เลือกตั้งและการเมือง

"โรม" ขออย่าโฟกัส "ก้าวไกล" ถูกยุบ อัด พ.ศ.นี้ ยุบพรรคโดยศาลควรหมดไปได้แล้ว

โดย nutda_t

30 ก.ค. 2567

53 views

30 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย 7 ส.ค. ว่า ถือเป็นวันสำคัญกับพรรคก้าวไกลอย่างมาก และเราเชื่อมั่นว่าถ้าว่ากันตามข้อกฎหมาย พยานหลักฐานต่างๆกระบวนการต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะนำไปสู่การยุบพรรคได้ หวังว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ แต่ด้วยความที่เป็นคดีสำคัญและเป็นคดีความที่สังคมเองก็จับตามอง เพราะพรรคก้าวไกลในปีพ.ศ.นี้ เป็นพรรคที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในสภา ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนกว่า 14 ล้านคน ดังนั้นการที่พรรคการเมืองถูกยุบง่ายๆ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น สังคมไทยเห็นการยุบพรรคมามากมายพอแล้ว และพบแต่เรื่องความขัดแย้งใหม่ การยุบพรรคการเมืองควรหมดไปได้แล้วจากพ.ศ.นี้ จึงคาดหวังวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะเป็นวันที่สังคมไทยจะไม่มีการยุบพรรคอีกต่อไป

ส่วนการเตรียมพรรคสำรองหากกรณีศาลยุบพรรคก้าวไกลจริง และได้เช็กชื่อ สส. ของพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องการเตรียมเชื่อว่าเราสามารถดูได้จากพรรคการเมืองต่างๆที่เคยถูกยุบ รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ ไม่ใช่เรื่องที่ทุกฝ่ายคาดหมายได้ยาก ว่าเราต้องจัดการอย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่พรรคก้าวไกลอยากบอกสังคมคือ การยุบพรรคไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะพรรคการเมืองเกิดขึ้นได้มีสิทธิ์มีเสียง เพราะประชาชนให้การสนับสนุน ดังนั้นหากพรรคการเมืองถูกทำลายลง ไม่สามารถมีพื้นที่ต่อไปในสังคมหรือในวงการการเมืองได้ ก็ควรจะมาจากการที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ขอให้การยุบพรรคเกิดขึ้นโดยประชาชน

“การยุบพรรคโดยกระบวนการศาล สำหรับผมในพ.ศ.นี้ ควรจะหมดไปได้แล้ว เราควรที่จะให้ประชาชนเป็นคนวินิจฉัยเองว่านโยบายแบบไหน พรรคการเมืองแบบไหน ที่เขาต้องการ” นายรังสิมันต์ กล่าว

สำหรับกรณีที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความพร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นแค่การพูดถึงความพร้อมทั่วไปเท่านั้น แต่เบื้องต้นวันที่ 7 ส.ค.นี้ อยากให้สังคมโฟกัส ว่าไม่ควรมีการยุบพรรคอีกแล้ว

“วันนี้การยุบพรรคยังมาไม่ถึง แต่ทุกคนพูดเหมือนกับว่าพรรคจะต้องถูกยุบแน่ ยังไงก้าวไกลก็คงต้องถูกยุบแน่นอน ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจอยากให้เป็นแบบนี้ สุดท้ายการทำงานการเมืองอยู่บนพื้นฐานความกลัวการทำนโยบายต่างๆไม่สามารถทำได้เต็มที่ สุดท้ายนโยบายหลายอย่าง ต้องไปดูข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ไม่ใช่ทำนโยบายต่างๆได้ ต้องทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและกระบวนการ เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยให้หยุดการกระทำแล้ว ก็ไม่มีการกระทำใดที่บอกได้ว่าเรามีการกระทำใดเพิ่มเติมที่นำไปสู่การยุบพรรค เราไม่ได้ละเมิดกฎหมายใดๆ เมื่อไปดูกระบวนการของกกต. ก็มีปัญหาจริงๆ แต่วันนี้สังคมมาโฟกัสก้าวไกลถูกยุบ เราเองอาจจะโฟกัสก้าวไกลถูกยุบ จนลืมไปว่ามีการใช้อำนาจวิธีการบางอย่างที่อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า แล้วทำให้บุคคลเหล่านี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย อยากให้สังคมช่วยกันโฟกัสและช่วยกันไปดู ว่ากระบวนการที่กกต. ทำไปถูกต้องหรือไม่ เรารับฟังสิ่งที่นายชัยธวัช แถลงต่อสื่อมวลชนและมีอัปเดตมาเป็นระยะ โดยคำถามที่สำคัญคือกระบวนการที่เกิดขึ้น เป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายให้ความเป็นธรรมกับเรา ในฐานะพรรคการเมืองและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่เลือกตั้ง 14 ล้านเสียงหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ยังมั่นใจในข้อกฎหมายและเพื่อนสส.ก้าวไกล ที่จะอยู่กับพรรคต่อทุกคน

ส่วนในเดือนสิงหาคมที่มีหลายคดี จะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่ากรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตนในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ไม่สนับสนุนให้เป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นแล้ว จะสิ้นสุดความเป็นนายกฯ ก็ไม่ควรเป็นโดยกลไกที่ใช้ศาล ซึ่งกรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสม ด้วยข้อครหาที่เกิดขึ้น แต่จะถึงขนาดว่านายกรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้เลยหรือไม่ ก็อาจจะเกินไป ตนยังคิดว่าสุดท้ายควรใช้กระบวนการทางการเมือง เมื่อตั้งคนที่ไม่เหมาะสม ไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอเป็นรัฐมนตรี ประชาชนก็ควรที่จะได้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์และมีมาตรการทางการเมืองตามมา ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุด

ส่วนความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเดือนสิงหาคมและมีสมการของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเกี่ยวข้องนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วง เราก็เห็นว่าสุดท้ายนายทักษิณ ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลาน แต่เข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วไม่ทราบว่าสุดท้ายจะไปสุดที่ตรงไหน ทั้งนี้เห็นว่าพระอาทิตย์มีดวงเดียว ถ้าจะมีพระอาทิตย์ 2 ดวง ก็ไม่รู้จะอยู่กันยังไง มันเป็นความยากที่รัฐบาลเศรษฐาต้องบริหารจัดการ เพราะความยากตรงนี้ หมายถึงบรรดาข้าราชการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้รัฐบาลนี้ควรต้องคิดแล้วว่าต้องฟังใคร จะมองไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หรือมองไปที่คำสั่งของนายเศรษฐา เราไม่รู้ว่าตอนนี้ใครมีอำนาจที่แท้จริงในรัฐบาลชุดนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  รังสิมันต์โรม ,พรรคก้าวไกล

คุณอาจสนใจ

Related News