เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' ยันไม่เคยก้าวก่ายแทรกแซงโยกย้ายผู้กำกับ - 'เสรีพิศุทธ์' แนะ ลาออกเถอะ เผลอพูดมาแล้ว
23 พ.ย. 2566
131 views
'เศรษฐา' ยันไม่เคยก้าวก่ายแทรกแซงโยกย้ายผู้กำกับ แจง สส.ไม่เคยขอ ด้าน รังสิมันต์ โรม ไม่รอช้าขยี้ซ้ำ ‘เศรษฐา’ เอามีดจี้คอตัวเองโพล่งผุด ‘ตั๋วเพื่อไทย’ กลางวง สส. วิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ‘ผู้กำกับตร.’ ชัดผิด ‘3 กระทงใหญ่’ เล็งรวบรวมข้อมูลฟันเอาผิด
กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ไปพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า "ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงจะมีผู้ผิดหวังมากกว่าสมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะมีเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่สมหวัง..." จนกลายเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งคำถามเรื่องตั๋วตำรวจ และเรียกร้องให้นายกฯ ชี้แจง
วานนี้ (22 พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า “โอ้ย ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอกครับ ผมยืนยันว่าทางผมไม่มีอำนาจ และไม่เคยแทรกแซง ไม่เคยก้าวก่ายในการแต่งตั้ง ข้าราชการ และ ข้าราชการตำรวจเลย เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณาตามผลงาน”
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าอย่างที่ทราบกับว่าประชาชน มี สส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน แล้วมีการมาพูดคุยกันเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดที่เรื้อรังมา แล้วอาจจะมีความไม่สบายใจกับเจ้าหน้าที่ จึงได้มีการพูดคุยกัน ตนยืนยันว่า สส.ไม่ได้มาขอตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้าย “เราพูดเรื่องความ ไม่ได้พูดเรื่องคน ความคือมีปัญหาในพื้นที่ เราเองก็มาพูดกันถึงปัญหาในพื้นที่มากกว่า เอาเรื่องความเป็นหลัก ผมยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้ไปก้าวก่ายหรือไปสั่งการกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการแต่งตั้งผู้กำกับ และความจริงแล้วไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจของผมด้วย”
เมื่อถามต่อว่านายกรัฐมนตรีเคยพูดเรื่องนโยบายว่าไม่อยากให้มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง รวมทั้งการใช้เส้นสาย ต้องกำชับ สส.ในพื้นที่อย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สส.ทราบหน้าที่ของตนเองดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีประเด็นตรงนี้
เมื่อถามว่าที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีการขอมาเยอะ มีทั้งคนผิดหวังและคนที่สมหวังหมายความว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่การขอมา คนสมหวัง คนผิดหวัง หมายความว่ามีคนบอกว่าเจ้าหน้าที่อาจจะทำงานไม่ดีตรงนี้ ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสมมุติถ้าเขาทำงานไม่ดี ผมก็ไม่สามารถไปสั่งย้ายได้อยู่ดี ก็ทำได้พียงไปบอกว่าในพื้นที่ ในส่วนนี้ ในเขตนี้ มีปัญหาเรื่องยาเสพติดเยอะช่วยดูแลด้วย และถ้าเกิดว่ามีการกำกับดูแลไปแล้ว แล้วยังยืนยันว่าบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เป็นบุคคลที่เหมาะสมอยู่ก็ต้องทำงานต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าพูดเรื่องความไม่ใช่พูดเรื่องคน ยืนยันมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นทางพรรคก้าวไกล ตีความว่าอาจจะผิดกฏหมายมาตรา 185 นายกรัฐมนตรีจะชี้แจงอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “โอ้ว ยืนยันครับว่าผมไม่ได้ไปก้าวก่ายไม่เคยไปสั่งการ และทางสส.ก็ไม่เคยมาขอ”
--------------------------------------------------------------
‘เสรีพิศุทธ์’ แนะ ‘เศรษฐา’ ลาออกเถอะ เผลอพูดมาแล้ว ฝากผู้กำกับ อย่าให้มีคดีความเลย ด้าน “หญิงหน่อย”ติดแท็ก #ตั๋วนายกฯ จี้ “เศรษฐา”รับผิดชอบสิ่งที่พูด
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่า
“ถึง ท่านนายกเศรษฐา เมื่อวานท่านเผลอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไปเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้กำกับการที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทยขอสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปก็มีทั้งสมหวังและผิดหวัง ก็คงจริงเพราะจะให้ได้ทุกตำแหน่งคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะตำแหน่งมีจำกัด
ท่านเพิ่งเข้าสู่วงการเมืองคงอ่านรัฐธรรมนูญยังไม่จบ โดยเฉพาะมาตรา186 วรรคสอง รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นหรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบ ตามที่กำหนดในมาตรทางจริยธรรม
คำให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวของท่านเปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงินที่ออกให้ประชาชนไปแล้ว คงไม่อาจปฎิเสธเป็นอย่างอื่นได้อย่างแน่นอน หนทางเดียวคือการแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก
ให้มีกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญกันใหม่ อย่างไรเสียประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้แล้วว่าท่านคือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย อย่าไปเสียดาย วาสนามีเท่านี้ก็ต้องเท่านี้ มิฉะนั้นท่านจะต้องอับอายไปทั่วโลก สู้ลาออกเดินเชิดหน้าอย่างสง่าผ่าเผยไม่ดีกว่าหรือ คดีอาจจะไม่มีก็ได้ เชื่อผมเถอะ”
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงความคิดเห็น ผ่าน X ถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เรื่องการขอแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับการ ว่า “นายกฯ ควรต้องชี้แจง แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการพูดความจริงต่อสิ่งที่ตนเองพูด เพราะนอกจากจะเป็นการใช้อำนาจที่อาจจะผิด กม. มันคือการทำลายความเป็นธรรมในระบบราชการ คนทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มีความสามารถควรได้เลื่อนยศ มิใช่คนที่เลียแข้งเลียขานักการเมืองแล้วได้ดี #ตั๋วนายกฯ”
---------------------------------------------
‘โรม’ ขยี้ซ้ำ ‘เศรษฐา’ เอามีดจี้คอตัวเองโพล่งผุด ‘ตั๋วเพื่อไทย’ กลางวง สส. ชัดผิด ‘3กระทงใหญ่’ เล็งรวบรวมข้อมูลฟันเอาผิด
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พูดในที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า
ตนขอให้คำว่า “ตั๋ว” ที่ยังชัดเจนว่าวันนี้ยังมีอยู่ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยปกติแล้วระบบตั๋ว มักไม่มีหลักฐานที่เป็นใบเสร็จเพื่อที่จะนำไปยืนยันชัดเจน เพราะใช้วิธีโทรฝากกัน โชคดีหน่อยก็อาจมีการอัดเสียง แต่คนที่เป็นระดับนายกฯ พูดประโยคแบบนี้ท่ามกลางที่ประชุม สส. แล้วมันทำให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่ามี สส.พรรคเพื่อไทยมาขอนายกฯ ตนขอเดาว่าคงพูดว่าฝากคนนี้ในพื้นที่นี้ได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ผิดกฎหมายแน่นอน มันสะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ เส้นสาย ระบบตั๋วที่ไม่เคยหมดไป ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ทั้งๆที่นายเศรษฐาตอนหาเสียงก็บอกว่าไม่ยอมรับระบบเส้นสายพวกนี้ จะจัดการปัญหา แต่สุดท้ายวันนี้พูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ว่ามีผู้กำกับอาจผิดหวัง ไม่สมหวัง บางคนอาจสมหวัง ซึ่งฟังได้ว่ามี สส.ฝากมา สิ่งเหล่านี้เลวร้าย ทำลายน้ำใจของตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ต่อให้ทำผลงานดีแค่ไหนถ้าไม่มีเส้นสายสุดท้ายก็ไม่สามารถเติบโตได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในแง่ของกฎหมาย มันมีความสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายคือ 1.รัฐธรรมนูญ มาตรา185 เกี่ยวกับการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
2.ตามพ.ร.บ.ตำรวจฯ นายกฯมีอำนาจเฉพาะเสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อพิจารณาในที่ประชุมก.ตร.เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจลึกลงไปถึงการแต่งตั้งตำรวจในระดับผู้กำกับ และ
3.อาจยังเข้าข่ายผิดจริยธรรมนักการเมืองอีกด้วย
ส่วนที่นายกฯ อ้างว่าเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เต็มที่ก็อาจหารือกับ ผบ.ตร.เกี่ยวกับนโยบายยาเสพติด หรืออาจฟังเสียงสะท้อนจาก สส. แต่การไปลงรายละเอียดเรื่องตัวบุคคล มันชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วมันคือตั๋วเพื่อไทย ปัญหาความร้ายแรงนี้ ไม่ใช่แค่การส่งสัญญาณการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเพียงอย่างเดียว แต่พลเรือนอื่นๆ จะต้องมีระบบตั๋วหรือไม่ วันนี้ประเทศไทยอยู่ที่เดิม ระบบอุปถัมภ์แบบเดิมไม่ไปไหน ตนกังวลว่ามันจะไปไกลถึงขนาดซื้อขายตำแหน่งกัน
“จากการฟังคำพูดของนายกฯ ฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นคำสัญญาที่นายตำรวจพูดกับผมตอนที่ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีตั๋ว แต่สิ่งที่นายกฯพูดนั้นชัดเจน ไม่ต้องบิดเป็นคำพูดอื่น เพราะชัดเจนว่านายเศรษฐา เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายจริง บางคนอาจถามว่า มีหลักฐานเพื่อเอาผิดนายกฯ ผมขอบอกว่าการฝากแต่งตั้งนายตำรวจไม่สามารถหาเอกสารทางราชการได้ เพราะใช้การสนทนาทางโทรศัพท์ต่อสายเพื่อฝากได้ ดังนั้น คำพูดของนายกฯที่ผมเชื่อว่าเป็นการแฉตัวเอง หรือการหลุด ชัดเจนว่าจะฟังได้ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในขณะนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/CI7u-NVFlWg
แท็กที่เกี่ยวข้อง เศรษฐาทวีสิน ,รังสิมันต์โรม ,ตั๋วเพื่อไทย