‘ณัฐพงษ์’ หวังสภาฯ รับรายงาน ‘นิรโทษกรรม’ ชี้ไม่รับเท่ากับปฏิเสธ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

“อนุทิน” ย้ำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องไร้ ม.112 เปิดช่องเคลื่อนไหวการเมืองคุยกันได้ ยันพร้อมถกหากมีความชัดเจน

วานนี้ วันที่ 16 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่าควรนำเข้าสู่การพิจารณาต่อที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ ว่า ยืนยันว่า ฝั่งของพรรคภูมิใจไทย ในเรื่องมาตรา 112 จะไม่มีการนิรโทษกรรม ซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนของพรรค มาแต่ไหนแต่ไร

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 แต่เป็นการเคลื่อนไหวด้วยความเห็นต่าง หรือหวังดีต่อบ้านเมือง แต่อาจจะมีความคิดที่ไม่ตรงกัน แบบนั้นก็สามารถคุยกันได้

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของประเด็นการทุจริตจะต้องนำมากำหนดในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า "ประเด็นทุจริตไม่ต้องถามอยู่แล้ว ใครจะไปนิรโทษกรรม"

ส่วนจะนำเข้าสู่การพิจารณาในตอนนี้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่มันชัดเจนรอบพร้อมที่จะพิจารณา แต่หากเข้ามาแล้วมีนิรโทษกรรมมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยก็ไม่เห็นด้วย

ขณะที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันนี้ สส.ในพรรคยังคงเสียงแตก ยังมองเป็น 3 แนวทาง คือ รวมมาตรา 112  ไม่รวมมาตรา 112 และรวมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข คือการมีคณะกรรมการขึ้นมา มีการยกโทษให้แต่หากไปทำผิดซ้ำอีกเราจะยกโทษเก่ากลับมาทั้งหมดโดยจะรวมโทษทั้งต้นและดอก

ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วานนี้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนิรโทษกรรมที่พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคไม่เห็นด้วย ว่า “ทุกเรื่องต้องคุยกัน”

เมื่อถามต่อว่าจะมีการพูดคุยกันในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ในการนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหาร นายกรัฐมนตรีหันมาพยักหน้าพร้อมกับถามว่า “ดีไหมคะ”

------------------------------------------

‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ หวัง สภาฯรับรายงาน ‘นิรโทษกรรม’ ชี้ ไม่รับรเท่ากับปฏิเสธข้อเท็จจริง ทางประวัติศาสตร์

วานนี้ 16 ต.ค. 2567 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่หลายพรรคการเมืองไม่เห็นด้วย ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยในเรื่องของเนื้อหาอีกเพราะผ่านการ พิจารณาร่วมกันของกรรมาธิการซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองมาแล้ว และอีกอย่างในส่วนของตัวรายงานเป็นเพียงผลการศึกษาที่ทำให้สังคมหรือสภาเห็นทางเลือกหรือทางออก ของความขัดแย้งหรือการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมืองที่ผ่านมา ฉะนั้นเราควรรับร่างรายงานให้ผ่านสภาโดยเร็ว เพราะไม่น่ามีเหตุผลที่สภาจะโหวตไม่รับหรือไม่ผ่านหลักการ

ทั้งนี้ เล่มรายงานฉบับนี้เป็นเพียงแค่ผลการศึกษาและทางเลือกฉะนั้นสิ่งที่สภาฯทำได้คือการเปิดให้สังคมได้เห็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดส่วนการตัดสินใจ ว่าตัวร่างกฎหมายจะทำถึงขั้นไหนเป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่กฎหมายจะถูกเสนอเข้าสู่สภา จึงไม่เห็นเหตุผลหรือความจำเป็นใดๆที่สภาจะไม่ผ่านตัวรายงานฉบับนี้

ส่วนอาจจะมีการโหวตคว่ำรายงานฉบับนี้นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นการเกรงกลัวบางอย่างมากเกินไป เพราะรายงานฉบับนี้ผ่านการพิจารณาจากกรรมาธิการที่มีตัวแทนจากทุกพรรคและเป็นแค่ผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดว่าเราจะจัดการปัญหาในส่วนนี้อย่างไรจึง มองว่าไม่มีเหตุผลใดที่พรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดจะไม่โหวตผ่านเล่มรายงานฉบับนี้

ส่วนเหตุผลที่พรรคการเมืองไม่รับรายงานฉบับนี้เพราะมีการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 นั้นนายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตามต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดีและได้รับผลกระทบจากการดำเนินคดีทางการเมือง และรายงานฉบับนี้เป็นรายงานตามข้อเท็จจริงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตามรวมถึง 112 ล้วนเป็น ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินคดีดังกล่าว เพราะฉะนั้นการปฏิเสธรายงานฉบับนี้เป็นการปฏิเสธข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ หากรายงานฉบับนี้ไม่ผ่าน หรือถูกคว่ำร่างขึ้นมาจริงๆ พรรคประชาชนจะดำเนินการในสิ่งที่เราดำเนินการมาโดยตลอดอยู่แล้ว รวมถึงการผลักดันกฎหมายด้วย และในฐานะพรรคฝ่ายค้านในปัจจุบันก็จะทำทุกอย่างในกระบวนการนิติบัญญัติอย่างเต็มที่ ส่วนกฎหมายจะผ่านไม่ผ่านในวาระที่ 1 วาระ2 และวาระ3 นั้นก็อยู่ที่ฝั่งรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกันเพราะฉะนั้นพรรคประชาชนก็คงผลักดันเรื่องนี้ต่อแบบที่เราได้เสนอกันมา

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UmjUBYDIr-E