้าน

เพื่อไทย โพสต์ถามเห็นด้วยหรือไม่ เก็บค่าธรรมเนียมรถติด - วิโรจน์ สั่งห้ามรัฐบาล เอาเงินค่าธรรมเนียมรถติดไปซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า จากเอกชนเด็ดขาด ถามจะซื้อทำไม แค่ไม่ต่อก็ตกเป็นของรัฐแล้ว ย้ำเห็นด้วยมาก ๆ โมเดลเก็บค่าธรรมเนียมรถติด แต่ต้องคิดให้ดี ตั้งโจทย์ให้ถูก บอกทุกคนไม่ได้มีรถไฟฟ้าผ่านหน้าบ้าน


เมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้ดี การเก็บค่าธรรมเนียมรถติดถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายประเทศก็ทำอยู่ เช่นประเทศใกล้ ๆ บ้านเราอย่างสิงคโปร์ก็ทำ แต่รัฐบาลต้องเอาให้ชัดว่าเก็บค่าธรรมเนียมรถติดเพื่อมาอุดหนุนให้ประชาชนได้ใช้รถขนส่งมวลชนสาธารณะในราคาถูก ซึ่งเวลาที่เราพูดถึงขนส่งมวลชนสาธารณะ อย่าไปคิดว่าแค่รถไฟฟ้าอย่างเดียวนะ เราจะต้องเอามาปรับปรุงรถเมล์หรือรถประจำทางให้มีคุณภาพดีด้วย เพราะรถไฟฟ้าไม่ได้ผ่านหน้าบ้านทุกคน คนทุกคนไม่ได้มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่หน้าบ้าน รถเมล์จะเป็นตัวป้อนคนเข้าสู่รถไฟฟ้า หรือระบบขนส่ง ระบบรางขนาดใหญ่ เรื่องนี้ถูกละเลยมานาน โดยทุกวันนี้มีคนใช้รถเมล์หลักหลายแสนคน ดังนั้นจึงห้ามที่จะละเลยในส่วนนี้


“แต่โควทเอาไว้เลยนะ เป้าหมายสำคัญนะ เก็บค่าทำเนียมรถติดเพื่อมาอุดหนุนให้ประชาชนได้ใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในราคาถูก ซึ่งแตกต่างนะ กับการเก็บเงินก้อนนี้มาซื้อสัมปทานคืนจากเอกชน อันนี้ต้องคิดดี ๆ นะ ระบบรางในบางเส้น ถ้าใกล้จะหมดอายุสัมปทานแล้ว ทำไมต้องซื้อคืนจากเอกชน ถ้าใกล้จะหมดอายุสัมปทานแล้ว แค่ไม่ต่ออายุก็ตกมาเป็นของรัฐแล้วใช่หรือไม่ ดังนั้นบางเส้นไม่จำเป็นต้องเร่งซื้อคืน เอาเงินไปประเคนให้กับเอกชน อย่ามาอ้างแบบทางอ้อมสิ เช่น ใช้คำว่าเอาเงินไปซื้อสัมปทานคืนจากเอกชนแล้วประชาชนจะได้ขึ้นรถไฟฟ้าราคาถูก ทำไมต้องอ้อมล่ะ ทำไมไม่เอาค่าธรรมเนียมรถติดไปอุดหนุนล่ะ เพื่อให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าในราคาถูก แล้วพอถึงเวลาก็ไม่ต้องต่อสัญญาสัมปทานให้เอกชน รัฐก็รับมาบริหารเอง ทำไมต้องจับประชาชนมาเป็นตัวประกัน แล้วเอาเงินก้อนนี้ไปประเคนให้กับเอกชนเพื่อซื้อคืนสัมปทานด้วยล่ะ”  


นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า แต่ในรถไฟฟ้าบางเส้น อายุสัมปทานยังเหลืออีกนาน แล้วคิดดูแล้วการซื้อคืนเป็นประโยชน์ ก็พอที่จะพิจารณาได้ แต่ต้องคิดเรื่องนี้เป็นลำดับที่ 2 ลำดับแรกคือต้องคิดให้ประชาชนได้ใช้ระบบราง เอาเงินค่าธรรมเนียมมาปรับปรุงระบบขนส่งอื่น ๆ ให้ดี ราคาถูก เรื่องการซื้อคืนสัมปทานถือเป็นลำดับรองเลย ต้องพิจารณาถึงผลดีผลเสียของรถไฟฟ้าแต่ละเส้น การที่รัฐบาลบอกจะซื้อคืนเลยถือเป็นการตั้งโจทย์ผิด เก็บค่าธรรมเนียมได้ แต่ตั้งโจทย์ให้ถูก


เมื่อถามย้ำว่าโมเดลนี้ใช้ได้ แต่ไม่ควรจะสอดไส้เรื่องซื้อสัมปทานคืนใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ใช่ ใช้ได้ เก็บได้ เพื่อลดการจราจรติดขัดของถนนบางเส้นลง และนำเงินไปปรับปรุงระบบขนส่งอื่นเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่ผ่านมาก็ถูกตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดว่าเราสามารถที่จะเปลี่ยนคนขึ้นรถเมล์มาขึ้นรถไฟฟ้าได้ แต่ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะเปลี่ยนจากคนขับรถส่วนตัวมาใช้รถไฟฟ้า ไม่ใช่ว่าประชาชนไม่อยากใช้รถไฟฟ้า เพียงแต่ว่ารถไฟฟ้าไม่ได้ผ่านหน้าบ้านทุกคน ดังนั้นมันต้องคิดถึงรถเมล์ ขนส่งอื่นด้วย


“แล้วอย่าลืมนะ ระบบรางเนี่ย ถ้ามันใกล้จะหมดอายุสัญญาสัมปทาน ทำไมต้องไปซื้อคืนล่ะ เพราะรายได้จากระบบราง รัฐเองก็รู้ดีว่ารายได้ไม่ได้เกิดจากค่าธรรมเนียมอย่างเดียวนะ ได้จากค่าโฆษณา ซึ่งตรงนี้เป็นกำไรหลักที่เอกชนได้รับถูกไหมครับ อย่างสายสีเขียวเนี่ย กำลังจะหมดอายุสัมปทาน ก็พิจารณา ต้องคำนวณดี ๆ”  


นายวิโรจน์ ยังเชื่อว่ารถไฟฟ้าที่แน่นอยู่แล้วยังสามารถปรับความถี่ได้ มองว่าเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมแล้วมาอุดหนุนค่ารถไฟฟ้าให้ถูกลง ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ถ้าประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้าราคาถูกได้ ก็จะมีเงินเหลือ เงินส่วนนี้ก็จะเกิดการบริโภคในประเทศทำให้เม็ดเงินหมุนใช้จ่ายมากขึ้น อย่างเยอรมนีก็เคยลดราคาระบบขนส่งทางรางในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็พบว่ากระตุ้นการบริโภคในประเทศได้ดีพอสมควร เศรษฐกิจท้องถิ่นก็ดีขึ้น


“ไม่จำเป็นต้องไปซื้อคืนสัมปทานจากเอกชนนะ ห้ามเอาการซื้อสัญญาสัมปทานคืนจากเอกชน เราจับประชาชนเป็นตัวประกันนะ มันไม่เกี่ยวข้องกันนะ”  


นายวิโรจน์ ระบุทิ้งท้ายว่า ต้องทำความเข้าใจ เดี๋ยวจะหาว่าวิโรจน์ขัดขวาง ไม่ให้ประชาชนได้ขึ้นรถไฟฟ้าราคาถูก ซึ่งวิโรจน์ไม่ได้ขัดขวางเลย วิโรจน์เห็นด้วยในการที่จะทำให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าราคาถูก ประชาชนประหยัดขึ้น ก็จะได้มีเงินมาใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องบังคับว่าจะไปซื้อคืนสัญญาจ้างเอกชน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BAaBPd-x4ds