เลือกตั้งและการเมือง

"เฉลิมชัย" บอกยังไม่มีดีลปรับครม. ท้าเปิดชื่อใครคุย ลั่นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ไม่ได้ดีแต่ปาก

โดย gamonthip_s

6 เม.ย. 2567

41 views

นายเฉลิมชัย​ ศรีอ่อน​ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ได้กล่าวพบปะสมาชิกพรรคภายหลังจากพิธีทางศาสนาเสร็จสิ้น​ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ประชาธิปัตย์ยุคนี้​ ไม่ได้ดีแต่ปาก​ เก่งแต่พูด แต่เปิดโอกาสให้กับทุกคน เพราะต้องการยึดโยงประชาธิปไตยอยู่กับทุกคนทุกกลุ่ม​ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์สู้จริงๆ และประชาธิปัตย์จะไม่มีวันมาบอกว่าสู้เขาไม่ได้​ เพราะวันนี้มีศูนย์เทคโนโลยีการสื่อสาร​ ซึ่งตนได้มอบหมาย ให้นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้รับผิดชอบ และเชื่อว่านายสุชัชวีร์ทำได้ และต้องพิสูจน์ความสามารถให้ได้ว่าดีกว่าเขา​ โดยต้องเริ่มทันที ไม่ใช่มานั่งโม้​ นั่งคุยตรงนี้ เราทำทันที​ ตั้งศูนย์เทคโนโลยีมาเพื่อทำโครงการสื่อสาร



โดยนายเฉลิมชัยยังระบุอีกว่า ภายในวันที่ 27 เมษายน ทุกอย่างจะเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด​ ตนไม่ใช่คนจบนอก แต่จะเป็นทุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ แต่ทุกคนต้องมาช่วยกัน



ขณะเดียวกันนายเฉลิมชัย​ ยังระบุอีกว่า สิ่งที่ตนอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลง​ ถ้าภายในไม่เป็นหนึ่งเดียว​ จะไม่มีพลัง และประชาธิปัตย์เป็นองค์กรสาธารณะ เป็นองค์กรทางการเมือง ตนอยากฝากไปทุกกลุ่ม แม้ว่าจะไม่เลือกประชาธิปัตย์​ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำผิด ถ้าคุณบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่ดี​ ก็ให้ไปดูว่ายุคไหน​ ใครบริหาร​ แต่ต้องให้เกียรติความเป็นพรรคการเมือง ถ้าวันนี้ผมบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดี ด่านายเฉลิมชัยได้เลย​ อย่าไปด่าพรรค เหมือนกับคุณมีบริษัทอยู่บริษัทหนึ่ง บริหารไม่ดี อย่าไปด่าบริษัท​ ให้ด่าผู้บริหาร พรรคการเมืองต้องตั้งให้ง่าย​ ยุบให้ยาก​ ไม่ใช่ตั้งยากและยุบง่าย​ ไม่มีทางที่จะพัฒนาการเมืองไปได้อย่างเด็ดขาด นี่คือหนึ่งในนโยบายของเรา​ พรรคต้องให้โอกาสแต่อย่าไปยุบเขาเลยถ้าไม่มีความจำเป็น



นายเฉลิมชัย ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่มีการประชุมใหญ่ สามัญประจำปีของ พรรควันที่ 27 เมษายนนี้ สิ่งที่ทุกคนเรียกร้องว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคปิด เป็นพรรคที่มีในกลุ่มพรรคพวกเท่านั้น ตนจะเปิดพรรคประชาธิปัตย์ 27 เมษายนนี้​ เราจะเปิดพรรคประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมีส่วนร่วม หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสู่พรรค​ ที่จะเป็นสมาชิกพรรค​ หรือกรรมการบริหารพรรค​หรือหัวหน้าจะถูกลดลงมา​ เพื่อให้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ถ้าคุณมีความสามารถ และมีจิตใจที่ยึดโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ เราแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดทุกที่ให้เยาวชน และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เปิดให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเดินแล้ว​ รวมถึงคนรุ่นเก่าที่อาจเข้าใจผิด จะเชิญพวกท่านเหล่านั้นให้กลับมาช่วยกันเป็นพลังพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้งหนึ่ง​



นายเฉลิมชัยยังกล่าวอีกว่า เรากำลังจะก้าวผ่านจุดเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ตนอยากถามทุกคนว่า​ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยากให้ประเทศไทยดีขึ้นหรือไม่​ ขอให้มาช่วยประชาธิปัตย์ วันนี้เรากำลังจะเปลี่ยน​ ถ้าทุกคนไม่มาช่วยกัน​ ไม่มีโอกาสนั้นหรอกครับ พรรคประชาธิปัตย์ถึงจะ 78 ปี แต่ไม่ใช่คนแก่​ประเภทไม่รู้เรื่อง​ ไม่รู้ภาษา แต่เป็น 78 ปี​ ที่มีประสบการณ์พร้อม ผ่านวิกฤตเหตุการณ์ต่างๆ​ และพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง​ และอยู่เคียงข้างกับประเทศไทยในยามที่ประเทศไทยมีวิกฤตทุกครั้ง​ นี่คือประชาธิปัตย์



โดยนายเฉลิมชัย​ กล่าวทิ้งท้ายว่า​ อย่าไปฟังคนอื่นเขามาก​ ขอมาฟังตน ผมนักเลงพอที่จะรับผิดชอบ​ ไม่ต้องห่วง ผมจบด็อกเตอร์​ เรียนมา​ไม่ได้ซื้อ​ ไม่ใช่กิตติมศักดิ์ด้วย​ แต่จะเป็นทุกอย่างเท่าที่สมาชิกอยากให้เป็น



นายเฉลิมชัย​ ศรีอ่อน​ กล่าวในวาระครบรอบ 78 ปีก่อตั้งพรรค​ โดยระบุว่า ที่แน่ ๆ แก่ขึ้นอีกปี พูดได้เต็มปากว่าเราเป็นสถาบันทางการเมือง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ต้องอยู่คู่กับประเทศไทยอีกนาน ซึ่งจะต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน วันนี้สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือพรรคสดใสขึ้น และเห็นถึงหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือการตั้งศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในแง่การสื่อสารถึงประชาชน นำเสนอสิ่งต่างๆสู่สังคม วันนี้โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงต้องขับเคลื่อนให้ทันโลก



ส่วนที่ประกาศในการสัมมนาสส. และกรรมการบริหารพรรค ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะมีการระดมศิษย์เก่าของพรรคที่ลาออกกลับบ้าน วันนี้สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ว่ามีใครบ้าง นายเฉลิมชัย​ ระบุว่า​ เรามีการพูดคุยกันอยู่ตลอด เพียงแต่รอการประชุมสามัญใหญ่ประจำปีที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ ที่จะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรค ในเรื่องสัดส่วนการเลือกกรรมการบริหารพรรคให้เกิดความชัดเจน อะไรที่ท้วงติงว่าไม่เหมาะสมเราก็แก้ไข เพื่อเปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่​ และสร้างความมั่นใจ​ให้กับสมาชิกพรรคที่จะย้ายกลับมา ว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งจะก้าวอย่างมั่นคง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการบริหาร​แต่อย่างใด​



ครั้งนี้​ นายเฉลิมชัย​ ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี​ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยนั้น​ ว่า​ การปรับครม.​ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจอยู่ที่ท่าน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ประเด็นที่บอกว่ามีการพูดคุย ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า



"ท่าน (นายก​ฯ)​ ต้องบอกมาชัดเจนว่าใครไปคุยอะไร ที่ไหนอย่างไร ถ้าพูดไม่ชัดเจน ประชาธิปัตย์เสียหาย และประชาธิปัตย์เป็นองค์กร ความเป็นประชาธิปัตย์มันมากกว่าตำแหน่งของท่าน เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ใช่ ต้องอย่าพูด เราก็เตือนเราก็บอกท่าน การพูดในสิ่งที่ไม่ชัดเจนมันไม่ดีกับทุกฝ่าย ถ้าไม่ทำได้ ​ก็เป็นสิ่งที่ดี"



เมื่อถามย้ำว่ามีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปพูดคุย แต่ไม่ได้บอกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใช่หรือไม่​ นายเฉลิม​ กล่าวยืนยันว่า​ ไม่ทราบ​ แต่ในส่วนของตนไม่มี ไม่เคยคุยอะไรกับใคร​ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับและหลักเกณฑ์อยู่ ตนพูดตลอดนักการเมืองเวลาคุยกัน มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อย่าไปตีความว่ามีการพูดคุย เพราะนี่คือการพูดคุยปกติจริง ๆ แต่หลายคนอาจจะไม่กล้าพูด นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าพรรคอะไรเป็นพรรคการเมืองคุยได้ทั้งหมด แต่การคุยขอให้ไปดูที่เนื้อหาสาระว่าพูดคุยอะไร พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล



ส่วนหากจะต้องร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีเงื่อนไขต้องได้กระทรวงใดหรือไม่ นายเฉลิมชัย​ กล่าวย้ำคำเดิมว่า​ มีกระบวนการในการพิจารณาตรงนี้มากกว่ามาคุยกัน​หรือนั่งตกลงกัน​ ดังนั้นตนคิดว่าต้องเข้าสู่กระบวนการก่อน ถึงจะพิจารณาได้ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ใครจะคิดทำอะไรก็ทำ ไม่ใช่



เมื่อถามว่าการปล่อยข่าวทั้งหมดเป็นการดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนมั่นใจ ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนปล่อย​ ส่วนจะปล่อยเพื่อดิสเครดิตหรือไม่ ขอให้ไปคิดดู ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่าแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนยืนยันย้ำว่า ไม่มี เพราะหากก้าวไม่ข้ามประเทศไทยก็เดินหน้า ให้คิดดูว่าจังหวะเวลาที่ปล่อยข่าว แล้วออกมาพูด มีการรับลูกกัน ใครควรจะเป็นคนปล่อย แต่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ 100%



ส่วนจะเป็นผู้จะเป็นผู้ที่เสียตำแหน่ง ปล่อยข่าวดักทางเองหรือไม่นั้น​ นายเฉลิมชั​ย​ ระบุ​ว่า ถ้าทราบ​ ตนบอกไปแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News