เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' สำรวจหมอชิต 2 รับสงกรานต์ ชี้ให้คะแนน ต้องถาม ปชช. - 'ศุภณัฐ' จี้ติดแอร์อาคารผู้โดยสาร

โดย nattachat_c

12 เม.ย. 2567

52 views

วานนี้ (11 เม.ย. 67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.ก้าวไกล กทม. และ สส.กทม. คนอื่น ๆ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสภาพสถานีขนส่งหมอชิต 2 ในช่วงประชาชนจำนวนมากใช้เดินทางกลับบ้าน ช่วงเทศกาลสงกรานต์


ทันทีที่ นายพิธา มาถึง มีประชาชนที่มาใช้บริการมารุมขอถ่ายรูป พร้อมบอกว่า เลือกพรรคก้าวไกล ขณะที่ นายพิธาก็ทักทายประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดอย่างเป็นกันเอง


นายพิธา ให้สัมภาษณ์ ว่า บขส.ขาดทุน เพราะไม่สามารถแข่งขันกับสายการบินที่มีราคาใกล้เคียง จากเดิมก่อนโควิด ขนส่งทางบกทั้ง 3 สถานี (เอกมัย //สายใต้ // หมอชิต) มีผู้ใช้รวม 6 ล้านคน ตอนนี้ลดลงเหลือ 2.6 ล้านคน ขณะที่รายได้จาก บขส. หายไป 2-3 เท่า


แต่ขนส่งมวลชนเป็นบริการที่ประชาชนเข้าถึงง่ายที่สุด จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมดูภาพใหญ่ ไม่ใช่เน้นแค่สร้างอย่างเดียว เท่าที่ติดตาม นายกฯเวลาลงพื้นที่ อยากแต่สร้างสนามบินเพิ่ม แต่อยากให้เน้นซ่อม บริหารให้ดีขึ้น เพื่อให้การเดินทางกลับบ้านเกิดไปได้ง่ายมากขึ้น แม้ตนจะเป็น สส .แต่เคยใช้ บริการ บขส. อยู่บ้าง เช่น ไปสกลนคร เดินทางกลางคืนไปถึงช่วงเช้ามืด ไม่มีขนส่งมวลชนเข้าพื้นที่ ดังนั้น ปลายทางควรมีการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางสะดวก เหมือนต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นที่มีรถไฟให้บริการ ซึ่งราคาไม่ต่างกัน


นายพิธา กล่าวว่า อยากชวนรัฐบาลคิดว่า การสร้างสนามบินเหมือนเบตง หรือพะเยา ที่กำลังจะเกิดขึ้น ใช้งบเยอะ แต่มีโอกาสที่เม็ดเงินจะหายนอกลู่นอกทาง ดังนั้น ควรดูโครงสร้างเดิม เน้นซ่อม และบริหารให้ดีขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่มาใช้บริการมีความพอใจ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคน รวมถึงผู้พิการ มากกว่าเน้นการสร้างอย่างเดียว


เมื่อถามย้ำว่า ราคาค่าโดยสายใกล้เคียงกับเครื่องบิน ทำให้คนนิยมเดินทางด้วยเครื่องบินมากกว่า นายพิธา กล่าวว่า มันคือไก่กับไข่ ถ้าเริ่มตั้งไข่ให้ได้ก่อน ให้มันสะดวกสบายสะอาด คนใช้มากขึ้น จะทำให้มีรายได้เพิ่ม ขาดทุนลดลง ราคาก็จะปรับให้ถูกลงได้ จะเป็นทางเลือกให้ประชาชน ว่าจะใช้แบบใดที่สะดวกมากกว่า เหมือนบางประเทศที่มีสายการบินราคาถูก มีรถไฟฟ้า รถบัส เช่น ญี่ปุ่น ราคาไม่ต่างกัน แต่เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนเดือดร้อนในการเดินทาง


ส่วนแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ให้หาได้รายได้เพิ่มจากป้ายโฆษณา จากเดิมที่มีรายได้จากเช่าพื้นที่ และป้ายโฆษณา 3 ล้าน มองว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ ธุiกิจหลักของที่นี่คือขนส่ง ไม่ใช่การโฆษณา ถ้าธุรกิจขนส่งทำให้ดีแล้ว ถ้ามีรายได้เพิ่มจากโฆษณา ถือเป็นเรื่องดี ปีที่ผ่านมา ขาดทุนกว่า 300 ล้าน ซึ่งถ้าไม่ดูแลธุรกิจหลัก แต่กลับไปดูโฆษณามากขึ้น จะเป็นการบริหารที่ติด ๆ ขัด ๆ จากที่ผู้โดยสารจาก 6 ล้าน หายไปเหลือ 2.6 ล้านคน ธุรกิจโฆษณาจะไปได้ไม่ไกล


ส่วนการที่ นายกรัฐมนตรีมาตรวจความพร้อม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา แล้วให้คะแนน 8 เต็ม 10 ตนมองว่า เรื่องนี้ควรให้ประชาชนเป็นผู้ให้คะแนนจะดีกว่า โดยจะทำแบบสอบถามในเพจของตนว่า เต็ม 10 ให้เท่าไหร่ มีอะไรต้องปรับปรุง เพราะคนให้คะแนนไม่ได้ใช้ 


ขณะที่ นายศุภณัฐ ให้ 7 คะแนน เพราะยังไม่แก้ปัญหาทางบันไดทางเชื่อม บันไดเลื่อน และอาคารผู้โดยสารที่ควรติดแอร์ทั้งหลัง เพราะสภาพอากาศร้อน และที่ชาร์จโทรศัพท์ แถมไม่มีที่นั่งใหัเหมือนสนามบิน


ส่วนงบประมาณที่หมอชิต 2 ได้งบการปรับปรุงไม่ถึง 10 ล้าน อาจต้องดูว่า สิ่งที่ปรับปรุงพัฒนา คุ้มค่ากับ 10 ล้านหรือไม่ หลัก ๆ คือ เรื่องการปรับปรุงห้องน้ำ จึงไม่แน่ใจว่า เงิน 10 ล้าน เท่าที่เห็น คือ ย้ายป้ายรถเมล์ และป้ายแท็กซี่ มาอยู่ด้านหน้า


ส่วนความจำเป็นของบันไดเลื่อนว่า ควรจะมี เพราะไม่ใช่แค่วัยรุ่นหนุ่มสาวมาใช้  แต่ยังมีผู้สูงอายุ และการขนสัมภาระด้วย จึงควรมีบันไดเลื่อน เพื่ออำนวยความสะดวก


ขณะที่ ก่อนหน้านี้ นายศุภณัฐ เคยเรียกร้อง 14 ข้อ นายศุภณัฐ กล่าวว่า น่าจะปรับปรุงได้ 10 เรื่อง แต่เหลือเรื่องบันไดเลื่อน และชานชาลาที่ยังไม่ปรับปรุง แต่มีการปรับปรุงป้ายรถเมล์ แต่ยังไม่มีพัดลมให้ผู้โดยสารที่นั่งรอ ไม่มีพัดลม ร้อนมาก อยู่ข้างนอก อยากให้ไปสัมผัสว่าประชาชนลำบากอย่างไร รวมถึงป้ายบอกเส้นทาง ที่ยังไม่มี


อย่างไรก็ตาม นายพิธามองว่า การปรับปรุง บขส. ขอให้แค่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20-30% ของนักท่องเที่ยวที่มา ถ้าทำสำเร็จ ก็พลิกโฉม บขส. ถ้าตั้งไข่ได้ ที่เหลือก็ตามมาเอง


นายพิธายังบอกด้วยว่า วันนี้ (12 เม.ย. 67) จะไป จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามส่งผู้สมัครลง นายกฯ อบจ. ที่มีการเปิดตัวก่อนหน้านี้ ไปไหว้พระ และให้กำลังใจผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ขณะนี้ ฝนตกลงมา เชียงใหม่อาจจะดีขึ้น ภายใน 1-2 วัน อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงให้มาก เพราะประชาชนพึ่งรัฐบาล ไม่ใช่พึ่งพระพิรุณ ไม่ใช่ผ่านมา 55 วัน พอฝนตก แล้วบอกว่าทุกอย่างดีขึ้นแล้ว และ 13-14-15 เม.ย. จะไปเล่นน้ำที่อุดรธานี และขอนแก่น


ยืนยันว่า ไปเชียงใหม่ ไม่เกี่ยวกับการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ ย้ำไม่เกี่ยวกับการแย่งชิงพื้นที่การเมือง เพราะพรรคก้าวไกลก็ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจะไป จ.ลำพูน


ส่วนเรื่องการขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการยุบพรรค จากเดิมที่มีกระแสข่าวว่า จะเป็นสิ้นเดือนนี้ นายพิธา ระบุว่า น่าจะมีการพิจารณา หลังเดือนเมษายน ซึ่งการต่อสู้แตกต่างจากเดือนมกราคม เพราะคนละมาตรา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด จะขอคุยกับฝ่ายกฎหมายก่อน

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rVMTtB_VeSQ

คุณอาจสนใจ

Related News