เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' มั่นใจ เศรษฐกิจปี 67 จะดีกว่าปี 66 - เมิน ธปท.แนะทบทวนเงินดิจิทัล ยังเดินหน้าต่อ

โดย nattachat_c

3 ม.ค. 2567

71 views

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังการเจริญเติบโตเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกว่า ขึ้นอยู่กับหลายๆอย่าง ซึ่งเราพยายามทำเต็มที่ อะไรทำได้เราทำก่อน ก็หวังว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ   ซึ่งจริง ๆ แล้วก่อนที่เราจะเข้ามาบริหารงาน คิดว่าจะสามารถปล่อยเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตออกมาได้ในไตรมาสแรกประมาณ 1 ก.พ. หรือ 1 มี.ค.67 แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ซึ่งเราก็พยายามหาวิธีอื่นมาทดแทน ไม่ว่าจะผ่านการท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เราก็พยายามทำขึ้นมา


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการเฉพาะกิจหรือมาตรการเร่งด่วน มากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เงินดิจิทัลยังไม่เรียบร้อยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ทำอยู่ทุกเรื่องอย่างที่ได้แถลงไป เช่น เรื่องการประมงก็ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง และเรื่องของวีซ่าฟรีซึ่งเป็นระยะยาวก็น่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง นักท่องเที่ยวจีนก็ไม่จำเป็นจะต้องขอวีซ่า ที่เราคิดว่าจะหมดตอนสิ้นเดือน ก.พ.ก็ไม่มีอายุแล้ว เป็นการยกเว้นทั้งสองทางอย่างถาวร


ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการเข้าบริหารประเทศ นายกฯ พูดได้หรือไม่ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า ใช่ครับ พยายามทำอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า มีปัจจัยหรือเหตุผลอะไรที่ทำให้นายกฯมั่นใจ นายกฯ กล่าวว่า ก็หลายๆ มาตรการที่เราพยายามจะทำออกมา ไม่ได้มีจุดไหนจุดเดียว เช่น การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ การเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย การเจรจาสนธิสัญญาการค้า การเจรจาการลงทุน ซึ่งก็เห็นผลแล้ว  ที่เห็นกันอยู่ในแง่ของที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติมาลงทุนเรื่องการทำให้ธุรกิจง่ายขึ้น และมีการพูดคุยกันเรื่อง One stop service ซึ่งยังไม่สำเร็จผล จึงยังไม่ได้มีการชี้แจง เพราะอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ,การขนส่งสินค้าจากไทยข้ามไปลาว จีน ที่ต้องการให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เราดูจากหลายๆ เรื่อง


ผู้สื่อข่าวถามว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยากให้ทบทวนเรื่องเงินดิจิทัล เพราะตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ดูแต่ 1.5 เปอร์เซ็นในไตรมาส 3 มันไม่ดีครับ เดี๋ยวต้องดูไตรมาส 4 ด้วย อย่าลืมที่เรียนมาโดยตลอดเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไม่จำเป็นต้องติดลบก็ถือว่าอยู่ในภาวะที่หนักหนาอยู่เหมือนกัน เพราะดูอย่างประเทศอื่น ๆ เพื่อนบ้านเราคิดว่าสื่อมวลชนทราบดีอยู่แล้วขยายตัวเท่าไหร่


ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังรัฐบาลส่งคำถามให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 500,000   ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท  ว่าขณะนี้ รัฐบาลยังคงรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แจ้งก่อนเทศกาลปีใหม่ว่า จะสามารถส่งคำตอบได้ในช่วงต้นเดือนมกราคมนี้  แต่รัฐบาลไม่สามารถไปเร่งรัดการตีความของกฤษฎีกาได้ว่า จะให้ชัดเจนภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ เพราะถือเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่รัฐบาลไม่สามารถก้าวก่ายได้


ส่วนความเห็นของกฤษฎีกา เมื่อออกมาแล้วรัฐบาลจำเป็นต้องปฏิบัติตามหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ความเห็นของกฤษฎีกาเป็นความเห็นทางด้านกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลรับฟัง แม้ระเบียบไม่ได้บังคับให้ปฏิบัติตาม แต่รัฐบาลต้องรับฟังเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลต่อความล่าช้าที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน และต้องให้เกียรติ และให้เวลากฤษฎีกาพิจารณาเต็มที่

-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/VtC2-aED0sY

คุณอาจสนใจ

Related News