เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ พร้อมแจงศาล ปม 40 สว.ยื่นสอย ยันไม่กระทบการทำหน้าที่
24 พ.ค. 2567
15 views
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 40 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่
จากกรณีนายเศรษฐา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพิชิต ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายพิชิตเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่ง จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
เนื่องจากศาลฯพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ2561 มาตรา 7 (4)
และให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ2561 มาตรา 54
ทั้งนี้ เสียงข้างน้อย 3 เสียงในประเด็นนี้ได้แก่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ
ส่วนกรณีของนายพิชิตผู้ถูกร้องที่ 2 ได้มีคำร้องของนายพิชิต ลงวันที่ 23 พ.ค.67แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 นายพิชิต ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายพิชิต สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วย วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 51 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ1 มีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของนายพิชิตไว้พิจารณาวินิจฉัย โดย 1 เสียงข้างน้อยได้แก่ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีขอให้นายเศรษฐาผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและ เอกสารประกอบคำร้อง ในชั้นนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยตุลาการเสียงข้างน้อย ได้แก่ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน และนายจิรนิติ หะวานนท์
-----------------
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากรับคำร้องของ 40 ส.ว. กรณียื่นถอดถอนจากตำแหน่งปมเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ตนน้อมรับมติศาลรัฐธรรมนูญ แต่รายละเอียดยังไม่ได้ดู
นายกฯ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายถ้ามีเวลาจะโทรศัพท์ไปหารือกับคณะทำงานฝ่ายกฎหมายว่า จะต้องเตรียมข้อมูลรายละเอียดชี้แจงต่อศาลมีอะไรบ้าง ยืนยันว่าเมื่อเข้ามาทำงานทางการเมือง ก็ต้องพร้อมรับการตรวจสอบอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะไม่อยากกดดันศาล
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมติศาลออกมาระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่างประเทศ ตนมั่นใจว่าสามารถแยกแยะได้ ไม่ต้องห่วง
มื่อถามว่า มีบางฝ่ายออกมาพูดทำนองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบางคนบางกลุ่ม หรือสมาชิกวุฒิสมาชิกบางคนต้องการเล่นเกมต่อรองบางอย่าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่า ท่านต่อรองอะไร ผมไม่อยากคิดไปในแง่ลบ ท่านเองก็มีหน้าที่ของท่าน ก็ได้ยินมาเหมือนกันว่าบางคน ถ้าเกิดหมดวาระไปแล้วไม่ควรจะเสนออะไรอย่างไร แต่ผมไม่ทราบก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ถ้าตามกฎหมายท่านยังมีสิทธิ์เสนอ ท่านก็มีสิทธิ์เสนอไป อันนี้ผมคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ว่าถ้าเขามีสิทธิ์เสนอก็เสนอ แต่ถ้าไม่มีสิทธิ์เสนอก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่วันนี้ผมไม่ทราบ ส่วนเรื่องเกมการต่อรองอะไรอยู่ข้างหลัง ผมไม่อยากมองลึกไปขนาดนั้น เพราะผมเชื่อว่าทุกท่านเองมีความปรารถนาดีกับประเทศชาติ ก็อยากให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความโปร่งใสและชอบธรรม”
เมื่อถามว่า ขณะนี้หลายฝ่ายไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น เนื่องจากเวลานี้ประเทศกำลังเดินหน้าไปด้วยดี อยากบอกอะไรไปถึงฝั่งคนที่มองว่ารัฐบาลยังทำไม่ถูกใจบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเชื่อว่า การที่เราเข้ามาสู่การเมือง จะทำทุกอย่างให้ถูกใจทุกคนเป็นไปได้ลำบาก แต่ขอให้มั่นใจ รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของตน เรายึดมั่น กับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องการตรวจสอบเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หากสื่อมวลชนสังเกตเมื่อถามตนเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตนก็พร้อมที่จะเข้าไปตอบอยู่แล้ว และให้เกียรติทางรัฐสภามาโดยตลอด ฉะนั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ เราเข้าสู่การเมืองแล้ว ต้องมีทั้งฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ เราทราบดีอยู่แล้วตรงนี้ อีกทั้งยังมีองค์กรอิสระ ที่เข้ามากำกับตรวจสอบ ดูแลเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความชอบธรรม ก็อย่าไปบอกเลยว่ามีใครอยู่เบื้องหลังเบื้องหน้าอะไรโดยส่วนตัวคิดว่า เมื่อมาอย่างนี้เราก็ต้องให้ความกระจ่างกันไป
เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจตัวเองและผู้สนับสนุนอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า “สำหรับตัวผมเองคิดว่าคงไม่ต้องให้ เพราะเราอายุขนาดนี้แล้ว ผ่านวิกฤตมาเยอะ ตรงนี้ไม่มีปัญหาหรอกครับ ส่วนคนที่สนับสนุน ก็ขอให้มั่นใจว่า ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และผมเชื่อว่าคนที่ทำงานให้ผมทุกคนก็ทราบดี ว่าผมทำตรงนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และผมเชื่อว่าเราก็เป็นมืออาชีพ ต้องพร้อมที่จะตอบข้อสงสัย ใช้คำนี้ดีกว่า ไม่อยากให้คิดเป็นอื่น อย่าไปคิดให้ลึกเกินไปเลย มันไม่มีความสบายใจหรอก ผมเชื่อว่าทุกคนก็มีความปรารถนาดีกับประเทศทั้งนั้น”
เมื่อถามว่ากำลังใจสำคัญของนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลานี้คืออะไร นายเศรษฐากล่าวว่า “กำลังใจสำคัญของผมในช่วงเวลานี้คือ ถ้าเกิดมาอยู่ตรงนี้แล้ว ผมคิดว่าคงไม่ต้องการกำลังใจหรอก การที่เราเข้ามาสู่เวทีการเมือง ผ่านการเลือกตั้งที่ชอบธรรม ผ่านการตั้งรัฐบาล 3 เดือน มาอยู่เป็นรัฐบาล 8-9 เดือนแล้ว เชื่อว่าเห็นถึงความเดือดร้อนกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะครบกำหนด 15 วันแล้วมีการตัดสิน หรือมีการพิจารณาอีก ในทุกๆ วันล้วนมีความหมาย ทุกคนทุกวันต่างมีความเดือดร้อนอยู่ ทั้งในเรื่องโครงการต่างๆ หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าทุกเรื่อง เป็นหน้าที่ที่ตนต้องทำ
“ปัญหาที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัว หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เราต้องเป็นผู้ใหญ่พอ ที่ต้องแบ่งแยกให้ถูก ในการแก้ไขปัญหาซึ่งก็มีทีมแก้ไขปัญหา และเข้าไปชี้แจง ก็สามารถทำได้ และวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) ก็มีภารกิจ และเสาร์-อาทิตย์นี้เมื่อกลับไปก็มีภารกิจจัดเต็มอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีความคิด ไม่ได้ต้องการกำลังใจพิเศษจากใครใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผมสามารถที่จะ Switch On and Off ได้
---------------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Cmp45E4QIpg