เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯชี้ ทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก ปัญหาคือสภาพรถ – 'สุริยะ' สังคายนาระบบขนส่ง สั่งเข้ม 5 มาตรการ

โดย petchpawee_k

3 ต.ค. 2567

138 views

'นายกฯ' ลั่นทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็กมองเป็นการเปิดโลก ชี้สภาพรถทำเกิดอุบัติเหตุขอใช้โอกาสนี้คุยคมนาคมวางกฎเหล็ก

วานนี้ (2 ต.ค.) ภายหลังการประชุม กว่าครึ่งชั่วโมง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจอัตลักษณ์บุคคลระบุตัวบุคคลได้แล้ว และจะทยอยนำร่างกลับ จังหวัดอุทัยธานี ส่วนกระทรวงคมนาคมได้มีการรายงานเรื่องการเยียวยา การตรวจสอบ กฎเกณฑ์เรื่องรถ จะมีการประสานรายละเอียดอีกครั้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการส่งจิตแพทย์ลงไปในพื้นที่ ส่วนในรายละเอียดจะให้คนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้แถลง ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนที่มีข้อเสนอว่าให้มีการปรับรถบัสโดยสารนักเรียนเป็นรถบัสสีเหลืองที่มีประตูด้านหลังสามารถเปิดได้ง่ายและเป็นมาตรฐานเดียวกับยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับ กระทรวงคมนาคม ซึ่งต้องมีการวางแผนในรายละเอียด เพราะจริงๆ แล้วการทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้เด็กๆ เราไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่ได้ถูกดูแลหรือได้รับการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเราจะต้องมาแก้ปัญหาว่ากระทรวงคมนาคมจะวางกฎวางกรอบอย่างไร เราจึงถือโอกาสนี้วางระบบให้ชัดเจน พร้อมย้ำว่า ก่อนออกเดินทางจะต้องมีการตรวจเช็คสภาพรถทุกครั้ง

--------------------

'สุริยะ' สั่ง สังคายนาทั้งระบบภายใน 60 วัน ลั่นไม่ยอมให้ใช้รถเก่า จ่อพิจารณาแก้ระเบียบต่ออายุรถ แจง ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เยียวยา 2.4 ล้านบาทสาหัส 7 แสนบาท เจ็บเล็กน้อย 2 แสนบาท

นาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก กำหนดมาตรการออกมา คือ 1 .ให้กรมการขนส่งทางบุก เรียกรถโดยสารสาธารณะประจำทางและไม่ประจำทางที่ใช้ เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดเข้ารับการตรวจสภาพรถ จำนวน 13,426 คัน ภายใน 60 วัน

2.ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่งรถโดยสารทั้งประจำและไม่ประจำทาง ทั้งระบบได้แก้การประกอบการ การตรวจสภาพ การให้บริการ

3. ให้กรมการขนส่งทางบก บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาทั่วประเทศ ในกรณีที่จะนำรถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทางไป ใช้บริการ จะให้ประสานงานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

4. พนักงานขับรถและผู้อยู่ประจำรถ จะต้องได้รับการอบรม และทดสอบ หลักสูตรการเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือผู้โดยสาร (Crisis Management)

5. จะมีการออกกฎหมาย ระเบียบ เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องมีการแนะนำข้อมูลและแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการเช่นเดียวกับสายการบิน

นอกจากนี้ในขั้นต่อไป จะมีการไปดูการออกแบบรถยนต์ รถโดยสารเหล่านี้ ว่ามีที่นั่งเหมาะสมอย่างไร ควรเพิ่มเติมทางออกอย่างไร รวมถึงคนขับรถที่ต้องมี 2 คนหากเดินทางไกล ซึ่งเป็นมาตรการที่จะทำต่อไป

ส่วนกรณีที่รถคันดังกล่าวมีอายุการใช้งาน มากกว่า 50 ปี จะนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า จะใช้โอกาสนี้ในการพิจารณาแก้ระเบียบ เพราะในอดีต เมื่อจะออกมาตรการมาบังคับใช้ ผู้ประกอบการก็จะขอร้องไม่ยอมและเกิดการประท้วง รวมถึงกลุ่มรถตู้โดยสาร ที่จะใช้โอกาสนี้ไม่ยอมให้เกิดการต่ออายุต่อไป


ส่วนกรณีรถที่ใช้ก๊าซ นั้นไม่ได้มีการยกเลิกใช้ แต่จะให้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัย ว่าที่ผ่านมามีจุดไหนที่เป็นจุดอ่อน ที่ทำให้เกิดการระเบิดได้ เช่นข้อต่อ จุดที่เชื่อมกับถังแก๊ส ซึ่งตอนนี้กรมทางขนส่งทางบกก็ได้ไปดูที่เกิดเหตุ รวมถึงรถอีกสองคันที่เดินทางมาพร้อมกันด้วย แล้วจะนำมาออกแบบบังคับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งในระยะเวลา 60 วันก็จะถือว่าเป็นการสังคายนา รถสาธารณะทั้งระบบ

นายสุริยะยังกล่าวถึงเรื่องเงินเยียวยา โดยย้ำว่าผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยหนึ่งล้านบาท ส่วนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย จากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะให้เพิ่มอีกหนึ่งล้านบาท รวมเป็นสองล้านบาท และมีอีกส่วนจากกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งรวมทั้งหมดผู้เสียชีวิตก็จะได้คนละ 2,400,000 บาท  ขณะนี้ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ ให้ประสานครอบครัวผู้ประสบเหตุ เพื่อจะมอบเงินให้ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ครอบครัวผู้บาดเจ็บสาหัสจะได้เงินเยียวยา 700,000 บาท ส่วนบาดเจ็บเล็กน้อยได้ 200,000 บาท


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BeIPtq00_Kk


คุณอาจสนใจ

Related News