เลือกตั้งและการเมือง

4 เสียงต้านไม่ไหว! ปชป. เคาะร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ได้ 2 เก้าอี้ รมต. 'เดชอิศม์' ลั่นต้องกล้าเปลี่ยน

โดย petchpawee_k

30 ส.ค. 2567

93 views

ปชป. มีมติร่วมรัฐบาล ส่ง “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” นั่ง รมต.ครม.อุ๊งอิ๊ง 43 ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 2 “บัญญัติ” รับ หนักใจทางการเมือง แต่เคารพมติพรรค ด้าน “เดชอิศม์” แจงร่วมรัฐบาลเหตุ 26 ปีไม่เคยเลือกตั้งชนะเพื่อไทย หวังเพิ่มความนิยม เมิน “ศิริโชค” ลาออก เหน็บนึกว่าไปนานแล้ว

ผลการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้ มีมติร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ตามที่คาดไว้ มีมติร่วมรัฐบาลถึง 43 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง

ภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ใช้เวลาในการประชุมกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ ส.ส.กว่า 5 ชั่วโมง เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ ( 29 สิ.ค.67)

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคได้นำทีมแถลงมติที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยร่วมรัฐบาล พร้อมส่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ตามโควตา

นายเฉลิมชัย ยืนยันว่าการดำเนินกิจกรรมทุกอย่าง ของพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าดำเนินตามข้อบังคับทุกประการ และวันนี้ก็ได้รับฟังความคิดเห็นหลากหลายจากทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์เป็นการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล และจะนำไปเป็นข้อคิดและแนวทางในการปฏิบัติในวันข้างหน้า

ส่วนผลที่ตามมานั้นก็มีการพูดคุยกันในทุกมิติตั้งแต่ผู้ใหญ่กรรมการบริหารพรรคตัวแทนจังหวัด สส.เก่า และ สส.ใหม่ มีการแลกเปลี่ยนกันหลากหลายแนวทาง สรุปสุดท้ายทุกคนก็เคารพการลงมติพรรค

พร้อมระบุว่าเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีวินัย แม้มีความคิดเห็นที่แตกต่างแต่เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยมติของพรรคทุกคนก็พร้อมปฎิบัติตาม

ส่วนความกังวลต่อคุณสมบัติของตนเอง และนายเดชอิศม์นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่าเป็นเรื่องใหม่ของการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยู่ที่คณะกรรมการตรวจสอบและเป็นอำนาจหน้าที่ของนางสาวแพรทองธารชินวัตรในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนตัวก็เชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมระบุว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการวางตัวบุคคลสำรองไว้หากคุณสมบัติไม่ผ่าน

ส่วนแกนนำฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย อย่าง คุณชวน หลีกภัย คุณชวน กล่าวว่า ไม่มีอะไรในที่ประชุม มีการให้แสดงความเห็น ก็เป็นอย่างที่รู้กันอยู่ ซึ่งตนและอีก 3 คน ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความเห็นของทั้ง 2 ฝ่าย

ด้านนายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบมติที่ประชุมพรรค โดยยอมรับว่า มีความหนักใจทางการเมือง วานนี้ที่ประชุมถกเถียงกันมากเป็นเรื่องปกติ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องเคารพมติที่ออกมา

ส่วนบทบาทการทำหน้าที่ สส.ในสภา ยอมรับว่าเมื่อร่วมรัฐบาลแล้ว เราก็ต้องอยู่ในรัฐบาล เพียงแต่ถ้ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ถูก ไม่ควร เราก็ต้องทักท้วง เพราะการตรวจสอบ คนพรรคประชาธิปัตย์ ทำกันอยู่แล้ว แต่มันคงไม่เข้มข้นเหมือนทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คงไม่ขนาดนั้น และที่ประชุมก็ได้มีข้อเสนอแนะ ฝากไปยังรัฐมนตรีทั้งสองคน เพื่อให้นำนโยบายไปหารือกับพรรคแกนนำ เช่น เรื่องการกระจายอำนาจ และการประกันรายได้ ว่าเวลากำหนดนโยบายให้คิดถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ขณะที่บรรยากาศก่อนการประชุมพรรคประชาธิปัตย์วานนี้ ( 29 ส.ค.67) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจากนั้นจะนำมติเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ คงต้องรอให้ออกมาเป็นมติก่อนว่าจะร่วมหรือไม่

ส่วนที่มีหลายคนไม่เห็นด้วยทั้งกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค อย่าง เช่น นายศิริโชค โสภา ที่เดินทางมาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค นายเดชอิศม์ กล่าวว่าตนคิดว่าเขาลาออกไปนานแล้ว เพิ่งลาออกหรอ เข้าใจว่าลาออกไปหลายเดือนแล้ว

ส่วนกรณีที่นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย ออกมาให้ความเห็นว่าการลงมติร่วมรัฐบาลอาจขัดกับข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์เรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมเนื่องจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตรมีคำร้องอยู่ในองค์กรต่างๆ นายเดชอิศม์ กล่าวว่าไม่ทราบแต่ส่วนตัวไม่กังวลอะไรเลย อย่าไปกลัวทุกอย่าง ถ้ากลัวทุกอย่างจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตลอดอายุเวลา 70 ปีของพรรคประชาธิปัตย์กรรมการบริหารพรรคอยากยกระดับพรรคใช่หรือไม่จึงเข้าร่วมรัฐบาล

“พรรคเพื่อไทยตั้งมา 26 ปีแล้วครับ เราไม่เคยชนะเลย ต้องยอมรับประชาธิปัตย์ก็แพ้ และคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ก็ลดลงเรื่อยๆ เมื่อเขาเลือกผมมาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค สิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น สิ่งไหนที่จะทำให้ได้ส.ส.เพิ่มขึ้นผมต้องทำครับ”

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าคิดว่าการร่วมรัฐบาลจะทำให้ประชาธิปัตย์ สส.เพิ่มขึ้นและมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่าตนมั่นใจเพราะ สส.ที่ตนพูดคุยด้วยส่วนใหญ่เป็นสส.เขตทุกคน หลังประชุมสภาเสร็จเย็นวันพฤหัสทุกคนจะเดินทางไปอยู่ในพื้นที่และวันอังคารจะเดินทางกลับมาประชุมพรรคทุกคนได้ถ่ายทอดสิ่งที่มาจากประชาชนให้ตนฟัง เพราะฉะนั้นเราต้องประเมินทุกฝ่าย 360 องศา ก่อนจะนำเสนอในที่ประชุม

เมื่อถามว่าที่บอกว่าเราไม่เคยชนะพรรคเพื่อไทย เป็นจุดที่ทำให้ตัดสินใจร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ ปฏิเสธว่าไม่ใช่แค่ยกตัวอย่าง ต่อสู้กันมาเราก็แพ้ ใครจะอยากให้เกิดสงคราม ต้นเห็นว่าการทะเลาะเบาะแว้งไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้นส่วนไหนที่ดับความขัดแย้งได้ ฉีดน้ำให้ดับลงได้ แล้วมานับหนึ่งกันใหม่ ส่วนอันไหนผิดก็ว่าไปตามผิด ทั้งนี้ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมที่จะเป็นรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ ตอบว่าขอให้รอเป็นมติพรรคดีกว่ายังไม่อยากพูดอะไรไปก่อน

อย่างไรก็ตามพบว่ามีแผ่นป้ายปริศนา ข้อความระบุว่า เพียงเพื่อสนองตัณหาของคนสองสามคน เราจะยอมคบคนชั่วเป็นมิตร โดยไม่รู้จักแยกแยะแยกชั่วเลยหรือ มาวางอยู่บริเวณหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำมาวางไว้

---------------------------------------

"จุรินทร์" จัดเต็ม ประกาศชัดไม่เอา"ระบอบทักษิณ" จึงค้านร่วมรัฐบาล ชี้ ไม่ใช่เรื่อง 20-30 ปี แต่ระบอบนี้ยังอยู่ในปัจจุบัน ตอบปมพรรคอะไหล่ ลั่น ต้องมีศักดิ์ศรี ยืนยัน เดินหน้าเป็นผู้แทนต่อ ตอบแทนบุญคุณประชาชน ที่เขาเลือกเรามา

 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ย้ำจุดยืน ถึงการเข้าร่วมรัฐบาล ว่า สำหรับตน ถ้ามีการขอมติ ก็จะไม่เห็นชอบ เพราะตนไม่เอา"ระบอบทักษิณ" ซึ่งมันมีความชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว ว่าเหตุผลคืออะไร ตนคงไม่อยากไปวิจารณ์มากกว่านี้ ที่สำคัญที่สุดมันไม่ใช่เรื่องอดีต 20-30 ปีที่แล้ว แต่มันคือระบอบที่ยังอยู่ในปัจจุบัน ก็เป็นเหตุผลที่ตนจะพูดในที่ประชุมพรรค

เมื่อถามว่า เมื่อสักครู่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคไม่เคยชนะพรรคเพื่อไทย จึงตัดสินใจร่วมรัฐบาลเพื่อเพิ่มคะแนนเสียง นายจุรินทร์ กล่าวว่า แล้วแต่คนจะมอง แต่สำหรับตนคิดว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนหวังพึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อเป็นปากเสียง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน คนจะเอาไปพูดในที่ประชุมพักว่าเหตุผลและน้ำหนักคืออะไร

เมื่อถามว่าสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคอะไหล่ให้กับเขาในทุกการเลือกตั้งเลยใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า "พรรคต้องมีศักดิ์ศรี ความจริงพรรคก็มีการพูดกันมาพอสมควร ซึ่งนายชวน หลีกภัย ก็พูดว่าทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของตัวบุคคล พรรคยังไม่ได้ทำอะไร และผู้จัดว่าใครไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ดังนั้น ความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ มันยังอยู่ ก็ต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ศักดิ์ศรีของพรรคประชาธิปัตย์คืออุดมการณ์ และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่ตนว่า เราต้องยึดมั่นไว้ อะไรที่มันตรงข้าม เราก็ไม่ควรที่จะไปร่วม หรือไปจับมือ ไปทำอะไรด้วย ต้องยึดมั่นในสิ่งนี้เพราะถ้าเราไม่มีอุดมการณ์ มันก็ไม่มีความเป็นประชาธิปัตย์ "

เมื่อถามว่าหากที่ประชุมพรรควันนี้มีมติร่วมรัฐบาล สส.ทั้ง 4 คน ที่ไม่เห็นด้วยจะทำอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่พวกตนทราบ ว่า เราต้องทำอะไรอย่างไร กันต่อไป อย่างน้อยในฐานะผู้แทนราษฎร เราก็มีหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน ต้องทำหน้าที่แทนประชาชน รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัด ว่า ผู้แทนราษฎร มีหน้าที่อะไร เราก็ทำหน้าที่อย่างนั้น ด้วยสำนึกเห็นประโยชน์ส่วนรวม ของประชาชนและประเทศชาติเป็น

 เมื่อถามว่าบทบาทของนายจุรินทร์ ในสภาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยใช่หรือไม่ จะอภิปรายรัฐบาลอย่างหนักแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนก็จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เพราะประชาชนเลือกมา เราก็ต้องตอบแทนบุญคุณประชาชน ที่เขาเลือกเรามา

-------------------------------------

“ชัยชนะ” ยอมไม่ได้ ออกโรงโต้ “ก่อแก้ว” ยัน “ชวน-บัญญัติ-จุรินทร์” ไม่ใช่ “ไม้แก่ดัดยาก”


นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปรียบเสมือนไม้แก่ดัดยาก จริงๆแล้วในช่วงต้นนายก่อแก้วก็พูดดีอยู่ ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นยุคผลัดใบ มีการทำงาน บูรณาการรูปแบบใหม่ แต่การที่มาพาดพิงบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การที่บอกว่าจะต้องมีมารยาทในการร่วมรัฐบาลกัน

1. จะต้องไม่วิจารณ์คนต่างพรรคกัน แม้บุคคลทั้ง 3 ท่านเป็นผู้ใหญ่ในพรรค ที่ทุกคนให้ความเคารพ และที่บอกเป็นไม้แก่ดัดยาก ที่จริงแล้วทั้งสามท่านเป็นเสมือนไม้บรรทัดเหล็ก ที่มีความเที่ยงตรงในการทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นตนอยากเรียนไปถึงนายก่อแก้ว ว่าก่อนการที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์คนในพรรคการเมืองอื่น ต้องทบทวนและรู้จักมารยาท พร้อมทั้งศึกษาบุคคลเหล่านั้นให้ดีก่อนจะมาวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า มันไม่เป็นปัญหา เพียงแต่ว่าวันนี้ เมื่อเขาเทียบเชิญมา เราก็จะประชุมวันนี้ เพราะฉะนั้น การที่จะอยู่ร่วมกันก็ต้องทำความเข้าใจกันและต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เรามีหลากหลายความเห็น แต่เมื่อมติพรรคออกมาอย่างไร เราก็ยึดมติพรรคเป็นหลัก ดังนั้น ตนคิดว่าการทำงานร่วมกันในวันข้างหน้าไม่ยาก เพียงแต่วันนี้ต้องทำความเข้าใจกันในบางส่วน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Bo6DpSo2UM4

คุณอาจสนใจ

Related News