เลือกตั้งและการเมือง

'ปิยบุตร' ซัด 'ก้าวไกล' ไร้น้ำใจ ปิดปากเงียบปมตัดสิทธิ์ 'ช่อ' ด้าน 'ปารีณา' ชี้ไม่มีที่ไหนในโลก แจ้งดำเนินคดีจริยธรรม

โดย petchpawee_k

21 ก.ย. 2566

1.7K views

'ปิยบุตร' อัด 'ก้าวไกล' ไร้น้ำใจ ปิดปากเงียบปม 'ช่อ พรรณิการ์' ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีพ เหน็บทีเรื่องอื่นตอบโต้ไว มองไม่เกี่ยวกับสถานะสมาชิกพรรค ลั่นเขาก็ไปช่วยหาเสียง เตรียมไลฟ์อรรถาธิบายหมดเปลือก 2-3 วันนี้  ด้าน ปารีณา ไม่เห็นด้วยช่อถูกตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีพ ชี้ไม่มีใครในโลกเขาทำกัน

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และแกนนำคณะก้าวหน้า ในความผิดฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีการโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากที่มีลักษณะเป็นการพาดพิงสถาบัน


ทั้งนี้ ศาลได้มีคำพิพากษาว่านางสาวพรรณิการ์ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย โดยให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไปและไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


สำหรับคดีดังกล่าวนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบนางสาวพรรณิการ์ จากการโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในสื่อโซเชียลอันที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องสถาบันอย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการหรือการกระทำที่สอบไปในทางขัดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง


ซึ่ง ป.ป.ช.ได้มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดว่านางสาวพรรณิการ์ผิดจริยธรรมร้ายแรงตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ 2561

--------------------------------------

ขณะที่  น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ถูกถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

โดยระบุว่า “#จริยธรรม #ช่อ ช่อถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต ด้วยรัฐธรรมนูญกำหนดให้ศาลฏีกาเป็นผู้กำหนดมาตราฐานจริยธรรม แน่นอนด้วยขนบธรรมเนียม ศาสนา ความคิด หากผู้ใดถูกชี้มูลเรื่องจริยธรรมแล้ว จะไม่มีใครรอดแน่นอน


คำถามคือ ทำไมปารีณาจึงเป็นคนแรกที่ถูกตัดสินจริยธรรม ทำไมเป็นช่อ หรือว่าปารีณากับช่อ เป็นเพียงตัวสร้างความชอบธรรมให้นำกฏหมายมาใช้เป็นเครื่องมือใช่ไหม?? จริยธรรมมันครอบจักรวาล เอาไปล่อใครก็ได้ สำคัญสุด จริยธรรมนี้อาจถูกนำไปใช้กับ #ธนาธร พ่อหนุ่มทรงพลัง ผู้มีความสามารถขับเคลื่อนความคิดของเยาวชนเกือบ..ทั้ง..ประ..เทศ นี่ขนาดอยู่เบื้องหลังนะ จะให้ออกมายืนไม่ได้. ต้องเก็บกดปิดกั้นไว้… น่ากลัว


โดยส่วนตัว ถึงจะหนำใจแต่..ไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิ์ช่อครั้งนี้ เพราะกฏหมายจริยธรรมไม่เป็นสากล. ไม่มีที่ไหนในโลกเขาไปแจ้งดำเนินคดีจริยธรรมกัน เพราะถ้านักการเมืองทำผิด ก็ว่ากันไปเรื่องอาญา เรื่องแพ่งเทียบเคียงหากช่อผิดกฏหมายจริงก็ควรเอาไปปรับ หรือเอาไปติดคุก ไม่ใช่มาตัดสิทธิ์ด้วยจริยธรรม เฉกเช่นสหรัฐอเมริกา ที่มีกฏหมายคุ้มครองผู้นำสูงสุดของประเทศ ที่ทำให้พวกชอบโพสต์ หรือพูดจาละเมิดติดคุกมาแล้ว”

------------------------

ย้อนดูอดีตนักการเมือง ถูกพิพากษา เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต 

นอกจาก ปารีณา ไกรคุปต์ ที่โดนตัดสิทธิ์กรณี บุกรุกพื้นที่ป่าราชบุรี  และ พรรณิการ์ วานิช ที่เพิ่งโดนตัดสิทธิ์ เนื่องจากโพสต์พาดพิงสถาบันก็ยังมีอดีตนักการเมืองอีกหลายรายที่ถูกตัดสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ 


กนกวรรณ วิลาวัลย์ คดีรุกป่าเขาใหญ่

 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง


ต่อมา ศาลฎีกาพิพากษาว่า นางกนกวรรณฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้พ้นจากตำเเหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา 26 สิงหาคม 2565 ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป รวมถึงไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคสี่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี


อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ – ตบทรัพย์ 5 ล้าน อธิบดีน้ำบาดาล

นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีการเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ


ต่อมา ศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่า นายอนุรักษ์ ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้พ้นจาก ตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา


ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ – เสียบบัตรแทนกัน


 นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยื่นคำร้อง มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีเสียบบัตร ส.ส. แทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร


ศาลพิพากษาว่า นางสาวธนิกานต์ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กร อิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 6-8 ประกอบข้อ 27 วรรคหนึ่ง ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ 11 ส.ค.64 อันเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไป และ ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลา 10 ปี

-----------------------------------------


หลังทราบคำตัดสินของศาล น.ส.พรรณิการ์ โพสต์ภาพตนเองระหว่างทำหน้าที่ผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกลคู่กับนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ลงบนเฟซบุ๊ก รวมถึงโพสต์ภาพตนเอง ในอินสตราแกรม พร้อมข้อความเดียวกัน ถึงกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ระบุว่า


“ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความเป็นห่วงจากทุกๆ ช่องทางค่ะ คำพิพากษาศาลในวันนี้ เป็นการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หมายความว่า ลงสมัคร ส.ส. หรือแข่งขันการเลือกตั้งทุกระดับไม่ได้ รับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่สำหรับงานการเมืองที่ทำอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครมาพรากสิทธิไปจากช่อได้ค่ะ


ทุกอย่างจึงยังเหมือนเดิมทุกประการ ภารกิจการเมืองของช่อในนามคณะก้าวหน้ายังดำเนินต่อไป  รวมถึงการเป็นผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


เราเดินทางมาไกลขนาดนี้ จะไม่หยุดเดินกลางคันจนกว่าจะถึงเส้นชัย ตัวเราอยู่ตรงไหน ตำแหน่งใด ไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือประเทศไปได้ไกลแค่ไหนต่างหาก


ปล. คดีนี้เกิดจากโพสต์เฟซบุ๊กของช่อตั้งแต่สมัยก่อนเป็น ส.ส. มีการดำเนินคดีทั้งคดีอาญา ข้อหาผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และคดีจริยธรรมนักการเมือง ก่อนหน้านี้ศาลอาญายกฟ้องคดี พ.ร.บ. คอมฯ ไปแล้วนะคะ แต่อัยการยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องสู้กันต่อ ส่วนคำพิพากษาที่ออกวันนี้เป็นการตัดสินว่าผิดจริยธรรม ส.ส. ค่ะ”

-------------------------------------------


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้า ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ว่า


ผมทราบข่าวกรณี คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช ตั้งแต่บ่ายสามแล้ว แต่จงใจยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ เพราะอยากรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะมีการสื่อสารแบบเป็นทางการออกมาบ้างหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ ไม่มีเลย พบเห็นแค่มี สส.บางคนแสดงความไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง แต่ไม่มีการแถลงหรือวิจารณ์ใด ๆ ออกจากพรรคก้าวไกลแม้แต่น้อย


อย่าใช้เหตุผลนะครับว่า คุณช่อไม่ใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล นั่นคนละเรื่องเลย พรรคการเมืองสามารถแสดงความเห็นได้อยู่แล้ว ยังไม่นับว่าคุณช่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกลด้วย ในขณะที่ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนพรรคอื่น ยังแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง แต่พรรคก้าวไกลกลับ "เงียบกริบ" เงียบจนผมรู้สึกว่า "ไร้น้ำใจ" กับพรรณิการ์ วานิช จนเกินไป


ในเมื่อพรรคก้าวไกลไม่พูดอะไรเลย ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมแถลงวิจารณ์คดีนี้เอง วันสองวันนี้ ผมจะไลฟ์ อรรถาธิบายทั้งหมดครับ


ระหว่างนี้ อ่านข้อเขียนที่ผมเคยวิจารณ์สมัยที่ คุณปารีณา ไกรคุปต์ ถูกศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไปพลางก่อนได้ครับ


จากนั้น นายปิยบุตร ได้เขียนข้อความเพิ่มเติมในช่องแสดงความคิดเห็นว่า สำหรับท่านที่เห็นว่า ต้องให้เวลา คนของพรรคเสียหน่อย แต่ทำไมเรื่องอื่น พรรคตอบโต้ได้เร็วล่ะครับ ยังไม่ต้องถึงขนาดวิจารณ์แบบวิชาการลงละเอียดก็ได้ ขอแค่แสดงจุดยืนก็ยังดี มีแต่ สส.บางคนแสดงความเห็นกันเอง แล้วก็สะเปะสะปะ ไม่มีทิศทางด้วย


พรรคก้าวไกลได้โอกาส "ฮันนีมูน" จากผู้สนับสนุน พร้อมจะแก้ต่างและเข้าใจไปเสียทั้งหมดได้ แต่ต่อไปช่วงเวลา "ฮันนีมูน" จะค่อย ๆ หมดลง พรรคก็ควรคิดจริงจังเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว


สำหรับผม ถ้าพรรคไม่พร้อม ไม่มีคนโต้ศาลได้ อย่างน้อยแสดงจุดยืนบ้างก็ยังดี ในเมื่อพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องทำรัฐธรรมนูญใหม่ เรื่องโต้แย้งความผิดปกติของรัฐธรรมนูญ 60 แต่พอเกิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก กลับเงียบกริบ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yA6cq4gWZh8


คุณอาจสนใจ

Related News