เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' น้อมรับคำตัดสินศาล แต่ยันเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ไม่การันตี 'เงินดิจิทัล' จะไปต่อหรือไม่

โดย nattachat_c

15 ส.ค. 2567

51 views

'เศรษฐา' น้อมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ แต่เสียใจเรื่องขัดจริยธรรมร้ายแรง ยันเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ปัดตอบ ตั้ง 'พิชิต' ใครตัดสินใจ ไม่อยากบอกถูกวางยา ขอเดินไปข้างหน้าดีกว่า ตัดพ้อ อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเขาไม่ให้อยู่แล้ว ไม่การันตีดิจิทัลวอเล็ตได้ไปต่อหรือไม่ ไม่ขอฝากอะไรถึง 'ทักษิณ' ลั่นฉากนี้จบสิ้นแล้ว บอกจุดสูงสุดในชีวิตคือการเป็นลูกที่ดี

วานนี้ (14 ส.ค. 67) เวลา 09.18 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปปฏิบัติงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตามปกติ โดยเมื่อลงจากรถ ก็ทักทายผู้สื่อข่าวที่มารอติดตามทำข่าว โดยกล่าวคำแรกว่า “โห ทำไมวันนี้ผู้สื่อข่าวรอเยอะจัง”


ร้อมเปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมา ตนนอนหลับสบายดี ส่วนตอนเช้า  เดินทางไปที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร เนื่องจากเป็นวัดที่จัดพิธีศพของคุณแม่  และทางเจ้าคุณได้ให้ความช่วยเหลือมา จึงได้เข้าไปกราบขอบพระคุณ แต่ท่านไม่ได้ให้กำลังใจอะไร เพียงแต่มีการพูดคุยเรื่องฟุตบอล


เวลา 11.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดใต้ทางด่วนเพลินจิต โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ


นายสุรเชษฐ์  กล่าวรายงานว่า ใต้ทางด่วนมีพื้นที่ 4 ไร่ ประเมินมูลค่าไร่ละ 1,000 ล้านบาท และนำมาจัดตลาดโดยไม่ได้หวังผลกำไร


ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ตลาดเพลินจิตได้ผลตอบรับดี โดยนำผู้ค้าจากริมถนนมาจัดระเบียบ จากเดิมที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เมื่อมีการจัดรูปแบบตลาด ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายบ้าง ซึ่งผู้ค้าก็พอใจ และได้รับผลตอบรับดีจากประชาชนที่ทำงานในละแวกนี้  ซึ่งอาหารที่นี่อร่อยทุกร้านและได้คุณภาพโดยมีตรวจสารการตรวจสารปนเปื้อนในอาหารด้วย


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ มาจับจ่ายใช้สอยส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ โดยประชาชนให้ความสนใจมาขอถ่ายรูป โดยนายกรัฐมนตรีได้แวะซื้อข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว ใส่กล่องกลับไปรับประทานที่ทำเนียบรัฐบาล และตั้งใจที่จะจ่ายเงินเอง แต่หากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ นายชัชชาติจึงอาสาขอเป็นเจ้ามือมื้อนี้ และเหมาข้าวกล่องทั้งหมด


ก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจเห็นคนมาจับจ่ายใช้สอย และเป็นแหล่งประกอบอาชีพ สินค้ามีราคาเหมาะสม ทำให้คนที่อาศัย และทำงานอยู่ในละแวกนี้มาจับจ่าย และในอนาคตจะมีการขยาย ไปบริเวณใต้ทางด่วนอื่น ๆ ซึ่งได้คุยกับนายสุริยะ / ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย / ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ดูว่าจุดไหนที่เหมาะกับการนำพื้นที่มาค้าขาย หรือทำเป็นสวนสาธารณะ และลานกีฬา โดยจะให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย


เวลา 15.45 น. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี นายเศรษฐาได้เดินลงมาด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยระหว่างรอ นายเศรษฐาได้รับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


เวลา 15.53 น. นายเศรษฐา แถลงเปิดใจว่า คำพิพากษาออกมาแล้วนะครับ ผมต้องขอขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้โอกาสทุกฝ่ายได้ชี้แจงมีการหยิบยกนำมาพูดกันในวงกว้าง และเป็นธรรม ผมเคารพในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่งมาพยายามทำทุกอย่างถูกต้องมีความตั้งใจจริง ยึดมั่นอุดมการณ์ในการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ยืนยันไม่ได้ทำตัวขัดแย้งกับทุกคน เคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ


ส่วนการสู้คดีผิดพลาดอย่างไร คดีถึงพลิกออกมาในลักษณะนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้ฟัง ฟังตอนจบเพียงอย่างเดียว เมื่อสักครู่นี้ประชุมอยู่


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในคำวินิจฉัยบอกว่านายกฯ ผิดจริยธรรมร้ายแรงเท่ากับเป็นการตัดสิทธิ์ทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า "ผมไม่ได้ดูตรงคำว่าตัดสิทธิ์ หรือไม่ตัดสิทธิ์ แต่ผมเสียใจตรงที่ว่าจะถูก บอกว่าเป็นนายกฯ ที่ไม่มีจริยธรรมซึ่งผมก็ยืนยันตัวตนของผมไม่ใช่คนแบบคนแบบนั้น แต่ก็อย่างที่บอกเมื่อตัดสินมาแล้วท่านเป็นตุลาการมีความรู้ความสามารถตัดสินมาอย่างไรผมก็น้อมรับ"


เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เดินหน้าในสิ่งที่อยากทำ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาครับ อยากมีภารกิจอีกเยอะปัญหาของประชาชนก็เยอะ อย่างที่บอกบ้านเมืองยังมีคนเก่งอีกหลายท่าน ที่มายืนตรงนี้ และทำงานต่อไปได้


ส่วนจะฝากอะไรกับคนที่จะมาทำหน้าที่ต่อจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก ทีมงานก็อยู่ตรงนี้แล้ว รัฐมนตรีก็ยังเป็นรัฐมนตรีรักษาการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ที่ติดภารกิจอยู่ อยู่ที่ประเทศคาซัคสถานกำลังหาไฟลท์บินเดินทางกลับมาในคืนนี้ แต่ถ้าไม่ทันก็เป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ท่านอยู่มาหลายรัฐบาลแล้ว มีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตนมั่นใจในทีมงาน กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็ต้องผ่านรัฐสภา


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีถูกวางยาหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบสวนกลับทันทีว่า "ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น และผมยืนยันว่า ไม่ใช่ผลออกมาแล้ว ไม่เป็นไปตามคาดหวัง จะไปกล่าวโทษคนนั้นคนนี้ถูกวางยา ไม่มี ผมไม่เชื่ออย่างนั้น


ผู้สื่อข่าวถามว่าเข็ดการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับเข็ดหรือไม่เข็ด จริง ๆ ปัญหาบ้านเมืองมีมาก คนเราสามารถช่วยเหลือการเมืองได้ในหลายหน้าที่


สำหรับการขึ้นมาบริหารประเทศที่จะครบ 1 ปี ได้บทเรียนราคาแพงอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า "คำถามนี้มันยาก บทเรียนราคาแพงมันออกได้ทั้งเป็นบวกและลบ ผมไม่อยากมองในแง่ลบมากกว่า วันนี้ ศาลตัดสินมาแล้วไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังการที่จะบอกว่าเป็นบทเรียนราคาแพงใครวางยาหรือไม่ ตนว่าอย่าไปก้าวล่วงดีกว่า วันนี้ ยอมรับคำตัดสินแล้วเดินไปข้างหน้าจะดีกว่า ให้ฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินการต่อไปในการเลือกนายกรัฐมนตรี และแปลคำพิพากษาว่าตรงไหนเป็นอย่างไร "


เมื่อถามว่าส่วนตัวไม่ได้ถูกหลอก ให้ไว้ใจใครหรือคนบางกลุ่มใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การที่ผลออกมาแบบนี้จะถูกมองว่าตนถูกหลอกให้ไว้ใจคนนั้นคนนี้ไม่ใช่หรอกเชื่อว่าทุกคนก็มีความหวังดีให้กับคนในประเทศชาติ ซึ่งอยู่ที่วิธีการจะดำเนินการอย่างไร มีแผนการจัดการบริหารประเทศอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนไป แต่ตนก็ขอยืนยันตรงนี้ว่า น้อมรับคำตัดสิน และย้ำว่าตลอดระยะเวลาการทำงานมา ในตึกไทยคู่ฟ้าในตำแหน่งหน้าที่นี้ ทำด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มีปัญหากับใครเป็นการส่วนตัว ไม่มีข้อขัดแย้งกับใครเป็นการส่วนตัวเลย ขอให้ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของตนที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เมื่อทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โทรศัพท์สายแรกที่โทรมาเป็นใครสามารถเปิดเผยได้หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า มีผู้สื่อข่าวอาวุโสคนหนึ่งโทรเข้ามาให้กำลังใจ (แจ่ม ไทยรัฐ) ส่วนภาคการเมืองยังไม่มีใครโทรมา มีเพียงแค่ส่งข้อความเข้ามาให้กำลังใจเท่านั้น บางคนบอกว่าจะเข้ามาหาที่ทำเนียบรัฐบาลแต่ตนก็บอกว่าอย่าเข้ามาเลยเพราะจะออกไปอยู่แล้ว “ มันอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเขาไม่ให้อยู่แล้ว “


เมื่อถามว่าการเป็นนักการเมือง กับการเป็นนักธุรกิจอะไรโหดร้ายกว่ากัน นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อพบกับความผิดหวังทุกเรื่องก็โหดร้ายหมด แต่เราก็ต้องอยู่กับมันไป ส่วนวันพรุ่งนี้ ตนยังไม่แน่ใจ ว่าจะทำอย่างไรเป็นสิ่งแรก ยังไม่ทราบ แต่คาดว่าอาจจะไปลอยอังคารกระดูกมารดาเร็วขึ้น ซึ่งขอคุยกับครอบครัวก่อน หรือหากทีมงานอยากคุยเรื่องส่งต่องาน ตนก็พร้อมไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้ยกเลิกภารกิจการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้แล้ว


เมื่อถามถึงเหตุผลที่นายเศรษฐา กล้าเสี่ยงแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน นายเศรษฐา บอกว่า ตนไม่แน่ใจว่าใช้คำว่ากล้าเสี่ยงได้หรือไม่ เพราะตนได้ดูข้อกฎหมายแล้ว และได้สอบถามแล้ว ขอให้เรื่องนี้จบดีกว่า เพราะศาลฯ ตัดสินแล้วว่าตนผิด ก็ออกจากหน้าที่ไป ขออย่าไปถามต่อ เดี๋ยวกลายเป็นว่าตนไม่เห็นด้วย


ในช่วงท้ายนายเศรษฐา ยังกล่าวถึงความประทับใจที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า คนเราอายุขนาดนี้แล้ว การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ลงไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ได้ลงพื้นที่ ได้รับข้อมูลใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งวันนี้ต้องก้าวออกไป สิ่งที่ผิดหวังก็คือ เรื่องนี้ เพราะการเป็นเอกชน หรือการเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน และเป็นนายกฯ เศรษฐา การเข้าถึงปัญหา หากไม่มานั่งตรงนี้ก็มองไม่เห็น เพราะเมื่อเห็นแล้วก็เป็นความของประเทศ แต่ก็ต้องไว้ใจระบบรัฐสภา ที่จะสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มีความรู้ ความสามารถ และจะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญได้ ซึ่งตนไม่มีอะไรจะพูด นอกจากความปราถนาดีต่อนายกรัฐมนตรีคนต่อไป หรือในช่วง 1 เดือนนี้ที่รักษาการ นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการ นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า นั่นคือความตั้งใจสูงสุดที่อยากจะให้เป็น


ส่วนความเป็นห่วงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ นายเศรษฐายอมรับว่ามีความเป็นห่วง เพราะเป็นเข้าใจความซับซ้อนของโครงสร้าง พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงทุกเรื่อง ซึ่งต้องยอมรับว่าฉากนี้มันจบสิ้นไปแล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไปแล้ว พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่เคยคิดว่า จุดสูงสุดของชีวิตคืออะไร เพราะมีโอกาสมาดูแลบ้านเมือง ความเป็นอยู่ประชาชน ก็ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของตน ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับตนจุดสูงสุดในชีวิตคือ “การเป็นลูกที่ดี” พร้อมยกมือไหว้ สวัสดีผู้สื่อข่าว


และหลังตอบคำถามสุดท้าย ที่ถามว่าจุดสูงสุดในชีวิตของนายเศรษฐาคืออะไร เจ้าตัวได้นิ่งไป ก่อนตอบว่า “เป็นลูกที่ดีครับ” จังหวะนี้นายเศรษฐาตาแดงและมีน้ำตาคลอเล็กน้อยก่อนยกมือไหว้ และโบกมือ ส่งยิ้มให้กับผู้สื่อข่าวก่อนเดินขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลา 16.13 น.

-------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vvJIYqjdp_g











คุณอาจสนใจ

Related News