เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' เน้นย้ำสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น แบบใจถึงใจ - แจ้งข่าวดี อินโดนีเซียซื้อข้าวปีหน้า 2 ล้านตัน

18 ธ.ค. 2566

111 views

วานนี้ (17 ธ.ค. 66) เวลา 11.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม.) ณ โรงแรม Okura Tokyo กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วม และกล่าวถ้อยแถลงในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษฯ ช่วงที่ 2


โดยเป็นการหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ภายใต้หัวข้อ “Heart to Heart Partners across Generations” โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้


นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจ (Heart-to-Heart Partnership) ผ่านการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ทั้งในด้านการศึกษาและวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ญี่ปุ่นถือเป็นพันธมิตรที่ไทยให้ความไว้วางใจอย่างมาก โดยเฉพาะการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชน


อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นว่า การสร้างความร่วมมือระหว่างรุ่นสู่รุ่นที่แท้จริงในอนาคต จะต้องคำนึงถึงค่านิยม และทัศนคติที่แตกต่างกันของคนหนุ่มสาว รวมถึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนด้วย


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมมิตรภาพและสร้างความประทับใจในญี่ปุ่นให้กับทั้งเยาวชนไทยและอาเซียน รวมถึงแอนิเมชันญี่ปุ่น ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ชมได้จากรุ่นสู่รุ่น สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความเข้าใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และปลูกฝังค่านิยมเชิงบวก


โดยนายกรัฐมนตรีเติบโตมาพร้อมกับตัวการ์ตูนหน้ากากเสือ (Tiger Mask) และกาโม่มนุษย์กายสิทธิ์ (Specter-man) ซึ่งถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรก ๆ ของโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่หลายคนในการมุ่งมั่นทำงานเพื่อโลกที่ดีขึ้นและสงบสุข


รัฐบาลไทยตระหนักถึงศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และ Soft Power ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไทยมีอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่กำลังเติบโต ทั้งการออกแบบ แฟชั่น อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะการแสดง เกม และการสร้างเนื้อหาดิจิทัล ทั้งนี้ ไทยพร้อมมีความร่วมมือกับญี่ปุ่นและอาเซียนในการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม


ความร่วมมือด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เช่น โครงการ Japan East-Asia Network of Exchange for Students and Youths (JENESYS) และโครงการที่ริเริ่มใหม่ Partnership to Co-create a Future with the Next Generation (WA Project 2.0) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ความร่วมมือดังกล่าวควรได้รับการส่งเสริมให้เข้มแข็ง เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต และยินดีที่ญี่ปุ่นบริจาคเงิน 4 หมื่นล้านเยน เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นนี้


ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจต่อไป เพื่อเพิ่มความเข้าใจอันดีต่อกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป

------------
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยกับนายกฯญี่ปุ่นยังมีการพูดถึงองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งมีประเทศใหญ่ ๆ เป็นสมาชิกอยู่ 30 กว่าประเทศ อาทิ ออสเตรเลียเบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลี สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร แต่เรายังไม่ได้เป็นสมาชิกอยู่ระหว่างการยื่นอยู่


โดยญี่ปุ่นเชิญให้เราเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมครั้งหน้าช่วงปีหน้า ซึ่งเราไม่ต้องไปขอ แต่ญี่ปุ่นเขาเชิญเรา ทั้งนี้ หากเราได้เป็นสมาชิกการเจรจาเกี่ยวกับ สนธิสัญญาการค้า จะทำได้ดีขึ้นถือเป็นเรื่อง ยิ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นความสำเร็จสัมพันธ์ดีมาก

---------------

ในการพูดคุยกับ โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่ดำรงตำแหน่งมา 8 ปีแล้ว และปัจจุบันเป็นประธานอาเซียน ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีบารมี และทุกคนให้ความเคารพ ตนก็ได้เจอท่าน 3-4 ครั้ง


โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านส่งนักธุรกิจมาคุยเรื่องการค้าข้าวมาพูดคุยก่อนแล้ว และการพบกันวันนี้ประธานาธิบดียืนยันว่าจะซื้อข้าวไทยจำนวน 1 ล้านตันภายในปีนี้ แต่เมื่อระยะเวลาเหลือเพียง 20 วัน ประธานาธิบดียืนยันจะสั่งข้าวไทยเป็น 2 ล้านตัน โดยจะส่งคนมาพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วงต้นปี 2567 ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ราคาข้าวไทยมีราคา และความต้องการสูงขึ้น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี

---------------
นายกฯ กล่าวว่า ภายหลังการประชุมหารือทวิภาคีกับ นายกฯญี่ปุ่น แบบเต็มคณะ นายกฯญี่ปุ่น ได้มอบของขวัญพิเศษเป็นเหล้าอาวะโมริ (Awamori) ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองของจังหวัดโอกินาวะ ที่ผลิตจากข้าวไทย ซึ่งเขาทำมา 100 กว่าปีแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงว่าเขามีใจให้ประเทศไทย เราซาบซึ้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้น สำหรับขิงขวัญชิ้นพิเศษที่นายกฯญี่ปุ่นได้มอบของขวัญชิ้นพิเศษ เป็นเหล้าอาวะโมริ (Awamori) ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองของจังหวัดโอกินาวะ ที่ผลิตจากข้าวไทยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับญี่ปุ่นยาวนานกว่า 600 ปี

-------------

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการมอบของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรีถูกมองว่าเป็นนักการเมือง ส่วนนักการเมือง บางทีก็ลืมไปว่าเป็นนักการเมือง เพราะมัวแต่เล่นการเมืองหรือไม่ ตนเชื่อว่าตอนนี้ เวลานี้ เราไม่ได้มาเล่นการเมือง


แต่รู้ว่าเรามาทำการเมืองเพื่ออะไร และมาอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร เรามาเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ซึ่งสิ่งที่เราอยู่ก็ถือว่าต้องทำให้ประชาชนอยู่แล้ว ฉะนั้นหากถามว่าของขวัญคืออะไร คือคณะรัฐมนตรีทุกคน ทีมงานทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


ก่อนยืนยันว่าเราจะพยายามทำเต็มที่เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีกว่าที่ผ่านมา ถือเป็นคำมั่นก็แล้วกัน ก็คอยดูแล้วกัน พร้อมย้ำว่าจะทำเต็มที่ เพราะบางอย่างก็ถูกใจ และบางอย่างยังไม่เป็นที่เพียงพอ ก็เข้าใจได้ถึงความรู้สึก เพราะตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่หลายด้าน อะไรที่ทำได้ก็จะทำก่อน อะไรใช้เวลาก็จะทำไป หลายเรื่องต้องเก็บข้อมูลเพื่อมาดำเนินการเพื่อความพร้อม

-------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/CfQsiiihtN8

คุณอาจสนใจ