เลือกตั้งและการเมือง

รองโฆษกรัฐบาล ฉะ 'พิธา' แค่นายกฯทิพย์ ไล่ไปเช็คข้อมูล ก่อนแก้ฝุ่น - 'โรม' ซัดคนวิจารณ์ มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ

โดย nattachat_c

19 มี.ค. 2567

32 views

“เกณิกา” ซัด “พิธา” เคยเป็นแต่ “นายกทิพย์” เลยไม่รู้ว่ารัฐบาลต้องทำงานอย่างไร ถนัดสร้างวาทกรรมพูดเลื่อนลอย ที่ทำไม่ได้จริง ไล่ไปเช็คข้อมูล-ตัวเลข ก่อนจะแนะนำให้ จ.เชียงใหม่ ประกาศภาวะฉุกเฉินแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลยินดีรับฟังคำแนะนำ แต่ไม่ใช่จ้องโจมตีฝ่ายตรงข้ามเพื่อเอามัน ระบุ นายกฯ เศรษฐา ไตร่ตรองถี่ถ้วน


วานนี้ (18 มี.ค. 67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่า ทำไม จ.เชียงใหม่ ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน 


ตนขอย้ำว่า รัฐบาลทำงานหนัก มีแผนการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไว้แล้ว การประกาศพื้นที่ฉุกเฉินโดยไม่ศึกษารายละเอียด เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ  ต้องดูด้วยว่าสถานการณ์เหมาะสมหรือยัง


และขณะนี้ ตัวเลขระดับ PM 2.5 และ AQI ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ -11 มีนาคม 2567 คุณภาพอากาศที่ จ.เชียงใหม่ ยังคงดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างเห็นได้ชัด


จากข้อมูลศูนย์สื่อสารปัญหามลพิษทางอากาศ เห็นได้ว่า วันที่ 11 มีนาคม 2567 มีตัวเลขอยู่ที่ 44 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยตัวเลขวันเดียวกันของปี 2566 อยู่ที่ 96 มคก./ลบ.ม.


เช่นเดียวกับตัวเลข AQI ของปี 2567 ที่กราฟค่อนไปทางสีเหลือง สีเขียว มีวันที่กราฟเป็นสีแดงน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 อย่างเห็นได้ชัด


คำแนะนำของนายพิธา หากเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน รัฐบาลยินดีที่จะรับฟัง แต่ไม่ใช่จ้องแต่โจมตีฝ่ายตรงข้ามเพื่อเอามัน  หรือคอยจ้องจับผิดการทำงาน แล้วสร้างวาทกรรม หรือยกทฤษฎีมาแต่ปฏิบัติจริงไม่ได้ เพราะการบริหารประเทศนั้น ไม่ใช่การพูดไปส่ง ๆ แต่ก็เข้าใจเพราะว่า นายพิธาเคยเป็นแค่นายกฯทิพย์ จึงไม่รู้ว่าเขาทำงานกันอย่างไร


น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ตนขออธิบายเพิ่ม เพื่อเป็นข้อมูลให้นายพิธาว่า เรื่องการประกาศพื้นที่ฉุกเฉินเพื่อดึงงบประมาณมาใช้นั้น นายพิธารู้หรือไม่ว่า งบฯส่วนนี้ มีจำนวนเพียง 50 ล้านบาท


แต่ที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางไปเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เป็นจำนวนเงินถึง 272,655,350 บาท ซึ่งมากกว่าหลายเท่า


นายพิธา อยากได้งบฯ 50 ล้านบาท มาแลกกับรายได้ที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่เพิ่งฟื้นจากวิกฤติโควิด จะได้รับจากการท่องเที่ยวเช่นนั้นหรือ


นอกจากนี้ หากมีการประกาศเป็นพื้นที่ฉุกเฉิน ประชาชนจะต้องอยู่ภายใต้กฏระเบียบหลายอย่างที่กระทบต่อการใช้ชีวิต และกระทบต่อเศรษฐกิจปากท้อง


พอมีข่าวออกมาวันนี้ ภาคเอกชน ประชาชน และนักวิชาการหลายท่าน ออกมาค้านการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน นายพิธาจะเปิดใจรับฟังเสียงเหล่านั้นหรือไม่ การประกาศภาวะฉุกเฉินไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น นายกเศรษฐาได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว


น.ส.เกณิกา กล่าวยืนยันว่า หน่วยงานภาครัฐไม่ได้มีใครนิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาฝุ่นเลย ทุกภาคส่วนได้แก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะนายกฯเศรษฐา ที่เข้าใจปัญหา และความรู้สึกของประชาชน เพราะตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ก็เร่งแก้เรื่องนี้ที่เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่แรก ส่วนงบกลางที่เพิ่งอนุมัติไป ก็เป็นครั้งแรกที่มีการอนุมัติงบลักษณะนี้ เพื่อให้ถึงมือประชาชนโดยตรง


ขอแนะนำให้นายพิธาตั้งสติ และศึกษาข้อมูล ก่อนพูด โดยเฉพาะข้อมูลประกาศภาวะฉุกเฉิน ลองพิจารณาดูผลเสียมากกว่าได้


และหากนายพิธาใส่ใจศึกษาข้อมูลตัวเลขสักนิด จะเห็นว่า ค่าฝุ่นในช่วงเดียวกันของปีนี้กับปีที่แล้ว ต่างกันอย่างมาก โดยลดลงเกินครึ่งตัว ฉะนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่นายพิธาจะมาแนะนำแบบนั้น มองว่าอย่างนี้ก็น่าจะเป็นนายกฯทิพย์ไปก่อน


ซึ่งข้อมูลเลขเหล่านี้ เกิดจากการทำงานหนักของทุกภาค ตั้งแต่ ครม. ปลัด อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชน


“ถ้าเกิดทัศนคติยังคิดว่า ในการทำงานของรัฐบาลจะต้องโจมตีทุกอย่าง คิดว่านายพิธาก็ไม่น่าจะพร้อมเป็นนายกฯ จริง ๆ เพราะการทำงานไม่ใช่พูดเอามัน การบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่การพูดเอามัน หรือการเอาทฤษฎีที่เป็นไปไม่ได้มาพูดเลื่อนลอย


การทำงานจริง มีกระบวนการหลายอย่าง รัฐบาลมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ถ้าจะเอาเวลาที่โจมตีด้อยค่ากัน คิดว่าเอาเวลาไปแก้ปัญหาดีกว่า โชว์ให้ดูก็ได้ ไม่ใช่แค่พูด แต่เป็นการลงมือทำเหมือนที่นายกฯทำ”

-------------

วานนี้ (18 มี.ค. 67) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การลงพื้นที่ดับไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรก้าวไกล เป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาททางการเมือง ว่า


การที่นายพิธาจะไปที่ไหนก็เป็นสิทธิ์ จะไปลงพื้นที่เชียงใหม่ ไปช่วยดับไฟป่า ก็คิดว่าเขามีเจตนารมณ์ที่ดี


ต้องยอมรับว่า จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือหลาย ๆ จังหวัด ก็มีฝุ่นควันเยอะ อากาศแย่ ทำลายการท่องเที่ยว การที่นายพิธามีความตั้งใจที่ดีในการแก้ปัญหา พยายามทำให้ทุกคนมีความสนใจที่จะแก้ปัญหา และทำให้ภาครัฐหลายส่วนช่วยกันแก้ปัญหา มองว่าไม่น่าจะผิดอะไร


นายรังสิมันต์ ยังตอกกลับคนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ หรือการไม่มีมารยาท ตนว่าอย่าพูดแบบนี้ดีกว่า เข้าใจว่า สส.ที่พูดแบบนี้ อยู่ฝั่งรัฐบาล


แทนที่จะว่าฝ่ายค้าน เอาเวลาไปกระทุ้งรัฐบาลให้แก้ปัญหาให้จริงจังดีกว่า เพราะรัฐบาลไม่ใช่มือใหม่ บริหารงานมาหลายเดือนแล้ว ควรใช้โอกาสตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า


หากคิดว่าเชียงใหม่ เป็นเมืองหลวง และฐานที่มั่นสำคัญของรัฐบาล ก็ช่วยดูแล  อย่างน้อยสภาพอากาศต้องดีขึ้น

-------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gpWVw0_u_04


คุณอาจสนใจ

Related News