เลือกตั้งและการเมือง

ช็อตประวัติศาสตร์การเมือง! นาทีเผชิญหน้า ‘ทักษิณ-ประยุทธ์’ 2 อดีตนายกฯ พบกันครั้งแรก

โดย petchpawee_k

7 ส.ค. 2567

176 views

ในหลวง โปรดเกล้าฯให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ นางชดช้อย ทวีสิน

วานนี้ 6 สิงหาคม 67 เมื่อเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ นางชดช้อย ทวีสิน มารดา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ณ เมรุหลวงวัดเทพศิรินทราวาส

โดยมีบุคคลสำคัญจากทั่วทุกวงการเดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าว อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี พร้อมภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ นางสาสแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามหลังเสร็จพิธีก่อนเดินทางกลับ นายทักษิณได้เดินเข้าไปไหว้ทักทายพลเอกประยุทธ์ด้วย

คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน สกุลเดิม จูตระกูล เป็นบุตร คนที่ 2 ของคุณพ่อชู จูตระกูล และ คุณแม่มีเลียน ยิบอินซอย เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2471 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 5 ท่าน ดังนี้ 1. คุณชูเชิด จักกะพาก 2. คุณชดช้อย ทวีสิน ผู้วายชนม์ 3. คุณโชติ จูตระกูล 4. คุณแช่มชื่น บุรณศิริ และ 5. คุณชัช จูตระกูล

ประวัติด้านการศึกษาและการทำงานท่านสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยม ณ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อด้าน Interior Design จาก Parson School of Design, New York ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากจบการศึกษา ได้กลับประเทศไทย และเริ่มทำงานที่บริษัท Sweet Home Furniture หลังจากนั้นได้ไปทำงานที่สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะเกษียณมาดูแลลูกหลาน

ด้านครอบครัว คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน ได้แต่งงานกับร้อยโทอำนวย ทวีสิน (เสียชีวิตแล้ว) และมีบุตร 1 ท่าน คือ  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแสนสิริ เนื่องจาก ร้อยโทอำนวย ทวีสิน เสียชีวิตตั้งแต่นายเศรษฐา อายุได้เพียง 3 ขวบ คุณแม่ชดช้อย สวมบทบาท “หญิงเหล็ก” เป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียว เลี้ยงดูบุตรชายคนเดียวจนสำเร็จการศึกษาสูงสุดจากสหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างสูง ก่อนเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566

การเสียชีวิตคุณแม่ชดช้อย ทวีสิน ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 สิริอายุ 95 ปี 9 เดือน  

---------------------------
นายกฯ ย้ำ “บิ๊กตู่” มาให้กำลังใจส่วนตัวงานสวดอภิธรรมคุณแม่ หลังเจอกระแสวิจารณ์ไม่เหมาะสมเหตุเป็นองคมนตรี ลั่นไม่ได้ตีตัวออกห่าง “ทักษิณ” ชี้บนสถานะนายกฯ ต้องทำงานแก้ปัญหาปชช. ลงพื้นที่แม้เป็นวันหยุด

 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานสวดพระอภิธรรมคุณแม่ และมีการฝากคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ช่วยนายกฯทำงานดีๆ จนนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาระบุ องคมนตรีต้องไม่แสดงการฝักใฝ่การเมือง


โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า “ท่านอยากให้ผมมองอย่างไร” ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่าวันนี้ พลเอกประยุทธ์ สถานะไม่ได้เหมือนในอดีตแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ท่านไปเป็นงานส่วนตัว และตนก็พบปะกับท่านในหลายๆโอกาส คุณแม่ตนเสียท่านก็มาให้กำลังใจ และท่านเองก็เจอบุคคลที่คุ้นเคยสมัยเป็นนายกฯมา 8 ปี ตรงนี้ตนคิดว่าทุกท่านน่าจะมีข้อคิดเห็นของแต่ละคนได้อยู่แล้ว


เมื่อถามว่าการรับฟังความเห็นจากอดีตนายกฯส่วนใหญ่จะมาจากพลเอกประยุทธ์ กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะบาลานซ์สองคนนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่จริงครับ” ตนเจอ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ตนก็รับฟัง และตนก็ไม่ได้รับฟังแค่อดีตนายกฯอย่างเดียว รองนายกฯ หรืออดีตรัฐมนตรีต่างๆตนก็เจอ เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตนเจอก็มีการพูดคุยกันตลอดแล้วแต่โอกาสมากกว่า


เมื่อถามว่าดูเหมือนนายกฯตีตัวออกห่างนายทักษิณ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ตีตัวออกห่างใครทั้งนั้น ทำงานอย่างเดียว แต่การทำงานบางครั้งอาจไม่สามารถไปพบกับบางท่านได้ ซึ่งเชื่อว่าทุกท่านคงเข้าใจว่าตนมีหน้าที่ในฐานะนายกฯที่เราต้องทำงานอยู่แล้ว และตนก็ลงพื้นที่ตลอด สื่อฯก็เห็นวันเสาร์ก็ยังทำงานอยู่

-----------------------------------------

ธนกร ดึงสติ “ปิยะบุตร” พาดพิงบิ๊กตู่ ขอแยกแยะ อย่าโยงการเมืองทุกเรื่อง


นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผมอยากสื่อสารไปถึงคุณปิยะบุตร ที่ตั้งคำถามกรณีที่ท่านองคมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และภริยา ไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม นางชดช้อย ทวีสิน มารดาท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นการแสดงออกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนไทย ความเอื้ออาทรของคนไทยในสังคมไทยที่มีต่อกันในวาระโอกาสต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก


ท่านองคมนตรี เดินทางไปร่วมงานของนายกรัฐมนตรีเศรษฐาฯ ที่เพิ่งสูญเสียมารดา ผู้เป็นที่รักและเคารพอย่างยิ่ง ท่านนายกฯ เศรษฐา พร้อมครอบครัวก็ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง เป็นการเคารพและให้เกียรติ ซึ่งกันและกัน เป็นการให้กำลังใจในวาระที่เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว เป็นทั้งความเมตตาและมารยาททางสังคม บุคคลที่ร่วมงานก็มีหลากหลายทั้งรัฐมนตรี สส. จากพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ก็ถือเป็นการร่วมแสดงความเสียใจกับท่านนายกฯ ในงาน ท่านองคมนตรีก็ร่วมพูดคุยกับทั้งท่านนายกฯ เศรษฐา และท่านอดีตนายกฯ อานันท์ฯ รวมไปถึง สส. ให้ทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ซึ่งเป็นความเมตตาของผู้หลัก ผู้ใหญ่ ที่เห็นว่าการทำงานเพื่อประเทศชาติ ประชาชน เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ดีงามแล้ว


หวังว่าคุณปิยะบุตร เมื่อทราบแล้ว ก็น่าจะพอแยกแยะออกถึงธรรมเนียมประเพณีอันดีงามในสังคมไทย ความเมตตาของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ไม่ใช่นำทุกเรื่องมาโยงเป็นการเมืองไปเสียหมด”

------------------------------------

“รัดเกล้า” รทสช. อัด “ปิยบุตร” หมกมุ่น -ตรรกะผิดเพี้ยน นั่งจับผิด “นายกฯ-องคมนตรี” แนะ เอาเวลาไปให้กำลังใจพรรคการเมืองที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายดีกว่า


นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขึ้นต้นด้วย แฮชแท็ก #หมกมุ่น #ฝักใฝ่ในพรรคการเมือง

โดยในเนื้อหา ระบุว่า “กรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาแสดงความเห็น กรณีการไปร่วมงานศพคุณแม่ของ ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน โดยท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอนนี้ดำรงค์ตำแหน่งองคมนตรี ซึ่งในระหว่างการเข้าร่วมพิธีนั้น ผู้นำทั้งสองท่านมีพูดคุยทักทายกัน และท่านประยุทธ์เองก็ได้ทักทายหลายคนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพราะแต่เดิมเคยสังกัดอยู่ในพรรคดังกล่าวจึงมีความคุ้นเคยกันดี รวมถึงมีการบอกให้คนใน รทสช. ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลว่าให้ช่วยนายกฯ อย่างตั้งใจ เนเน่ขอตอบกลับดังนี้....


1. ตาม #มารยาท ในสังคม การเจอคนที่รู้จักกัน การทักทายกัน ถ้าไม่คุยอะไรกันเลยสิแปลก ซึ่งโดยปรกติแล้วสิ่งที่ผู้ใหญ่ของบ้าน ของเมืองจะคุยกัน ก็ต้องเป็นเรื่องสารทุกข์สุกดิบของประเทศ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร ...ถ้าจะมีอะไรที่แปลก ก็คงที่คุณปิยบุตรตีความว่าการทักทายเช่นนี้คือการ "ฝักใฝ่ในพรรคการเมือง" นั่นแหละค่ะที่ #แปลก


2. คล้ายๆ ข้อแรก... ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านประยุทธ์เคยเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งแม้ว่าตอนนี้ #ท่านไม่ใช่สมาชิกแล้ว ท่านไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลยตั้งแต่ท่านเป็นองคมนตรี การทักทายกันและบอกให้ รทสช. ช่วยท่านนายกทำงาน ก็ไม่ได้แปลกอะไร และก็เป็นกลางทางการเมืองด้วยค่ะ จริงๆ แล้ว ระหว่างเดินท่านก็เจอคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็น รทสช. ท่านก็พูดเหมือนกัน นัยยะคือฝากฝังให้ทุกคนดูแลประเทศด้วยบทบาทหน้าที่ของตัวเอง สิ่งนี้ก็ไม่แปลกอะไรนะคะ ...ถ้าจะมีอะไรที่แปลก ก็คงที่คุณปิยบุตรตีความว่าการทักทายเช่นนี้คือการ "ฝักใฝ่ในพรรคการเมือง" นั่นแหละค่ะที่ #แปลก


3. ท่านนายกเศรษฐาเพิ่งสูญเสียมารดาไป ซึ่งในระหว่างห้วงเวลาของการสูญเสียนี้ ท่านยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีให้กับคนไทยอย่างเข้มแข็ง การที่คนระดับองคมนตรีจะร่วมไว้อาลัย ร่วมให้กำลังใจ เป็นสิ่งที่เหมาะสมและเป็น #ไมตรีจิต ที่สวยงามที่สุด ไม่ได้แปลกอะไรเลย... ซึ่งจริงๆ ในระบอบประชาธิปไตยที่เราอยู่นี้ การมีภารดรภาพต่อกัน การเห็นความเป็นพี่น้องกันสำคัญเหนือความแตกต่างทางการเมืองเป็นสิ่งที่ควรจะมี ตัวเนเน่เองก็อยากเห็นคุณปิยบุตรแสดงถึงวุฒิภาวะและเป็นแบบอย่างของการเมืองสร้างสรรค์บ้างนะคะ... คุณใช้โอกาสนี้ในการตีความทางการเมือง มันเหมาะสมแล้วเหรอคะ?


ที่แปลกใจคือคนที่มีคนจำนวนหนึ่งนับถือเป็น "อาจารย์" อย่างคุณปิยบุตร กลับมี #ตรรกะวิบัติ แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือกาละเทสะ อะไรควรไม่ควรทำค่ะ ก่อนหน้านี้เนเน่ก็มองว่าคุณเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ...วันนี้ ทั้งแปลกใจและผิดหวังจริงๆ ค่ะ


แต่เอาจริงๆ พอเห็นอย่างนี้แล้วก็ไม่แปลกใจที่พรรคที่คุณปิยบุตรคอยเห็นด้วยเออออห่อหมกมีตรรกะผิดเพี้ยนเหมือนกัน ที่ผ่านมา "สนับสนุนคนฝ่าฝืนกฏหมาย ม.112" แต่แล้วก็ออกมาระดมกระแสว่า "กฏหมายสิผิด ศาลสิผิด คนทำผิดคือคนถูกรังแก"


สุดท้ายนี้ การที่คุณมานั่งจับผิดผู้ใหญ่ทั้ง 2 ท่าน มานั่งอ้างรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 12 ซะยืดยาว คุณทำเพื่ออะไร หากเป็นห่วงท่านประยุทธ์ เกรงว่าท่านจะทำผิดกฏหมาย ก็ขอขอบคุณในความหวังดี แต่คุณเอาเวลาไปให้กำลังใจ "พรรคการเมือง" ที่คุณ"ฝักใฝ่" ที่ตอนนี้อนาคตแขวนอยู่บนเส้นด้าย... จะดีกว่าไหมคะ?


หมายเหตุ: เป็นความเห็นส่วนตัวของเนเน่ไม่เกี่ยวข้องกับ คณะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือคณะโฆษกรัฐบาลแต่อย่างใด”


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QkcmmL203Ag

คุณอาจสนใจ

Related News