เลือกตั้งและการเมือง
‘ณัฐชา’ เชื่อเบื้องหลัง สว.หนุน ‘เศรษฐา’ มีเจรจานอกรอบ ชี้ทะเลาะกันมา 10 ปี จะมาดีกันได้อย่างไร
25 ส.ค. 2566
3.2K views
‘ณัฐชา’ เชื่อ สว.หนุน ‘เศรษฐา’ ฉลุยนายกฯ มีเบื้องหลัง สงสัยทะเลาะกันมาสิบปีจะมาดีกันได้อย่างไร ชี้ร่าง รธน.ฉบับใหม่ไม่สำคัญว่าจะแก้ได้หรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับที่มา ส.ส.ร.
วานนี้ (วันที่ 24 ส.ค.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเข้าพบพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ว่า การส่งมอบอำนาจไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่ครั้งนี้ถือเป็นอำนาจใหม่ที่ประชาชนอย่างเคลือบแคลงสงสัย เพราะพลเอกประยุทธ์ ได้อำนาจ โดยการยึดมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และได้ยึดครองอำนาจมานานกว่า 9 ปี ก่อนจะส่งมอบให้กับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง จึงยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในหลายๆขั้นตอน
ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าการเข้าพบในครั้งนี้ อาจเพื่อขอบคุณเสียงสนับสนุนจาก สว. สายพลเอกประยุทธ์ นั้น นายณัฐชา กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ ว่าพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะต้องมีเรื่องของ สว. เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 22 ส.ค. ตนได้พูดคุยกับสว. ที่รู้จักหลายคน ขณะนั้นยังไม่มีสัญญาณ ว่าจะโหวตให้นายเศรษฐาหรือไม่
จนถึงกระทั่ง 11.00 น. สว.หลายคนยังคงอภิปรายในลักษณะที่ไม่เห็นชอบกับนายเศรษฐา จนสุดท้ายในเวลา 13.00 น. ถึงมีสัญญาณที่จะโหวตให้นายเศรษฐา ดังนั้นจึงมีความชัดเจนว่าในช่วงเวลาตั้งแต่ 11.00 – 13.00 น จะต้องมีการเจรจานอกรอบอย่างแน่นอน
การที่อ้างว่าพรรคขั้วตรงข้ามมาอยู่ในรัฐบาลเดียวกัน ถือเป็นนิมิตรใหม่ที่ดี นั้น นายณัฐชา มองว่า คำว่าสมานฉันท์ปรองดองเป็นความหมายที่ดี แต่ก็ต้องดูว่า เบื้องหลังความสมานฉันท์นั้นมีการกระทำอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อประชาชนเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ
ฉะนั้นจะต้องทราบให้ได้ว่า เบื้องหลังการสมานฉันปรองดองของคนที่ขัดแย้งกันมานานกว่า 10 ปี สุดท้ายมาจับมือกัน อ้างว่าเพื่อทลายความขัดแย้งคงจะต้องมีข้อเจรจาที่ตกลงกันได้ แต่เรื่องอะไรนั้นคือสิ่งที่ประชาชนยังไม่ทราบ ยิ่งหน้าตาของรัฐมนตรีทั้ง 35 คน ออกมาก็จะยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ว่าภายใต้การเจรจาต่อรองจะมีเรื่องอะไรบ้าง และเป็นคำตอบให้กับประชาชนว่ารัฐบาลชุดนี้วางอยู่บนความไว้วางใจของประชาชนหรือไม่
ในส่วนของพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นฝ่ายค้านก็จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก มีการเสนอกฎหมายต่างๆที่เคยได้หาเสียงกับประชาชนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เคยประกาศไว้ว่าจะตั้ง ส.ส.ร. มาแก้ไขทั้งฉบับนั้น ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่เคยประกาศว่าจะ จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วาระแรก ก็เชื่อว่าจะ ทำได้อย่างแน่นอน ถ้ามีความตั้งใจ แต่จากนี้ก็ต้องดูความจริงใจด้วยซึ่งจะดูได้จากที่มาของ ส.ส.ร.
พร้อมกันนี้นายณัฐชา ยังกล่าวถึง ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ของนายประดิพัทธ์ สันติภาดา ว่า ตอนนี้จะยังให้นายปดิพัทธ์ ทำหน้าที่ต่อไปเนื่องจากเป็นกลไกที่ได้มาโดยชอบ ส่วนกติกาที่ว่าพักฝ่ายค้านไม่สามารถเป็นประธานรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นั้นข้อเท็จจริงคือขณะนี้พรรคก้าวไกล ยังพูดว่าเป็นฝ่ายค้านได้ไม่เต็มปาก เพราะพรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 จะเป็นประธานสภาก็ถูกกีดกัน ขอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ ล่าสุดขอบเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้เป็น ต่อมาจะขอเป็นฝ่ายค้านก็ยังถูกกฎกติกาบังคับ
ดังนั้นจากนี้พรรคก้าวไกลคงจะเป็นฝ่ายค้านโดยการกระทำ แต่นิตินัยยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังคงสนับสนุนให้นายประดิพัทธ์ ปฏิบัติหน้าที่รองประธานคนที่ 1 อย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ส่วนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเนื่องจากกติกากำหนดให้ ต้องเป็นหัวหน้าพรรคของ ส.ส. ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ซึ่งตอนนี้นายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ ยังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่อยู่ พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้เนื่องจากกติกากำหนดให้เป็นหัวหน้าของพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน และตอนนี้ ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากยังไม่รู้สถานะที่ชัดเจน เนื่องจากในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็มีการแสดงออกที่หลากหลาย
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Wz9OaE-KtVo