เลือกตั้งและการเมือง

'ชัยธวัช-พิธา' มั่นใจ แก้ ม.112 ไม่ใช่ล้มล้างการปกครอง ศาล รธน. นัดชี้ขาด 31 ม.ค.67

โดย thichaphat_d

26 ธ.ค. 2566

20 views

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.66) คือ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีที่พรรคก้าวไกลถูกร้องว่ามีการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง กรณีเสนอแก้ไขกฎหมายยกเลิก ม.112 และสุดท้าย ศาลนัดตัดสินคดี วันที่ 31 มกราคม

ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณกษร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย "การกระทำ" ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่

โดยทางพรรคก้าวไกลส่งพยานมาให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน 2 ปาก คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าพรรค และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรค เป็นการตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งนัดแถลงการณ์ด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติคดีนี้ ในวันพุธที่ 31 มกราคม 2567 เวลา 09.30 น.  และนัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 14.00 น.

ถือเป็นอีกวันที่พรรคก้าวไกลต้องลุ้นระทึก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลนัดวินิจฉัยคดีนายพิธา ถือหุ้นไอทีวี ในวันที่ 24 มกราคม

ขณะที่ทั้งนายชัยธวัช และนายพิธา แสดงความมั่นใจว่า การเสนอแก้มาตรา 112 ไม่มีทางนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ และ พรรคก้าวไกลไม่ใช่พรรคแรกที่เสนอแก้มาตรา 112

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวน ว่า การไต่สวนผ่านไปได้ด้วยดี ยังมั่นใจ ทั้งด้วยข้อเท็จจริงของกฎหมาย และเจตนาว่าไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง

เพราะการเสนอร่างกฎหมายไม่ว่ากฎหมายอะไรไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างระบบการปกครองได้ เนื่องจากกระบวนพิจารณาต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ของสภา และยังมีกระบวนการการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งก่อนและหลังประกาศใช้ จึงไม่มีทางที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้

ขณะที่นายพิธา ก็ยืนยันความมั่นใจหลังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ โดยบอกว่า มั่นใจว่าการเสนอแก้ไขกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ และไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลดำเนินการเป็นพรรคแรก นอกจากนี้ในช่วงการหาเสียง ตนก็ไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯคนเดียว ที่แสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ยืนยันเป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ได้มีเจตนาหรือการกระทำใดที่จะเป็นการล้มล้างการปกครอง

นายพิธา ปฏิเสธที่จะประเมินว่า มั่นใจกี่เปอร์เซ็นว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ สส. เพียงแต่บอกว่าพอใจกับการชี้แจง ซึ่งได้ทำเต็มที่แล้ว โดยจะรอคำพิพากษาทั้ง 2 คำร้องในวันที่ 24 มกราคมและวันที่ 31 มกราคม 2567

ไม่ว่าผลวินิจฉัยคดีโดยศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ก็ยังคงทำงานกับพรรคก้าวไกลต่อไป ส่วนหากผลวินิจฉัยเป็นคุณจะได้กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ช่วงเดือนเมษายน 2567 แต่ยืนยันไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง

ขณะที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้อง เปิดเผยว่า จากการไต่สวนในวันนี้ไม่มีสิ่งใดที่ติดค้างใจ ตอนนี้ก็รอคำวินิจฉัย ซึ่งคำร้องของตน ไม่ได้ร้องถึงขั้นยุบพรรค แต่ร้องให้หยุดการกระทำที่เป็นการก้าวล่วงถึงสถาบัน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/69fTXZKUyW0

คุณอาจสนใจ

Related News