เลือกตั้งและการเมือง

ก้าวไกล ลงโทษ สส.คุกคามทางเพศ - เร่งสอบแชท สส.ปราจีนฯ - เจอโผล่อีกเคส อยู่ระหว่างตรวจสอบ

13 ต.ค. 2566

220 views

ก้าวไกลแถลง-เปิดให้สื่อรุมซัก 30 นาที ความคืบหน้า ‘รวมเคส’ สส. ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ยันหาข้อยุติภายใน ต.ค.เดินหน้าปรับปรุงมาตรการป้องกัน-รับมือ 'ไอติม' น้อมรับคำวิจารณ์ ลั่น เวลาเราเรียกร้องมาตรฐานจากสังคม ก็ต้องเรียกร้องกับตัวเองด้วย ยันพรรคไม่สื่อสารทางเดียว เปิดให้ถามได้ บอกยินดีให้ความร่วมมือคนนอกสอบ ด้าน 'ทนายแจม' รับ เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจ-ต้องตอบสังคมให้ได้ บอก เราไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดร่วมกันได้ สัญญาจะยกระดับความรับผิดชอบของ สส. มากขึ้น


วานนี้ (12 ต.ค. 66) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค (ที่ตั้งขึ้นมาใหม่) แถลงข่าวความคืบหน้า การสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สส.พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ โดยเป็นช่วงการแถลง และเปิดให้ซักถาม รวมทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที


นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา พรรคก้าวไกลกำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคาม และความรุนแรงทางเพศ ในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับประเทศ


แต่ปัญหากลับเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กรเราเอง สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือ การยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่องดังกล่าว หรือปกป้องคนในองค์กรที่กระทำผิด


ขณะนี้ สื่อมวลชนหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกรณีล่าสุด ที่ปรากฎในข่าว ที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศของ สส. ปราจีนบุรี วันนี้ พรรคจึงแถลงถึงภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้น และแนวทางของพรรค ในการแก้ไขปัญหา โดยขอแบ่งเนื้อหาการแถลงออกเป็น 3 ส่วนคือ


ส่วนที่หนึ่ง

บทสรุปของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ได้ข้อสรุปจาก กก.บห. พรรค ไปแล้ว 2 กรณี ตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ทางพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคุกคามทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย และกรรมการบริหารพรรคได้มีมติลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ใน 2 กรณี ได้แก่


กรณีที่ 1

ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงโดย นายสิริน สงวนสิน สส. กทม.พรรคก้าวไกล


ซึ่งทาง กก.บห. พรรค พบว่า นายสิริน ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหาย และได้กระทำความรุนแรงต่อผู้เสียหายจริง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณร่างกาย รวมไปถึงทรัพย์สิน


ทางพรรคจึงได้มีมติให้ลงโทษ นายสิริน โดยการตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที รวมทั้งตำแหน่งประธาน กมธ.ในสัดส่วนของพรรค


และกำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ สิริน กระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้งในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ทางพรรคจะยกระดับโทษเป็นการขับออกจากสมาชิกภาพ


กรณีที่ 2

ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศโดย นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ


ทาง กก.บห. พรรค พบว่า นายเกรียงไกร ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริงตามข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการละเมิดหลักเรื่องความยินยอม และสิทธิในเนื้อตัวและร่างกายของผู้เสียหายอย่างชัดเจน จึงได้มีมติให้ลงโทษโดยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที

----------

ส่วนที่สอง

สถานะและความคืบหน้าของข้อกล่าวหา เรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนโดย คกก. วินัยพรรค ซึ่งมี 2 กรณี


กรณีที่หนึ่ง

ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรค เมื่อเดือน ส.ค. โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม


ทางประธาน คกก. วินัยพรรค ได้ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ยอมรับว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล และทางพรรคเข้าใจว่าสังคมคงได้รับรู้และพิจารณาได้จากข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ปรากฎออกไปต่อสาธารณะ


โดย กระบวนการสอบข้อเท็จจริง และการวินิจฉัย จะได้ข้อสรุปภายใน ต.ค.นี้ และพรรคจะผลสรุปต่อสาธารณะโดยทันทีอย่างเปิดเผย พร้อมกับตอบทุกข้อสงสัยที่มีเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

กรณีที่สอง

ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย สส. อีก 1 คน ทางพรรคได้ทราบข้อมูลว่า ได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส. ของพรรคก้าวไกล


แม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรง จากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย แต่...ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทาง คกก. วินัย ของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้ อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ
----------

นายพริษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการปรับปรุงการทำงานของพรรคหลังจากนี้  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศในอนาคต แม้ทางพรรคได้มีการอบรมบุคลากรของพรรคมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ  และแม้ทางพรรคจะพยายามออกแบบกระบวนการสอบสวน ที่คำนึงถึงสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำ แต่การที่ตนต้องมาแถลงเรื่องนี้ในวันนี้ ก็เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจน ว่า เรายังทำได้ดีไม่พอ


หลังจากการหารือกันภายในมาเป็นระยะ ทางพรรคขอให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะดำเนินการปรับปรุงตนเองในการป้องกัน และรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ ผ่านมาตรการดังนี้


1. ทางพรรคจะปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการวินัยพรรค ผ่านการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการ ให้มีสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ไม่ได้เป็น สส. ของพรรค และไม่ใช่เพศชาย เพิ่มขึ้น


ซึ่งจะเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงเพิ่มกลไกตรวจสอบไม่ให้จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบโดยบุคลากรภายในพรรค


2. ทางพรรคจะทบทวนและพิจารณาปรับปรุงกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณา หรือดำเนินการใด ๆ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความจำเป็น ในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย


3. ทางพรรคจะเพิ่มความเข้มข้นของการอบรมบุคลากรของพรรคเรื่องการเคารพความเสมอภาคทางเพศ และสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย


โดยจะขยายทั้งจำนวนผู้เข้าร่วม ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนมากขึ้น เพิ่มความถี่ และรูปแบบของการอบรม และเพิ่มความละเอียดของเนื้อหาและหลักสูตร ที่จำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจ ที่ผ่านคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญภายนอก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองบุคลากร ให้คำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวมากขึ้น และไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการทำงาน


นายพริษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอยืนยันว่า พรรคก้าวไกลจะไม่หลบหนีจากปัญหาดังกล่าว แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าว และพรรคก้าวไกลจะไม่สร้างวัฒนธรรมการปกปิดการกระทำผิดของคนในองค์กร เพราะการปกปิดและการไม่มีมาตรการรับผิดเพียงเพราะกลัวองค์กรเสียชื่อเสียงต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุสำคัญในการส่งเสริมการคุกคามทางเพศ และการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลในสังคม

--------------

จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่า แม้จะยังไม่สิ้นสุด แต่เบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่าย ว่าอย่างไรบ้าง

นางสาวศศินันท์ กล่าวว่า จากที่มีการเปิดเผยแชตบางส่วนในโซเชียลมีเดีย แต่หลักฐานที่คณะกรรมการวินัยได้มามี 200 กว่าแผ่น ตอนแรกเข้าใจว่ามีแค่นั้น แต่จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่ามีพยานหลักฐานอื่นอีก


กระบวนการหลังจากนี้ เราต้องการข้อความในส่วนที่หายไปเพื่อมาประกอบกัน  แล้วดูว่าเป็นการคุกคามทางเพศหรือไม่ หรือมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่สามารถตัดสินได้หากยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน


เพียงแต่ตอนนี้ อยากมายอมรับกับสังคมว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และตั้งใจที่จะมีคณะกรรมการวินัยในสัดส่วนของผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น เพื่อมาจัดการกับปัญหาเรื่องนี้


ส่วนกรณีที่ นายวุฒิพงศ์ ออกมาโพสต์คลิปชี้แจง อ้างว่าเป็นการดิสเครดิตด้วย

นางสาวศศินันท์ กล่าวว่า เรื่องนี้เข้ามากลางเดือน ก.ค. ในช่วงแรกเหมือนจะเป็นการดิสเครดิต ก่อนจะมีเรื่องการคุกคามทางเพศเข้ามาด้วย จึงดูเหมือนมีการโยงหลายเรื่องรวมกัน ทำให้การพิจารณายากขึ้นไปอีก จึงต้องแยกส่วนกัน ทั้งเรื่องคุกคามทางเพศ และทางการเมือง


ซึ่งคณะกรรมการวินัยที่ตั้งมาเฉพาะกิจ จะพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นหลัก ทั้งเรื่อง Consent และ Power Dynamics ที่จะต้องเอามาพิจารณาในการตัดสินหรือกำหนดบทลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำความผิด


เมื่อถามว่า จะดิสเครดิตได้อย่างไร ในเมื่อผู้เสียหายทำงานกับพรรค

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ยังต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบ ไม่ใช่แค่ต้องการข้อสรุปว่าผิดหรือไม่ผิด หากผิดจะร้ายแรงขนาดไหน เพื่อให้การลงโทษเป็นไปตามสัดส่วนของความผิด


ส่วนข้อมูลที่นายวุฒิพงศ์แถลง ต้องย้ำว่า เป็นชุดคำอธิบายของนายวุฒิพงศ์ ที่ต้องมีการพิสูจน์ก่อนว่า จริงหรือไม่


ขณะที่นางสาวศศินันท์ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่นายวุฒิพงศ์กล่าวอ้าง ในกระบวนการสอบสวน ก็ให้เวลาในการหาพยานมารองรับ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย


ส่วนเรื่องการคุกคามทางเพศ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นแชทแบบไหน ก็ต้องให้เวลากับคณะกรรมการทั้งหมด ที่จะต้องพิสูจน์พยานหลักฐานด้วย


เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการภายในขึ้นมาตรวจสอบกันเอง จะทำให้มั่นใจได้อย่างไรว่า จะเกิดความโปร่งใส

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องแยก 2 ประการ


ประการแรก แม้จะเป็นกระบวนการสอบสวนภายใน เราก็ต้องทำเต็มที่ เพื่อให้กระบวนการดังกล่าวนำไปสู่ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย ซึ่งตนคิดว่า การเพิ่มผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จะทำให้มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบมากขึ้น


ประการที่ 2 แม้มีกระบวนการภายใน แต่เราก็ต้องเปิดต่อกระบวนการสอบสวนภายนอกเช่นกัน หากมีกระบวนการภายนอกเราก็พร้อมร่วมมือ การดำเนินการภายใน ไม่ได้มาแทนที่กระบวนการภายนอกที่สามารถเกิดขึ้นได้ เรายินดีให้ความร่วมมือ


เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรคก้าวไกลตอบสนองค่อนข้างเร็วในการตรวจสอบพรรคอื่น แต่เมื่อเป็นเรื่องภายในพรรค กลับตรวจสอบล่าช้า

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนน้อมรับคำวิจารณ์ และเราเห็นด้วยกับหลักการว่า เวลาเราเรียกร้องมาตรฐานที่ดีขึ้นจากสังคม ก็ต้องเรียกร้องมาตรฐานนั้นกับตนเองด้วย


อย่างที่ตนบอกว่า แต่ละกรณีมีระยะเวลาในการดำเนินการแตกต่างกัน รวมถึงการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไป ตนยืนยันว่า ไม่เคยมีเจตนาที่จะทำให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติล่าช้า เราจึงทำเต็มที่ให้ได้ข้อยุติเร็วที่สุด


ตอนนี้ อยู่ในขั้นตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่กรรมการบริหารพรรคยืนยันว่า จะให้มีข้อสรุปได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ก็ถูกนำมาพิจารณาประกอบการปรับปรุงกระบวนการในอนาคต


นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า โดยปกติเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยคณะกรรมการวินัย ก่อนจะส่งความเห็นให้คณะกรรมการบริหารตัดสินใจ


แต่จะมีบางกรณี ไม่ได้มีการยื่นเรื่องโดยผู้เสียหายโดยตรง แต่เมื่อทราบเหตุจากบุคคลอื่น พรรคก็ติดต่อผู้ที่อาจจะเป็นผู้เสียหายทันที เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบุคคลดังกล่าว เป็นการทำงานเชิงรุกด้วย ซึ่งตอนนี้ ก็อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ


เมื่อถามว่า พรรคชูเรื่องความเท่าเทียมมาตลอด แต่กลับมีประเด็นนี้

นางสาวศศินันท์ ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนใจของ สส.หญิงของพรรค เพราะเรายืนยันเรื่องนี้มาโดยตลอด เราอภิปรายเรื่องความรุนแรงในครอบครัว เรื่องเด็ก สตรี


“เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจ ที่เราต้องตอบสังคมให้ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราได้รับคำแนะนำ เมื่อก่อนกรรมการวินัยมีสัดส่วนผู้หญิงน้อยมาก ก็ได้เพิ่มสัดส่วนผู้หญิงขึ้นมา ซึ่งดิฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น กรณีแรกเป็นเรื่องที่ชัยภูมิ” นางสาวศศินันท์ กล่าว


นางสาวศศินันท์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีผู้หญิงในกรรมการวินัยมากขึ้น อาจจะทำให้ผลที่ออกมาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สังคมเข้าใจมากขึ้น เราอาจจะไม่สามารถคุมคนทุกคนได้ เราไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดร่วมกันได้ ก็ต้องมีการเรียนรู้ปรับปรุงต่อไป จะได้ยกระดับความรับผิดชอบของ สส. มากขึ้นด้วย


ขณะที่นายพริษฐ์ทิ้งท้ายว่า สุดท้ายแล้วความเชื่อมั่นของประชาชนขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ


ส่วนที่ถูกมองว่า พรรคก้าวไกลมักจะใช้วิธีการสื่อสารทางเดียวเมื่อเกิดปัญหา นายพริษฐ์ ยืนยันว่า สิ่งสำคัญคือการเผชิญ ซึ่งวิธีการหนึ่งคือการตอบทุกคำถามที่สังคมหรือสื่อถามแทนประชาชน วันนี้ เราจึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้  

----------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/efwfHvgBH9Q

คุณอาจสนใจ

Related News